บทที่ 1320 ก็แค่รื้อฟื้นความหลัง
ทันใดนั้น หานมู่จื่อยื่นมือออกมากอดไหล่ของเย่โม่เซิน จากนั้นค่อยๆเอาศีรษะตัวเองซบลงบนไหล่เขา
“คุณไม่ต้องตื่นตระหนก และก็ไม่ต้องกลัว ความทรงจำก็คือความทรงจำ นอกจากทำความสับสนในใจคุณแล้ว มันก็ไม่มีพลังที่จะทำอะไรได้อีก เรื่องในอดีตมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ข้างกายคุณ พวกเรายังมีเสี่ยวหมี่โต้วและเสี่ยวโต้วหยา คุณตาของคุณก็ยังอยู่ข้างๆคุณนะ”
คำพูดที่อ่อนโยนของหานมู่จื่อค่อยๆปลอบประโลมจิตใจของเย่โม่เซิน ปลายนิ้วเขาขยับเล็กน้อย กอดเสี่ยวโต้วหยาในอ้อมอกแน่น มุมปากค่อยๆกระดกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ใช่แล้ว มู่จื่อของเขาพูดถูก
แม้ว่าจะผ่านลมพายุฝน แต่ตอนนี้คนสำคัญล้วนอยู่ข้างกายเขา และถึงแม้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้ตายไม่ใช่เหรอ
แต่ เย่โม่เซินขมวดคิ้ว“ที่คุณพูดแบบนี้ คือหวังว่าต่อไปผมไม่ต้องตามคุณอีกใช่มั้ย”
หานมู่จื่อกระแอมเบาๆ สีหน้าท่าทางกระอักกระอ่วนเล็กน้อย:“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันก็แค่เห็นคุณมีท่าทางหดหู่เมื่อกี้ ดังนั้นก็เลยปลอบคุณหน่อย เกิดวันไหนคุณอยู่คนเดียวคิดมากจนธาตุไฟเข้าแทรกจะทำยังไง”
เย่โม่เซินชำเลืองมองเธอ ยื่นมือมาบีบจมูกของเธอ พูดเบาๆว่า:“แสบ”
ทั้งสองคนดูเหมือนเป็นแฟนที่เพิ่งคบกันกำลังทะเลาะกัน
**
นับตั้งแต่วันนั้นที่หลินสวี่เจิ้งพบกับสวี่เย็นหวั่นที่บริษัทตระกูลหานนั้น ภายในใจก็มักจะเกิดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจบางอย่าง
ดังนั้นเขาจึงให้คนไปสืบประวัติก่อนหน้านี้ของสวี่เย็นหวั่น เพราะจู่ๆเธอก็บอกเขาว่าตนเองล้มละลายแล้ว ความจริงแล้วต้องมีสาเหตุอย่างแน่นอน
ดังนั้นหลินสวี่เจิ้งตรวจสอบประวัติแล้วก็รู้ว่าบริษัทตระกูลสวี่จากบริษัทที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศจนเดินมาถึงจุดจบที่ล่มสลาย สุดท้ายก็หายสาบสูญ
หลังจากดูเอกสารเหล่านั้นแล้วหลินสวี่เจิ้งมีเพียงความใจหาย เพราะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าบริษัทตระกูลสวี่ที่เก่งกาจในตอนนั้น กลับหายสาบสูญไปอย่างนี้
เพียงชั่วข้ามคืน ตระกูลสวี่ก็เหลือเพียงสวี่เย็นหวั่นแค่คนเดียว
ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ต่อให้เป็นคนแปลกหน้า หลังจากที่ได้รู้ว่าสวี่เย็นหวั่นต้องผ่านอะไรมา ก็เกิดความเห็นอกเห็นใจ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาสามคนที่รักใคร่เติบโตเล่นมาด้วยกันในวัยเด็ก
ความจริงแล้ว หลินสวี่เจิ้งเองก็เห็นสวี่เย็นหวั่นเป็นน้องสาวแท้
และที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรู้สึกของเธอต่อหานชิง หลินสวี่เจิ้งรู้ดีมาตลอด
แต่ว่าหลินสวี่เจิ้งคิดว่าหานชิงจะครองตัวเป็นโสดไปตลอด ดังนั้นความจริงใจของสวี่เย็นหวั่นที่ทุ่มเทไปก็สูญเปล่า
ทว่าต่อมาแม้กระทั่งหลินสวี่เจิ้งก็ไม่เคยคิดมาก่อน อยู่ๆก็มีเสี่ยวเหยียนโผล่มา จากนั้นก็ได้ครอบครองหานชิงไป
และเขาก็ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่า บ้านของสวี่เย็นหวั่นจะล้มละลาย เหลือเธอเพียงคนเดียว สุดท้ายมายังวิ่งมาที่บริษัทตระกูลหาน
คิดๆแล้ว ก็รู้สึกทำให้ไม่สบายใจเล็กน้อย
แต่ไม่นาน มุมปากของหลินสวี่เจิ้งก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่มีเลศนัยออกมา
หานชิงเพื่อนของเขาคนนั้นเป็นคนสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด ถ้าต้องมาเจอผู้หญิงสองคนแย่งชิงเขาด้วยความหึงหวง คนหนึ่งคือเพื่อนเล่นในวัยเด็ก อีกคนเป็นผู้หญิงที่เขารัก อย่างนั้นเขาจะมีท่าทีอย่างไร
แน่นอนว่า หลินสวี่เจิ้งอยากเห็นว่าหานชิงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่ว่า……ทำแบบนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงเกินไป
ดังนั้นหลินสวี่เจิ้งวางแผนนัดสวี่เย็นหวั่นออกมาพูดคุยกันเสียหน่อย
ตอนที่สวี่เย็นหวั่นได้รับโทรศัพท์ของหลินสวี่เจิ้งไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด หลังจากที่ได้พบกันที่บริษัทครั้งนั้น สวี่เย็นหวั่นก็เดาได้ว่าเขาจะต้องมาหาเธอ
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะรวดเร็วขนาดนี้ ดูท่าหลายปีมานี้แม้คุณจะไม่ค่อยได้เข้าไปบริหารจัดการบริษัท แต่สถานะของบริษัทตระกูลหลินที่เมืองเป่ย ก็ไม่ได้ลดน้อยด้อยลงไปเลย”
ได้ยินอย่างนั้น หลินสวี่เจิ้งก็ค่อยๆคลี่ยิ้ม พูดเบาๆว่า:“ดูท่าคุณคงเดาได้แต่แรกแล้วว่าผมจะมาหาคุณ”
“อืม”สวี่เย็นหวั่นพยักหน้า เอ่ยเรียบๆว่า:“แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะมาเร็วขนาดนี้”
หลินสวี่เจิ้งก็ไม่พูดอ้อมค้อม นัดเธอออกมาพบโดยทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่