บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 397

หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าเขาตัดสินด้วยความคิดเห็นส่วนตัว “ไม่ใช่ การเผชิญหน้าต้องดูเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้บาดแผลของนางยังไม่หายดี สำหรับนางแล้ว นอกจากจะผ่านความเป็นความตายแล้ว ยังเคยผ่านความสิ้นหวังและเจ็บปวดมา การเผชิญหน้ากันตอนนี้ ไม่ใช่ความกล้าหาญ แต่เป็นความโหดเหี้ยม ถ้านางเห็นอ๋องเว่ย ก็จะนึกถึงเรื่องที่อ๋องเว่ยฆ่าลูกของเธอด้วยมือของอ๋องเว่ยเอง ที่นางได้รับไม่ใช่ความเจ็บปวดจากการถูกทรยศหักหลังหรือบาดแผลทางอารมณ์ แต่ที่นางได้รับคือความแค้นจากการฆ่าลูก”

เหลิ่งจิ้งเหยียนส่ายหน้า“พระชายา นี่เป็นความคิดของท่านเองหรือเปล่า ”

มือของหยวนชิงหลิงกำที่เท้าแขนของเก้าอี้ไว้แน่น เส้นเอ็นที่มือก็โผล่ออกมาแล้ว “เป็นความคิดของข้าเอง ตอนนี้ข้าก็ตั้งท้องอยู่ ถ้าหากมีคนฆ่าลูกของข้า จากนั้นก็เสแสร้งแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรแล้วมาพูดคำว่าขอโทษต่อหน้าข้า เช่นนั้นสำหรับข้าแล้ว เป็นการทำร้ายกันครั้งที่สอง ให้อ๋องเว่ยไปเสียเถอะ ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ข้าคัดค้านไม่เห็นด้วย”

เหลิ่งจิ้งเหยียนมองนางที่มีท่าทีราวกับถูกกระตุ้นเสียเอง รู้สึกว่าคุยกับนางต่อไปไม่ได้แล้ว จึงหันไปพูดกับหยู่เหวินเห้าว่า “ท่านอ๋องเล่าคิดอย่างไร”

หยู่เหวินเห้านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เขาไม่เข้าใจความนึกคิดและจิตใจของผู้หญิงเลยสักนิด แต่เขาที่กำลังจะเป็นว่าที่คุณพ่อลูกสามในอนาคตอันใกล้นี้ ที่จริงเขาค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดของยายหยวน

จะพบหน้าศัตรูที่ฆ่าลูกตัวเอง มีเพียงการฆ่าเพื่อล้างแค้นหนทางเดียวเท่านั้น

แต่ทว่า เขาใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ ก็รู้สึกว่าถ้าให้จวิ้นจู่จิ้งเหอได้พบกับเจ้าสาม ด่าสั่งสอนเขาดีๆสักครั้งก็นับว่าได้ระบายอารมณ์ออกมาบ้าง ก็เป็นเรื่องที่ดี หรือจะตบเขาสักสองสามที บางทีก็ใช้มีแทงเขา ก็เป็นบทลงโทษที่เจ้าสามควรจะได้รับ

ฉะนั้น เขาจึงพูดว่า “ในเมื่อเสด็จพ่อมีพระบัญชาแล้ว เช่นนั้นก็ทำตามเถอะ ถ้าหากจวิ้นจู่จิ้งเหอถูกกระตุ้นจนตื่นเต้นมากไป ก็ให้ลากตัวเจ้าสามออกไปก็พอ”

ความคิดเห็นของบุรุษสามคนเหมือนกันหมด หยวนชิงหลิงจะพูดอะไรก็ไร้ประโยชน์ นางเองก็ไม่สามารถเข้าวังเพื่อขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้

นางได้แต่พูดกับกู้ซือว่า “พรุ่งนี้ท่านก็จับตาดูอ๋องเว่ยให้ดี ถ้าหากเขาพูดอะไรที่เกินเลยไป ให้รีบตีเขาให้สลบหรือไม่ก็ลากตัวเขาออกไปทันที”

กู้ซือพูดว่า “พระชายาโปรดวางใจ ถ้ามีอะไรไม่เข้าท่า ข้าจะรีบนำตัวเขาออกไปทันที”

หยวนชิงหลิงพยักหน้า “พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปเร็วหน่อย ทางที่ดีตอนที่ท่านไป ให้ข้าอยู่ที่นั่นด้วย”

กู้ซือรับคำ

สรุปแล้ว คืนนี้หยวนชิงหลิงพักอยู่ที่จวนอ๋อง นอนอยู่ข้างกายของหยู่เหวินเห้า แต่ก็ยังหลับไม่ลง

แต่หยู่เหวินเห้าที่นอนคว่ำอยู่ก็ยังคงนอนหลับได้สนิทมาก

หลังเที่ยงคืน หยวนชิงหลิงหลับไปด้วยความสะลึมสะลือ แต่กลับรู้สึกว่าตนเองนอนอยู่ในเตาไฟอย่างไรอย่างนั้น สะดุ้งตื่นขึ้นมายื่นมือออกไปจับที่หน้าผากของหยู่เหวินเห้า ทำเอาตกใจตื่นหายง่วงอย่างปลิดทิ้ง

ไข้ขึ้นสูงมาก

นางรีบลงจากเตียงไปเอากล่องยา เอาปรอทวัดไข้มาวัดไข้ให้เขา

“เจ้าห้า เจ้าห้า ตื่นสิ” หยวนชิงหลิงตบหน้าเขาเบาๆ

หยู่เหวินเห้าลืมตาขึ้นมองนางอย่างสะลึมสะลือแวบหนึ่ง จากนั้นก็ค่อยๆปิดเปลือกตาลง ลำคอแหบแห้งอย่างรุนแรง “หยวน ข้าง่วง ”

เขาอยากจะพลิกตัว หยวนชิงหลิงกดที่แขนของเขาเอาไว้ “อย่าเพิ่งขยับ ท่านเป็นไข้ ข้ากำลังวัดไข้ให้ท่านอยู่ ประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

“เป็นไข้ แต่ข้ารู้สึกหนาวมาก” หยู่เหวินเห้าขดร่าง เป่าลมออกจากปากคำหนึ่ง รู้สึกหนาวจนตัวสั่นจริงๆ

หยวนชิงหลิงรีบเดินออกไปตามหาคน คืนนี้สวีอีไม่ไปไหน นอนอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟยที่อยู่นอกห้อง พอได้ยินว่าท่านอ๋องเป็นไข้สูง เขาก็รีบดีดตัวขึ้นมาขยี้ดวงตาสักครู่ “ต้องไปตามหมอหลวงหรือไม่ ”

“ไม่ต้อง เจ้าไปเอาน้ำร้อนมาให้ข้า ต้องร้อนนะ ยังมี น้ำที่ต้มเดือดแล้วหนึ่งกา เรียกหมันเอ๋อตื่น ให้นางช่วงเจ้า” หยวนชิงหลิงพูด

สวีอีเดินออกไปราวกับพายุ “ได้พ่ะย่ะค่ะ”

หยวนชิงหลิงเดินกลับเข้าไป เอาปรอทวัดไข้ออก อุณหภูมิร่างกายร้อนถึงสี่สิบองศา

นางเอายาลดไข้ให้เขากินก่อน ให้ไข้ลดลงก่อนแล้วค่อยฉีดยาเข้าเส้นเลือด จากนั้นค่อยให้น้ำเกลือ

สวีอีไปตักน้ำร้อนมา นางจุ่มผ้าเช็ดหน้าลงไปให้เปียกชุ่ม ปิดจนหมาด น้ำร้อนมาก นางสะบัดผ้าเช็ดหน้ากับมือสองครั้ง จากนั้นก็เช็ดที่หน้าผากของเขา เช็ดมือเช็ดร่างกาย

หยู่เหวินเห้าไม่สามารถหงายได้ปกติ ได้แต่นอนคว่ำ ตอนที่ทำการเช็ดตัวด้านหน้าก็ลำบากอยู่ไม่น้อย สวีอีเข้ามาช่วยเหลือ ดึงตัวเขาขึ้นมาได้เล็กน้อย ทำเอาหยู่เหวินเห้าเจ็บจนต้องกัดฟัน เกรงว่าหยวนชิงหลิงจะสงสาร กัดฟันแน่นไม่ให้มีเสียงลอดไรฟันออกมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน