พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 312

พูดจบ เธอก็ออกไปด้วยความโมโห

วารุณีมองแล้วยิ้มให้นัทธีอย่างทำอะไรไม่ได้“โอเค งั้นพวกเราสองคนส่งเด็กๆไปโรงเรียนละกัน”

นัทธีตอบอือ แสดงออกว่าไม่มีความเห็นใดๆ

ดังนั้นสองสามีภรรยา จึงพาเด็กทั้งสองคนขึ้นรถ ขับไปที่โรงเรียนอนุบาล

จนส่งเด็กทั้งสองคนไปที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว นัทธีก็ส่งวารุณีไปที่บริษัท แล้วจึงขับรถไปบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป

ปาจรีย์ไปเยี่ยมพงศกรที่ต่างประเทศแล้ว ทั้งงานเล็กและงานใหญ่ในบริษัท ก็ถูกผลักมาที่วารุณีคนเดียว ทำให้เธอยุ่งจนแทบหัวหมุน

เดี๋ยวต้องแก้ภาพออกแบบที่เหล่าดีไซเนอร์ด้านล่างส่งมาให้ เดี๋ยวก็ต้องติดต่อกับทางโรงงาน สอบถามปัญหาของเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ แล้วก็ยังต้องสู้กับบริษัทเครื่องแต่งกายอื่นๆในอินเทอร์เน็ต เพื่อแย่งชิงโควตาที่ประเทศสนับสนุน จนกระทั่งบ่ายสอง เธอถึงได้มีโอกาสได้พักหายใจ

“ฐานิดา”วารุณีเปิดประตูออฟฟิศ แล้วตะโกนเรียกผู้ช่วยในออฟฟิศที่อยู่ด้านนอก

ฐานิดายืนขึ้นแล้วเดินเข้ามา“พี่วารุณี มีอะไรจะกำชับไหมคะ?”

“เธอช่วยไปซื้อข้าวให้พี่หน่อยสิ”วารุณีทุบไหล่ที่ปวดเล็กน้อย

“ค่ะ”ฐานิดาตอบรับ แล้วออกไปทันที

แป๊บเดียว แค่ครึ่งชั่วโมง ก็ซื้อข้าวกลางวันกลับมา

วารุณีพูดขอบคุณเสร็จ ก็ถืออาหารเที่ยงกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง เปิดฝากล่องข้าว แล้วโทรศัพท์ข้างๆก็ดังขึ้นมา

วารุณีเหลือบมอง ก็เห็นเป็นเบอร์แปลกหน้า ด้านล่างเบอร์ไม่มีบันทึกว่าเป็นเบอร์โปรโมตการขาย แต่บันทึกไว้ว่าเป็นเบอร์ของทางการ ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเล หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”

“ขอโทษนะครับใช่คุณวารุณีไหม?”ชายหนุ่มที่ปลายสายถาม

วารุณีเอาโทรศัพท์แนบไว้ระหว่างหูกับไหล่ ปล่อยมือสองข้างออกเอียงหัวลงแล้วหักตะเกียบออก“ค่ะฉันเอง ขอโทษนะคะคุณคือ?”

“ผมโทรมาจากสถานีตำรวจ”ชายหนุ่มที่ปลายสายตอบ

ตะเกียบที่มือวารุณีหักออกทันที ในใจก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

เธอรีบเอาตะเกียบที่หักวางไว้ที่โต๊ะ ใช้มือจับโทรศัพท์ไว้ รีบถามไปว่า“ขอโทษนะคะคุณตำรวจโทรมาหาฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

“มีข่าวร้ายครับ คุณวารุณีกรุณาทำใจดีๆนะครับ”เสียงของตำรวจก็กลายเป็นทุ้มลงเยอะ

ข่าวร้าย?

และยังทำใจดีๆอีก?

หัวใจของวารุณีพองโตขึ้นมาทันที มือที่คว้าโทรศัพท์ไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะจับแน่นขึ้นมาเยอะ“ฉันทำใจดีๆไว้แล้ว กรุณาพูดมาเถอะค่ะ”

“ครับ”ตำรวจพยักหน้า จากนั้นถาม:“คุณวรยาใช่แม่ของคุณไหม?”

“ใช่ค่ะ เธอเป็นอะไรคะ?”วารุณีถามอย่างกังวล

คงไม่ใช่ว่าทะเลาะที่ตระกูลศรีสุขคํา แล้วตระกูลศรีสุขคําแจ้งความ จับตัวไปที่โรงพักหรอกนะ

ดังนั้นจึงจะให้เธอไปประกันตัวที่โรงพักสินะ?

ตำรวจที่อยู่ปลายสายเงียบลงไปก่อนแป๊บหนึ่ง จากนั้นเหมือนสูดลมหายใจเข้า แล้วจึงพูดไปใหม่“แม่ของคุณ......ตกลงมาจากบันได ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล!”

“คุณพูดอะไรนะคะ?”สีหน้าวารุณีนิ่งไป

ตำรวจคิดว่าเธอได้ยินไม่ชัด ก็เลยพูดประโยคเมื่อกี๊ไปอีกรอบ“ตอนนี้แม่ของคุณกำลังถูกช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล!”

ตอนนี้ วารุณีไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกแล้ว ในหัวก็มีเสียงดังตูมขึ้นมา รู้สึกว่าโลกทั้งใบทั้งหมุนลง เยือกเย็นไปทั้งตัว

แม่ตกลงมาจากบันได กำลังช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล?

ตำรวจที่อยู่ปลายสายเห็นวารุณีจู่ๆก็ไม่ส่งเสียง เลยกังวลเล็กน้อย รีบตะโกนไปว่า:“คุณวารุณี คุณวารุณียังอยู่ไหม?”

วารุณีได้ยินเสียงของเขา ก็พยายามคืนสติกลับมา สูดลมหายใจเข้าลึกๆอดทนความตื่นตระหนกในใจและน้ำตาที่จะไหลออกมาจากเบ้าตา จับโทรศัพท์ไว้แน่นๆ ถามเสียงสั่นว่า“ฉันยังอยู่ค่ะ คุณตำรวจคะ กรุณาบอกฉันที แม่ฉันอยู่โรงพยาบาลไหน?”

“โรงพยาบาลกลางประจำจังหวัด”ตำรวจตอบ

เป็นโรงพยาบาลของพิชิต!

“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะคุณตำรวจ”วารุณีก็ไม่สนที่จะถามว่าวรยาตกบันไดได้อย่างไร เธอรีบวางสาย แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาวิ่งออกไปจากออฟฟิศ จะรีบไปที่โรงพยาบาล

สำหรับเธอแล้ว ตกบันไดอย่างไรไม่สำคัญ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ