แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 129

ฉีเทียนเห้ามองดูลั่วเสี่ยวปิง มองดูท่าทีลั่วเสี่ยวปิง ก็พอคาดเดาได้ว่าในใจลั่วเสี่ยวปิงคิดอะไรอยู่ จึงพูดขึ้นว่า “ข้าเคยช่วยชีวิตเซี่ยงเซียวเซียนในสนามรบ เขาติดหนี้บุญคุณข้า”

คำพูดนี้ไม่ถือว่าเป็นการโกหก

ใช่ว่าเขาไม่อยากบอกสถานะของตนเองให้นางรู้ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา

ตอนนี้ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง คนที่รู้ถึงสถานะของเขายิ่งน้อยก็ยิ่งดี

ได้ยินฉีเทียนเห้าพูดเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สงสัยอะไร แต่ยิ่งสงสัยสถานะของฉีเทียนเห้าเพิ่มมากขึ้น

ในสนามรบ นั่นก็แสดงว่า ฉีเทียนเห้าอาจจะเป็นแม่ทัพคนหนึ่ง

ได้รับอิทธิพลจากการศึกษาภายใต้ธงชาติแดง ลั่วเสี่ยวปิงเคารพและให้เกียรติคนที่เป็นทหารอย่างมาก ดังนั้นแววตาที่มองดูฉีเทียนเห้า ก็เป็นประกายแวววาวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ฉีเทียนเห้ามองดูท่าทีที่เปลี่ยนไปของลั่วเสี่ยวปิง ด้วยสายตาฉายแววสงสัย

คำตอบของตนเองมีปัญหาตรงไหนหรือ?

ฉีเทียนเห้าไม่ถามอะไร เพราะในแววตาลั่วเสี่ยวปิงตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่อยากละสายตาอย่างบอกไม่ถูก

มีความรู้สึกเหมือนอยากโอบกอดแนบอก

คิดอยู่เช่นนี้ ฉีเทียนเห้าก็อยากทำเช่นนี้

แต่....

“แม่ เราจะกลับเมื่อไหร่?” อานอานที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นมา

ถึงแม้อานอานกำลังถามลั่วเสี่ยวปิง แต่สายตากลับหันไปมองฉีเทียนเห้า ขมวดคิ้วบอมบอกว่าเวลานี้เขาไม่พอใจ

เมื่อกี้เขามองเห็นแล้ว สายตาที่พ่อมองแม่ ราวกับสุนัขในหมู่บ้านเวลามองเห็นเนื้อกระดูก

แม่เป็นของเขา นอกจากเล่อเล่อ ใครก็ห้ามแย่งเขา

คิดอยู่เช่นนี้ อานอานหลบสายตา หันไปมองลั่วเสี่ยวปิงด้วยสีหน้าโศกเศร้า พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ ข้าคิดถึงน้องสาวแล้ว น้องสาวไม่เห็นพวกเราตั้งหลายวันจะต้องทรมานอย่างมากแน่ เราไปซื้อของไปฝากน้องแล้วก็กลับกันไหม?”

ลั่วเสี่ยวปิงไม่รู้ความเคลื่อนไหวระหว่างพวกเขาสองพ่อลูก เมื่อได้ยินอานอานพูดเช่นนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ฟัง

ในเมื่อเรื่องราวคลี่คลายแล้วระดับหนึ่ง นางก็ควรที่จะรีบกลับไป

แต่ยังไงก็มาถึงเมืองใหญ่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปมือเปล่า นางอยากไปดูร้านขายเมล็ดพันธุ์ว่ามีเมล็ดพันธุ์อะไรที่ดีไหม

ดังนั้นรถม้าจึงเปลี่ยนเส้นทาง วิ่งไปยังในตลาด

ตลอดทาง อานอานที่เงียบสงบมาตลอด จูงมือลั่วเสี่ยวปิงแล้วก็ซื้ออย่างเดียว แน่นอน ล้วนเป็นสิ่งของที่เลือกซื้อให้กับเล่อเล่อ

ส่วนฉีเทียนเห้าที่เดินตามอยู่ด้านหลังสองแม่ลูก นอกจากสามารถช่วยหิ้วของแล้ว ก็ราวกับถูกลืมไปแล้ว นี่ทำให้ฉีเทียนเห้ามองดูอานอาน ที่เป็นตัวการของปัญหาด้วยความรู้สึกกัดฟันพูดไม่ออก

แต่เมื่อคิดได้ว่าเจ้าเด็กนั่นอาจจะเป็นลูกของตนเอง ความไม่พอใจในใจฉีเทียนเห้าก็ถูกยับยั้งลงไป

รอพวกลั่วเสี่ยวปิงกับอานอานกลับมาถึงหมู่บ้านต้าซิง ก็เป็นหลังเที่ยงวันที่สองแล้ว

เพราะที่บ้านลั่วเสี่ยวปิงไม่มีคน หลายวันมานี้พวกชาวบ้านก็ไม่มีรายได้ ดังนั้นตรงหน้าหมู่บ้านก็จะมีคนมาคอยดูว่าลั่วเสี่ยวปิงกลับมาหรือยัง

ดังนั้นเมื่อรถม้าพวกลั่วเสี่ยวปิง มาหยุดตรงหน้าบ้านของตนเอง ก็มีคนในหมู่บ้านล้อมมาหาไม่น้อย

“อ้า ขอบคุณฟ้าดิน อานอานกลับมาแล้ว” มีคนเห็นอานอานแล้วก็ร้องตะโกนพูดขึ้น

“ได้ยินว่าอานอานถูกนายท่านจางในเมืองลักพาตัวไป นายท่านจางคนนี้เหี้ยมโหดอำมหิตจริงๆ แต่อานอานสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย จะต้องมีบุญวาสนาในภายหลังอย่างแน่นอน”

“ใช่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินว่ามีเด็กคนไหน ที่ถูกลักพาตัวไปแล้วยังสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย”

“……”

ทุกคนต่างพูดกันไปมา ส่วนใหญ่ล้วนดีใจยินดีกับอานอาน

หากเป็นเมื่อก่อน คนในหมู่บ้านแทบจะไม่สนใจลั่วเสี่ยวปิงสามแม่ลูก แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ลั่วเสี่ยวปิงทำให้คนในหมู่บ้านมีรายได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นทุกคนจึงเป็นห่วงเป็นใหญ่พวกเขาขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง