อีกทั้งตอนนี้ลู่ฝานเข้าใจแล้ว ทำไมตอนนี้กระบี่หนักไม่คมถึงยอมรับเขา เพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งทำความเข้าใจว่าความหนักมาจากไหน ขณะเดียวกันออร่าของเขาทานหนักก็กระตุ้นกระบี่หนักไม่คม
แค่เขาทานหนักกระจอกๆ กล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้ามัน นี่ทำให้กระบี่หนักไม่คมที่มีเขตวิถีสูงสุด อีกทั้งยังมีพลังระดับเดียวกัน ไม่สามารถทนได้
เหมือนหนูยั่วโมโหแมว เหมือนสุนัขแยกเขี้ยวใส่สิงโตอย่างไรอย่างนั้น
กระบี่หนักไม่คมใช้พลังทำลายวิถีของเขาทานหนักในหัวของลู่ฝานอย่างไม่เกรงใจ
ตอนนี้กระบี่หนักไม่คมยอมรับลู่ฝานเป็นเจ้าของแล้ว ถ้าลู่ฝานอยากทำความเข้าใจวิถีนี้ ก็มาหามันได้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาทานหนักกระจอกๆ มาสอน
ลู่ฝานสัมผัสได้ถึงความเย่อหยิ่งของกระบี่หนักไม่คม เป็นความเย่อหยิ่งที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ดูหมิ่นทั้งโลก
แน่นอนว่ามันก็มีสิทธิ์ทำเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของคนก่อนของกระบี่หนักไม่คม อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งเซียนบู๊
เหมือนได้สมบัติมาจริงๆ!
ถ้าเขาเอาเรื่องที่มีเขตวิถีอยู่ในกระบี่หนักไม่คมพูดออกไป นักบู๊ทั้งโลกคงต้องมาจัดการเขา
กระบี่ที่แฝงด้วยเขตวิถี ใครไม่อยากได้บ้างล่ะ!
เจดีย์เสวียนเก้ามังกรยังพูดว่า "ไม่คม นายทุเรศจริงๆ พูดไม่เป็นแล้วเหรอ ฮ่าๆ นายมาทีหลัง ต่อไปต้องเรียกฉันว่าพี่เจดีย์เสวียนเก้ามังกร"
ออร่าของกระบี่หนักไม่คมเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าไม่อยากสนใจเจดีย์เสวียนเก้ามังกร
ลู่ฝานพูดในใจว่า "ไอ้เก้า ไม่คมเก่งมากเหรอ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า