บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 32

ตอนที่ 32 ดึงเป็นพวกอย่างเงียบๆ

“ท่านพี่จี้เหยา เจ้าเองก็อย่ากริ้วกราดไปเลย ข้าเห็นพระชายาจิ้งนางผู้นี้ไม่เหมาะสมนัก”  

“ใช่นะสิ แม่นางพ่านเอ๋อที่อยู่ข้างกายอ๋องจิ้งก็ดูท่าทางอ่อนโยนราวกับหลิวที่ปลิวไปตามแรงลม ข้าเห็นละก็สงสาร”  

เหล่าพวกหญิงสาวอีกหลายคนต่างก็มาถึงเนินสูงที่อยู่ด้านนอกของสนามล่ากันก่อนแล้ว ด้านนอกมีหลังคลุมป้องกันแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรง พวกนางมีความสุขกับการทานของว่าง แต่สายตากลับไม่ละไปจากอ๋องจิ้งแต่อย่างใด

กุ้จี้เหยาเห็นว่าข้างกายของซ่านจินจื๋อมีหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดานางหนึ่งอิงแอบแนบชิดอยู่ ซึ่งไม่ใช่เด็กสาวที่กลับเข้าวังเมื่อวันก่อนอย่างแน่นอน เมื่อจัดการอยู่ครึ่งคร่อนวัน นางแสร้งทำเป็นโปรดปรานกุ้อ้าวเวย แต่นางรู้สึกไม่พอใจอยู่ภายในใจ ถึงอย่างไรนางก็ชอบอ๋องจิ้งมาหลายปี บัดนี้ก็ยังเทียบเท่ากุ้อ้าวเวยอยู่ดี

“แม่นางผู้นั้นเป็นนางสนมของอ๋องจิ้ง และก็เป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันด้วย แต่ก็น่าหลงไหงเป็นอย่างมาก” หญิงสาวผู้ดูแลบ้านที่อยู่ด้านข้างได้พูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด

“พอแล้ว!” กุ้จี้เหยาตบโต๊ะและยืนขึ้น ก่อนจะมองไปทางซูพ่านเอ๋อพร้อมกับกัดฟันกรอด จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อและจากไปในทันที ส่วนซูพ่านเอ๋อก็สังเกตเห็นกุ้จี้เหยาเช่นเดียวกัน

นางจึงได้ลุกออกจากไหล่ของซ่านจินจื๋อ จากนั้นก็พูดอย่างออดอ้อนไปมาว่า : “ท่านพี่จื๋อ ในเมื่อท่านก็ซื่อสัตย์อย่างตรงไปตรงมาแก่ข้าเช่นนี้ ท่านจะ........”

“ไม่ต้องเป็นกังวล” ซ่านจินจื๋อยิ้มบางๆออกมา

เขาไม่อยากนำพาความทุกข์มาสู่นาง แต่ซูพ่านเอ๋อกลับเต็มอกเต็มใจที่จะออกไปเที่ยวเล่น ด้วยความใจอ่อน ซ่านจินจื๋อจึงได้ตอบตกลงว่าจะพานางไปเปิดหูเปิดตา กุ้อ้าวเวยได้แยกตัวออกไปเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ว่าฮ่องเต้หรือผู้อื่นคิดจะพูดอะไร ก็ล้วนแล้วแต่ตำหนิที่กุ้อ้าวเวยไม่รักษาความเป็นสตรี

ซูพ่านเอ๋อจึงได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขออกมา เมื่อมาถึงที่นี่ในเวลาไล่เลี่ยกับเขา จึงได้คิดหาทางให้รถม้าของกุ้อ้าวเวยได้แยกตัวออกไปด้านข้าง  

“ท่านพี่จื๋อ ข้าอยากไปดูที่แห่งอื่นสักหน่อย”  ซูพ่านเอ๋อดึงแขนเสื้อของเขา 

ซ่านจินจื๋อแตะหัวของนางอย่างจนปัญญา แค่เพียงอยู่กับนางที่นี่ ฮ่องเต้ก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้ แต่เขาได้แสดงออกมากเกินไป ตามแผนการที่ฮ่องแต่จัดให้เขา คือคิดหาทางดึงซูพ่านเอ๋อออกจากตัวเขา ซูพ่านเอ๋อยืนขึ้นด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ ก่อนเดินไปด้านข้าง

ซ่านจินจื๋อทำได้เพียงออกคำสั่งให้จิ่นซิ่วตามไป แล้วจัดองครักษ์อีกสองสามคนไปคุ้มครอง เมื่อรอให้ ซูพ่านเอ๋อเดินจากไปไกลแล้ว เขาจึงได้ก้มมองไปทางลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง : “คนของกุ้อ้าวเวยละ? หากฮ่องเต้มาถึงแล้วไม่เห็นว่าข้ากับนางอยู่ด้วยกัน เกรงว่าภัยคุกคามนั้นจะไม่ได้มาถึงตัวข้าแต่ซูพ่านเอ๋อคงได้ถูกขับไล่ออกจากจวนเป็นแน่”

“ดูเหมือนว่าพระชายากำลังทรงม้าอยู่ เมื่อใกล้ถึง้วลา เฉิงยีเฉิงเอ้อจะไปเรียกพระชายาพะยะคะ” น้ำเสียงแคร่งขรึมดังออกมาจากด้านข้าง  แต่กลับรู้อย่างทะลุปรุโปร่งถึงความเคลื่อนไหวของผู้อื่น

“เช่นนี้ก็ดี ได้ยินมาว่าวันนี้บุตชายของหู้ปู้เซ่อหลางก็มาด้วย เมื่อวานเขาไปหาเมี่ยวหารที่นั้น เมี่ยวหารได้โอสถไปด้วยหรือไม่? ”  ใบหน้าของซ่านจินจื๋อเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที

“หมอหลวงเมี่ยวหารบอกว่าเขาได้รับพิษอ่อนๆ เมื่อจัดยาให้กลับพบว่ามันใช้ไม่ได้ผล ดูเหมือนว่าสูตรลับที่นำมายังไม่กระจ่างชัด แค่เพียงจัดโอสถที่มีปนะสิทธิภาพให้แก่ซูพ่านเอ๋อ”  

ดวงตาของซูพ่านเอ๋อหรี่ตาลงเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าความสามารถกุ้อ้าวเวยไม่น้อยนัก เห็นแบบนี้แล้ว นางคงคิดหาทางรักษาอาหารป่วยของซูพ่านเอ๋ออยู่เป็นแน่

แต่หากกุ้อ้าวเวยไม่ตัดทิ้งละก็  ซูพ่านเอ๋อเองก็ไม่ได้ตำแหน่งของพระชายามา

“เฉิงซาน เจ้าคิดว่ากุ้อ้าวเวยทำเช่นนี้ จะใช้ได้ผลกับข้าไหม? ” ซ่านจินจื๋อเติมเหล้าให้ตัวเอง 

“พระชายามีความสามารถที่แท้จริง นางมักจะพูดคุยติดต่อสื่อสารแต่กับเป็นระดับผู้ลากมากดีวีไอพีที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน แต่ก็คุ้มที่จะใช้ เพียงแต่ว่าก่อนหน้านั้นท่านอ๋องปฏิบัติต่อพระชายาแบบทั่วไป พระชายาน่าจะเกิดความไม่พอใจ” เฉิงซานพูดเสียงต่ำ

ซ่านจินจื๋อใบหน้าเคร่งขรึม และก็นึกถึงเรื่องการกระทำทั้งหมดก่อนหน้านั้น 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์