แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 123

“นายท่านเกอ พวกเขาพูดใส่ร้าย นายมาร์ควิสไม่เคยกระทำเรื่องพวกนี้ ขอนายท่านเกอให้ความเป็นธรรม”

ในขณะที่เกอเฉิงฮุยไม่รู้จะทำยังไง มู่กุ้ยผิงพูดขึ้นมา ตอนที่พูดเช่นนี้ สีหน้ามู่กุ้ยผิงร่มรื่น ร่างกายยืดตรง แสดงท่าทีสูงส่ง

เกอเฉิงฮุยใช้ประโยชน์จากที่เอื้ออำนวย รีบพูดเสริมขึ้นว่า “ใช่ พวกเขาต้องสร้างเรื่องใส่ร้ายป้ายสีแน่ ทหาร ลากคนพวกนี้ออกไป โบยคนล่ะห้าสิบที ข้าจะรอดูว่าพวกเขาจะยอมพูดความจริงไหม”

เกอเฉิงฮุยพูดออกมาเช่นนี้ สีหน้าคนที่คุกเข่าอยู่หน้าศาลต่างเปลี่ยนไป

โบยตีห้าสิบที คนคนนี้จะยังมีชีวิตรอดหรือ?

สีหน้าลั่วเสี่ยวปิงก็เครียด เห็นทีเจ้าเมืองคนนี้ต้องการที่จะปกปิดความจริงอย่างโจ่งแจ้งแล้ว

“ข้าไม่เคยรู้มาก่อน นายท่านเกอตัดสินคดีกันแบบนี้”

ทุกคนต่างหันไปมอง กลับเห็นตรงหน้าประตู มีชายคนหนึ่งอายุราวประมาณสามสิบ สวมชุดข้าราชการลายสิงโตกำลังเดินเข้ามา

เห็นมีคนมา สีหน้าเกอเฉิงฮุยกับมู่กุ้ยผิงต่างเปลี่ยนไป

เกอเฉิงฮุยอึ้งไปสักพัก แล้วรีบเดินออกมาจากที่นั่ง เดินไปทำความเคารพ

“ข้าน้อยทำความเคารพนายท่านสวินฝู่“

คนที่มาคือสวินฝู่เซี่ยงเซียวเซียนที่ดูแลปกครองหยงโจวและเหลียงโจวสองแคว้น

เซี่ยงเซียวเซียนมองดูเกอเฉิงฮุยด้วยสายตาเยือกเย็น เดินผ่านเกอเฉิงฮุยไปนั่งลงตรงหลังโต๊ะ

เกอเฉิงฮุยตื่นตระหนกตกใจ ตกใจจนเหงื่อไหลชุ่ม กลับยังคงต้องรักษาท่าที่ทำความเคารพค้างไว้

เซี่ยงเซียวเซียนกลับเหมือนลืมเกอเฉิงฮุยคนนี้ไปแล้ว มองดูหน้าศาล สายตากวาดมองดูทุกคนที่ยืนอยู่พวกนั้นหนึ่งรอบ แล้วมาหยุดอยู่ที่ลั่วเสี่ยวปิง

ดูสวยงดงามจริงๆ

แต่ในเมืองหลวง สาวงามแบบไหนจะไม่มี? ผู้หญิงคนนี้หากอาศัยเพียงหน้าตาก็สามารถทำให้ต้นไม้เหล็กออกดอกได้ พูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อ

เซี่ยงเซียวเซียนจ้องมองดูลั่วเสี่ยวปิง ราวกับจะดูให้ชัดเจนว่า ลั่วเสี่ยวปิงคนนี้มีอะไรไม่ธรรมดาแตกต่างจากคนอื่น

แต่สายตาเซี่ยงเซียวเซียนจดจ่อเกินไป ดังนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว

เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาเย็นชาของฉีเทียนเห้า

คิดถึงครั้งก่อน ตนเองมีประสบการณ์ที่เห็นสายตาแบบนี้ เซี่ยงเซียวเซียนอดไม่ได้ที่จะขนลุกไปทั้งตัว นั่นถือเป็นฝันร้ายของเขา เขาเพียงแค่แปลกใจว่าผู้หญิงยังไงที่ทำให้เขาสั่งคนตามให้เขารีบมา ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นจริงๆ และก็ไม่ได้คิดที่จะแย่งของใคร….

ในใจเซี่ยงเซียวเซียนอยากร้องไห้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆ กำลังหันสายตาไปจากฉีเทียนเห้า จ้องมองกลุ่มคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าพร้อมพูดขึ้นว่า “ใครคือผู้กล่าวหา?”

น้ำเสียงเคร่งขรึม พูดออกมาแล้วก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความมีอำนาจของตำแหน่ง

แต่ว่าเวลานี้สายตาของเซี่ยงเซียวเซียนกลับไม่กล้ามองดูลั่วเสี่ยวปิง เขากลัวว่าจะถูกคนบางคนเกลียดแค้นขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นตนเองก็จะได้รับภารกิจที่ไม่สามารถทำได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ

สายตาเซี่ยงเซียวเซียนที่มองดูลั่วเสี่ยวปิงก่อนหน้านี้ ลั่วเสี่ยวปิงรู้ตัว แต่เซี่ยงเซียวเซียนชำนาญในการปกปิดอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงจึงมองไม่เห็นถึงความผิดปกติ

ได้ยินเซี่ยงเซียวเซียนถามเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงพูดขึ้นว่า “เรียนใต้เท้า ข้าน้อยเอง”

สายตาเซี่ยงเซียวเซียนมองดูลั่วเสี่ยวปิงแวบเดียว จากนั้นก็รีบหันไปทางอื่น แต่เมื่อสายตามองผ่านไปแล้ว เซี่ยงเซียวเซียนกลับมองเห็นอานอานที่อยู่ด้านข้างลั่วเสี่ยวปิง แล้วก็ตื่นตระหนกตกใจสั่นสะเทือน

กลัวว่าคนอื่นจะมองเห็นถึงความผิดปกติ เซี่ยงเซียวเซียนพยายามอย่างสุดขีด เพื่อระงับไม่ให้ตนเองแสดงท่าทีแปลกประหลาดใจออกมา

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถึงว่า….มิน่าล่ะ….

เซี่ยงเซียวเซียนไม่ได้ชักช้า รีบพูดขึ้นว่า “ความเดือดร้อนของเจ้ากับลูกชายข้าพอรู้มาบ้างแล้ว พวกเจ้าได้รับความตกใจ จึงไม่ต้องคุกเข่าแล้วลุกขึ้นมาพูดเถอะ”

ให้ความกล้าเขาอีก 10 เท่า เขาก็ไม่กล้าให้ผู้หญิงคนนั้นกับลูกชายคุกเข่าให้กับตนเอง นอกเสียจากไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซี่ยงเซียวเซียนหันไปมองเกอเฉิงฮุยที่คงเห็นว่าตนอายุยืน ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความสงสารพร้อมพูดขึ้นว่า “นายท่านเกอทำไมยังยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ? นั่งลงฟังคำสืบสวนสิ”

เกอเฉิงฮุย “….” เขาอยากยืนอยู่แบบนี้หรือ?

ส่วนลั่วเสี่ยวปิง ได้ยินว่าตนเองไม่ต้องคุกเข่าก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง

ยังจะทำอย่างไรได้อีก?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง