รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 200

“เท้า?” มายมิ้นท์ผงกคอขึ้น อยากจะมองเท้าของเขา แต่ว่าเขาทับอยู่บนตัวเธอ เธอจึงไม่สามารถผงกคอขึ้นได้แม้แต่น้อย

และเธอก็ไม่กล้าผลักเขาออก เพราะกลัวว่าตอนที่ผลักออก จะทำให้อาการบาดเจ็บเขาหนักมากกว่าเดิม

ไม่มีวิธีแล้ว มายมิ้นท์ทำได้เพียงแค่ตะโกนเรียกผู้จัดการ “เร็วเข้า รีบดูเท้าเขา!”

“ครับๆ” ผู้จัดการได้สติคืนกลับมาจากอาการตะลึงค้าง รีบเดินไปดูเท้าของเปปเปอร์

แค่เห็น เขาก็สูดลมหายใจลึก “คุณผู้หญิง เท้าของคุณผู้ชายถูกชั้นวางเหล็กทับเข้าแล้ว”

เมื่อครู่เขามัวแต่สอบถามว่าคุณผู้ชายคุณผู้หญิงสองท่านนี้เป็นอะไรหรือไม่ เมื่อได้ยินคุณผู้หญิงท่านนี้เอ่ยว่าไม่เป็นอะไร เขาถึงได้โล่งใจ และลืมตรวจสอบชั้นวางที่ทำจากเหล็กของจอภาพ

คิดไม่ถึงเลยว่า เท้าของคุณผู้ชายท่านนี้กลับถูกชั้นวางที่ทำจากเหล็กทับจนได้รับบาดเจ็บ

คราวนี้เกรงว่าคงจะรักษาตำแหน่งผู้จัดการของเขาเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว

“ถูกทับเข้าแล้ว!” หัวใจของมายมิ้นท์บีบตัวอย่างแรงในทันที จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหว่า “ยังไม่เรียกคนมาเอาชั้นวางที่ทำจากเหล็กนี้ออกไปอีก!”

“เรียกแล้วครับ คนกำลังจะมาเดี๋ยวนี้ครับ” ผู้จัดการปาดเหงื่อ พลางตอบคำถาม

ในไม่ช้า บริกรร่างกายกำยำสองคนก็เดินเข้ามา ย้ายจอภาพออกไป เท้าของเปปเปอร์ก็ได้รับการปลดปล่อยเช่นกัน

ผู้จัดการรีบประคองร่างเปปเปอร์ให้ลุกขึ้นจากร่างของมายมิ้นท์

เมื่อไม่มีชายหนุ่มทับอยู่ ร่างกายของมายมิ้นท์ก็เบาลงในเสี้ยวพริบตา

เธอใช้มือยันพื้นลุกขึ้น ประคองอีกด้านของเปปเปอร์เอาไว้ และประคองเปปเปอร์ไปที่โซฟาของร้านอาหารพร้อมกันกับผู้จัดการ

“คุณเป็นอย่างไรบ้าง” เมื่อเห็นคิ้วที่ขมวดเป็นปม และสีหน้าที่ซีดเผือดเป็นอย่างมากของเปปเปอร์ มายมิ้นท์ก็ถามด้วยความเป็นห่วง

มายมิ้นท์มองออกว่าเธอเป็นห่วงเขา ในใจก็มีความอบอุ่นกระแสหนึ่งปรากฏขึ้น ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ผมไม่เป็นอะไร”

มายมิ้นท์มองเท้าของเขา จู่ๆก็ย่อตัวลงไปถอดรองเท้าและถุงเท้าของเขาออก

“คุณ...” เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เปปเปอร์คิดจะหยุดเธอก็ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงแค่มองเธอด้วยความตกตะลึง

“คุณอะไรคุณ? คุณดูสิว่าเท้าของคุณมีสภาพแบบไหนแล้ว นี่เรียกว่าไม่เป็นอะไรหรือ” มายมิ้นท์มองเท้าที่บวมเป่งของเขา ในใจก็รู้สึกแย่

นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วที่เขาได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ?

และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขากับเธอก็ต้องมีความสัมพันธ์คลุมเครือไม่ชัดเจน

ผู้จัดการเห็นเท้าของเปปเปอร์แล้วก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน “สวรรค์ ทำไมถึงได้บวมเป่งขนาดนี้กัน”

ไม่ง่ายเลยที่ไมโลจะหยุดเสียงร้องไห้ได้ คราวนี้จึงร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง

เขามองไปทางเปปเปอร์ด้วยความละอายใจ “ขอโทษครับคุณอาเปปเปอร์ ขอโทษครับ...”

เป็นเขาที่ทำให้บาดเจ็บ เป็นเขาที่ดื้อจะเอากันดั้มให้ได้ ถึงได้ทำให้คุณอาเปปเปอร์ได้รับบาดเจ็บ

เขาเป็นเด็กไม่ดี

“พอแล้ว ไม่ต้องร้องไห้แล้ว แผลบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเอง” สมองของเปปเปอร์ดังวิ้งๆจากเสียงร้องไห้ของไมโล เขานวดหว่างคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

มายมิ้นท์ลูบผมไมโล “ไมโลเด็กดี คุณอาเปปเปอร์ไม่ได้โทษหนู ดังนั้นเชื่อฟังคุณอาเปปเปอร์ ไม่ร้องแล้วนะจ๊ะ”

“จริงหรือครับ” ไมโลสูดจมูก น้ำตาคลอมองมาที่เธอ “คุณอาเปปเปอร์ไม่ได้โทษผมจริงๆหรือครับ”

มายมิ้นท์มองไปที่เปปเปอร์

เปปเปอร์เอ่ยว่า “ฉันยังไม่ถึงขั้นต้องถือสาหาความกับเด็กคนหนึ่ง”

ถือว่าเด็กผีนี่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี รู้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บเพราะเข้าร่วมกิจกรรมนี้

ทว่าเขาก็รู้เช่นกันว่า การที่เขาได้รับบาดเจ็บไม่อาจกล่าวโทษไมโลได้ทั้งหมด ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันกะทันหัน

“ได้ยินแล้วใช่ไหมจ๊ะ คุณอาเปปเปอร์พูดกับปากเองเลยว่าไม่ได้โทษหนู ดังนั้นไม่ต้องร้องแล้วนะจ๊ะ” มายมิ้นท์เช็ดน้ำตาให้ไมโล

“อืมๆ” ไมโลพยักหน้าหงึกหงัก

แม้ว่าผู้จัดการจะสงสัยว่าทำไมเด็กน้อยถึงเรียกคุณพ่อของตัวเองว่าคุณอา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก พลางเอ่ยขึ้นในสถานการณ์เร่งรีบว่า “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงครับ เมื่อครู่ผมเชิญหมอมาแล้ว น่าจะอยู่ระหว่างทางมา ดังนั้นพวกคุณรอสักครู่นะครับ คุณหมอน่าจะมาถึงในเร็วๆนี้แล้ว”

“เช่นนั้นก็ดี แต่คุณเร่งสักหน่อยเถอะ เท้าของเขาบวมขึ้นเรื่อยๆแล้ว” มายมิ้นท์ชี้ไปที่เท้าของเปปเปอร์

ผู้จัดการพยักหน้า “ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”

ผู้จัดการไปได้ไม่นาน ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเปปเปอร์ก็รีบเอ่ยถามว่า “ประธานเปปเปอร์ คุณไม่เป็นอะไรนะครับ?”

เดิมเขาสูบบุหรี่อยู่นอกร้านอาหาร ได้ยินคนที่ออกมาจากในร้านอาหารพูดว่า เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับครอบครัวหมายเลข 5 จึงรีบโยนบุหรี่ทิ้งและเข้ามา

เปปเปอร์เม้มปาก เอ่ยเสียงเรียบว่า “ผมไม่เป็นอะไร แต่คุณช่วยตรวจสอบจอภาพนั้นหน่อยว่าเป็นอุบัติเหตุหรือคนกระทำกันแน่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว