จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 619

ต่งโป๋เหวินชะงักไป เขายังไม่ได้พูด หลี่คังที่สมองยังมึนๆอยู่จู่ๆก็ได้สติกลับมา นี่แม่งชีวิตนะเว่ย ถ้ายังไม่ได้สติกลับมา ชีวิตจะหาไม่แล้ว เขารีบกล่าวว่า “อย่าๆๆ! อย่าฆ่าผมนะ อย่าฆ่าผม ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมก็ถูกบีบมาเหมือนกัน ลุงต่ง ถ้าคุณฆ่าผม คุณจะทำผิดกฎหมายนะ”

“ไม่เป็นไร ไอ้สวะอย่างแก ไม่คู่ควรได้รับการปกป้อง ฆ่าเถอะ!” ฟางเหยียนพูดออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้เมื่อเปล่งออกมาเผด็จการเหมือนออกคำสั่งในสนามรบก็มิปราณ

ต่งโป๋เหวินอยากฆ่าหลี่คังจริง แต่ก็ทำไม่ลง!

ด้วยเหตุนี้เองจึงได้พูดว่า “ช่างเถอะ ไอ้สวะแบบนี้ไม่คู่ควรให้ผมจัดการ!”

“งั้นลุงต่งคุณว่า จะจัดการไอ้ขยะนี่ยังไงดีครับ?” ฟางเหยียนท่าทีเตรียมพร้อม

ต่งโป๋เหวินลังเลไปหลายวินาที ยังไม่ทันพูดเลย ต่งยู่ก็ได้กล่าวว่า “ขยะก็ต้องส่งไปที่พวกขยะ! เดิมทีมันก็คือขยะ ฉันว่ามันควรจะถูกโยนไปไว้ที่โรงขยะนะ”

“โอเค!” พูดจบ ฟางเหยียนคว้าหลี่คังมา เหมือนกับหิ้วลูกเจี๊ยบอย่างไรอย่างนั้น

“ฟางเหยียน!” เดิมทีต่งยู่ก็แค่พูดไปงั้นๆ ใครจะรู้ว่าฟางเหยียนจะทำแบบนั้นจริงๆ

ไม่นานฟางเหยียนกลับมา เขาได้โยนหลี่คังไปในกองขยะที่ใกล้ที่สุดกองหนึ่ง

หลังจากที่ฟางเหยียนกลับมาแล้ว ต่งโป๋เหวินกำลังปลงกับต่งยู่

เมื่อเห็นฟางเหยียน ต่งโป๋เหวินจึงได้ถามว่า “อ้อ ทำไมคุณฟางถึงได้กลับมาพร้อมกับลูกสาวของฉันได้ล่ะครับ?ไอ้ขยะนั่นไม่ใช่พูดว่า ลูกสาวของผมได้...”

พูดถึงจุดนี้ต่งโป๋เหวินสะอื้นอีกครั้ง น้ำตาไหลรินออกมาอีกครั้ง

ต่งโป๋เหวินมีต่งยู่ลูกสาวหนึ่งคนเท่านั้น หลายปีมานี้เลี้ยงดูจนโตอย่างเจ็บปวดยากลำบาก ต่งยู่เป็นที่สุดของหัวใจของเขาตั้งนานแล้ว ถ้าต่งยู่เป็นอะไรไป แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร?

ดังนั้นที่เขาร้อง ก็พอเข้าใจได้อยู่ เพราะช่วงหลายวันมานี้จิตใจของเขาได้ผ่านมรสุมมามากมาย!

ต่งโป๋เหวินในขณะนี้ไม่ใช่เฒ่าทารกอย่างเมื่อก่อน คนนั้นที่อยากให้ต่งยู่เป็นภรรยาน้อยของเขา กลับกันกลายเป็นพ่อที่รักและห่วงใย เป็นทั้งพ่อเป็นทั้งแม่ ผู้ชายคนหนึ่งทำแบบนี้ได้ก็ดีมากแล้ว

ฟางเหยียนพูดกลัวต่งโป๋เหวินว่า “คืองี้ครับ ผมไปทำธุระที่ภูเขาทิพย์ เห็นต่งยู่ถูกคนลักพาตัวไปพอดี จึงได้ออกโรงช่วยเธอ แต่ไอ้หลี่คังนั่น เพราะรักตัวกลัวตาย ทิ้งต่งยู่แล้วจากไปโดยสิ้นเชิง”

นิ่งไปสักพัก ฟางเหยียนได้พูดเสริมอีกประโยคว่า “พวกโจรที่รักตัวกลัวตายแบบนี้ ไม่คู่ควรกับลูกสาวของคุณเลยสักนิด”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา แก้มของต่งยู่ได้แดงขึ้นมา นี่ไม่ใช่กำลังชมตัวเองอย่างกลายๆอยู่เหรอ!

ความจริงไม่ต้องให้ฟางเหยียนพูด ต่งโป๋เหวินก็รู้ว่าหลี่คังไม่คู่ควรกับต่งยู่ คนที่ทั้งรักตัวกลัวตายทั้งเลว อยู่กับลูกสาวของตัวเอง ต่งโป๋เหวินไม่ได้ตาบอด และยิ่งไม่โง่ด้วย!

ต่งโป๋เหวินถอนหายใจ แล้วกล่าว “น้องฟางพูดถูก ขยะแบบนั้นจะคู่ควรกับลูกสาวของผมได้อย่างไรกัน พูดอีกนัยคือ ผู้หญิงที่เคยเห็นพญาอินทรีทะยาน จะชอบไก่บ้านได้อย่างไรกันเล่า คุณว่ามั้ย?”

“......” ฟางเหยียนชะงักกับคำพูดนี้ 

ความหมายของต่งโป๋เหวินไม่พูดก็เข้าใจได้ เขายังคงพูดถึงความคิดเรื่องภริยาน้อยขึ้นมาทางอ้อม เพียงแต่เขามีทักษะการพูด พูดไปพูดมาก็เข้าเรื่องภริยาน้อย ทำให้ฟางเหยียนไปต่อไม่เป็น

ต่งยู่หน้าแดงพลางหล่าว “พ่อ!อะไรกันเนี่ย คุยเป็นมั้ย คุยจนไปไม่เป็นกันแล้วเนี่ย!”

“ฮ่าๆๆ!” จู่ๆอารมณ์ของต่งโป๋เหวินก็ดีขึ้นมา เหมือนกับอากาศช่วงเดือนมิถุนายน คิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนซะงั้น เขาชี้ไปที่ต่งยู่แล้วกล่าว “เด็กคนนี้ ปากไม่ตรงกับใจ!”

ต่งโป๋เหวินหัวเราะอย่างรักใคร่ ไม่พูดอะไรต่ออีก!

ฟางเหยียนไม่อยากติดอยู่กับเรื่องนี้มากไป ด้วยเหตุนี้เองจึงได้เปลี่ยนเรื่องสนทนา กล่าว “ผู้อาวุโสครับ ผมได้ส่งต่งยู่กลับมาโดยสวัสดิภาพแล้ว เริ่มค่ำแล้ว ผมต้องกลับแล้วครับ”

ต่งโป๋เหวินชะงักไป แล้วถาม “น้องฟางจะไปไหนเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ