แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 454

ต้นตอของเสียงนั้น คือเว่ยหู่

ขณะนี้เว่ยหู่ล้มลงกับพื้น หมดสติไป

เหลียนฮัวชิงเวินวานทำให้เกิดผลลัพธ์แบบนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจ และเป็นห่วงอย่างอื่นไม่ได้ ลั่วเสี่ยวปิงเดินไปข้างหน้าของเว่ยหู่โดยตรง

นั่งลง มือวางที่ชีพจรของเว่ยหู่

จากเวลาค่อยๆผ่านไป คิ้วที่ขมวดแน่นของลั่วเสี่ยวปิงก็ค่อยๆหลายออก

ร่างกายของเว่ยหู่ผ่านการทรมานทั้งกายใจมาหลายวัน อ่อนเพลียอย่างมากแล้ว

เหลียนฮัวชิงเวินวาน อย่าดูว่ามันเม็ดเล็ก แต่ว่าฤทธิ์ยาแรง โดยเฉพาะเหลียนฮัวชิงเวินวานที่เพิ่มน้ำแร่วิญญาณเข้าไป ผลลัพธ์นั้นยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า ร่างกายของเว่ยหู่ทนรับไม่ไหว ถึงได้สลบไป

แต่ว่าดูจากชีพจรแล้ว อาการของเว่ยหู่กำลังดีขึ้น นี่ก็อธิบายว่า เหลียนฮัวชิงเวินวานเห็นผลอย่างแน่นอน

ลั่วเสี่ยวปิงดีใจมาก หลังจากแน่ใจว่าร่างกายเว่ยหู่ไม่เป็นไรแล้ว ก็รีบไปที่ข้างเตียง ป้อนเหลียนฮัวชิงเวินวานให้เว่ยเจ๋อฉี......

คนตระกูลเว่ย กังวลอย่างที่สุดแล้ว

เพราะว่า นายหญิงฉวี่ซื่อไม่ได้เป็นลมธรรมดา

หลังจากสลบไป ฉวี่ซื่อเริ่มตัวร้อน ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จนกระทั่งอาเจียนท้องร่วง

ส่วนในเวลานี้ ในจวนก็มีแค่หมดสองคน ท่านซุนกำลังดูแลคนรับใช้บางส่วนที่ได้รับเชื้อโรคติดต่อ ส่วนลั่วเสี่ยวปิงดูแลเว่ยเจ๋อฉี

ทุกวันนี้ปิดเมือง สถานการณ์ด้านนอกค่อนข้างตึงเครียด ออกไปเชิญซินแสข้างนอกไม่เพียงเป็นไปได้น้อยและอันตรายค่อนข้างมาก

และอ้างอิงจากอาการป่วยระยะแรกต่างๆของเว่ยเจ๋อฉีแล้ว เห็นได้ชัดว่าฉวี่ซื่อเป็นไปได้สูงที่ติดเชื้อโรคตัวใหม่ในครั้งนี้

หลังจากฉวี่ซื่อติดเชื้อแล้ว สภาพจิตใจตื่นเต้นมาก แต่เพื่อไม่ให้ลูกหลานกังวล ฉวี่ซื่อก็ฝืนไม่แสดงออกมา และไล่ลูกหลานหน้าเตียงออกไปทั้งหมด แม้กระทั่งเว่ยหยวนหมิงจะอยู่ ฉวี่ซื่อก็ไม่อนุญาต

ฉวี่ซื่อพูด “ข้าติดเชื้อแล้วไม่เป็นไร ข้าทนรับคนเดียวก็พอ หากพวกเจ้าจะลำบากเป็นเพื่อนข้า เช่นนี้แล้วก็ทำให้ข้าไม่สบาย บีบให้ข้าไปตาย”

คำพูดของฉวี่ซื่อพูดได้แรงขนาดนี้แล้ว ถึงแม้ทุกคนจะเป็นห่วงอาการของฉวี่ซื่ออย่างไร ก็ไม่กล้าอยู่ข้างกายฉวี่ซื่อแล้ว

สุดท้ายแม้กระทั่งแม่นมที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายตัวเองมานานก็จะไล่ออกไป แม่นมแซ่กุ้ย เป็นสาวใช้ที่ติดตามฉวี่ซื่อแต่งเข้ามา จงรักภักดีปกป้องเจ้านายทั้งชีวิต ภายหลังก็แต่งให้กับพ่อบ้านตระกูลเว่ย แต่ก็คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายฉวี่ซื่อตลอดเวลา

ทุกวันนี้ฉวี่ซื่อเป็นเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้นางพลอยลำบากไปด้วย

แต่ว่าแม่นมกุ้ยกลับรู้สึกว่า ตัวเองปรนนิบัติฉวี่ซื่อทั้งชีวิต นั่นมันมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่ ฉวี่ซื่อก็ดีต่อนางอย่างที่สุด ช่วยเหลือนางมานาน เวลานี้หากนางจากไปนั่นก็เป็นคนโหดร้ายจริงๆแล้ว

ฉวี่ซื่ออยู่ตรงหน้าแม่นมกุ้ยที่แต่งมาพร้อมตัวเองและแก่ไปพร้อมตัวเอง ในที่สุดก็ตาแดง “เจ้าเป็นเช่นนี้ หากติดเชื้อไปด้วย จะทำอย่างไรดี พวกเราก็แก่กันปูนนี้แล้ว......”

แม่นมกุ้ย “นายหญิงท่านเลิกพูดได้แล้ว ท่านก็บอกแล้วว่าเราอายุปูนนี้แล้ว ในเมื่อต่างก็แก่แล้ว นั่นก็ก้าวลงดินไปครึ่งตัวแล้ว หากข้าน้อยไม่ปรนนิบัตินายหญิง นายหญิงเช่นนี้แล้วใครจะปรนนิบัติได้?”

“ข้าเอง”

ในเวลานี้เอง เสียงอันสดใสของหญิงสาวดังขึ้นที่หน้าประตู

คืออวี้หนิง

เห็นอวี้หนิงมุดเข้ามาจากประตู ฉวี่ซื่อตกใจ “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่เด็กอย่างเจ้าเข้ามาได้ เจ้ายังรีบออกไปอีก”

หลานคนรองของตัวเอง ไม่ว่าจะด้านความรู้หรือวิชาการต่อสู้ ล้วนดีที่สุด ก็คือสภาพแบบนั้นก็ยังเป็นคนที่ดีที่สุดในพี่น้องห้าคน

แต่ข้อบกพร่องอย่างเดียวก็คนอายุยี่สิบสี่แล้ว แต่กลับยังไม่ได้แต่งงาน

ถึงแม้ว่าเจ๋ออิงก็ยี่สิบสี่แล้ว แต่ว่าสถานการณ์ของเจ๋ออิงมันไม่เหมือนกัน

สรุปก็คือ หญิงสาวอวี้หนิงคนนี้เป็นหญิงสาวคนเดียวที่เจ๋อชาวพากลับมา นางจะเป็นเพราะตัวเองไปทำให้เจ๋อชาวเสียเวลาไม่ได้

อวี้หนิงกลับสีหน้าไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร ข้าเรียนการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก อาจารย์ก็ปรับร่างกายให้เป็นสิบปีแล้ว ร่างกายข้าแข็งแรงมาก”

จากนั้นอวี้หนิงมองไปที่แม่นมกุ้ย “แล้วแม่นมกุ้ยท่าน อายุก็มากแล้ว อย่าทรมานเลย มิเช่นนั้นท่านย่ายังต้องคอยเป็นห่วงท่าน นี่มันไม่ดีแค่ไหน”

แม่นมกุ้ยได้ยิน ทันใดนั้นก็พูดไม่ออก อดหันไปมองฉวี่ซื่อไม่ได้

ฉวี่ซื่อมองอวี้หนิง ไม่เห็นด้วย “เจ้าออกไปเถิด......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง