จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 11

อั่ก!

ร่างกายเฉินจิ้งสั่นสะท้านเล็กน้อย ตัวเขาเอนล้มลงไปทางด้านข้างอย่างแรง ใบหน้าที่บวมช้ำมองไปที่จ้าวเทียนด้วยความเศร้าสร้อย

“ พี่จ้าว…ผมไม่ไหวแล้ว ”

“ ฝากที่เหลือด้วย…แอ่ก! ” หลังจากทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ เขาก็แกล้งสลบทันที

จ้าวเทียนมองการแสดงของเฉินจิ้งแบบพูดไม่ออก

น้องชายถ้านายจะแกล้งตายก็อย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยว ฉันแค่ต้องการรอชมเรื่องสนุก นายเข้าใจไหม

ในห้องตอนนี้คนที่มองออกว่าเฉินจิ้งแกล้งสลบ มีเพียงจ้าวเทียนกับเปาเจียงเท่านั้น

บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

พวกนายน้อยหลี่ ตอนนี้เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ซุยลี่เหยากับเพื่อนผู้หญิงอีกสามคน ก็มองไปที่ร่างของเฉินจิ้ง ที่นอนหมดสติอยู่อย่างตกตะลึง

ไม่มีใครสนใจคำพูดสุดท้ายของเฉินจิ้งมากนัก ทุกคนก็รู้ว่าจ้าวเทียนเป็นแค่เศษสวะที่อ่อนแอ จะไปปกป้องใครได้

“ เฉินจิ้ง!.. พี่ขอโทษพี่ไม่ควรให้เธอสู้เลย ” ซุยลี่เหยาวิ่งไปดึงเฉินจิ้งมากอดไว้ด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเมื่อเห็นใบหน้าที่บวมช้ำของเฉินจิ้ง น้ำตาเธอก็ไหลออกมาเป็นสาย

ยังไงเฉินจิ้งก็ถือเป็นคนในครอบครัว เธอยังเคยอุ้มเขาด้วยซ้ำตอนที่เขาพึ่งเกิด แม่ของเขาก็เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อเธอ ทำให้สองครอบครัวสนิทกันมาก

คิ้วของเฉินจิ้งกระตุกเล็กน้อย แม้เขาจะหลับตาอยู่แต่หูก็ไม่ได้หนวก เมื่อรู้สึกได้ว่าซุยลี่เหยาร้องไห้ ทำให้เขารู้สึกผิดเล็กน้อย แต่หากเขาฟื้นขึ้นมาตอนนี้ มันก็คงไม่ดีกับตัวเอง จึงตัดสินใจเสแสร้งให้ถึงที่สุด

ตอนนี้พวกเปาเจียงกับพี่เว่ยกำลังยืนมองด้วยสีหน้ามึนงงว่าควรจะทำอะไรต่อไป

จะให้ไปสู้กับจ้าวเทียนก็คงไม่ดี…

จะจัดการพวกนายน้อยหลี่ เมื่อคิดถึงคำพูดสุดท้ายของเฉินจิ้ง ก็เลยไม่กล้า…

แค่กๆ

จ้าวเทียนแกล้งไอเล็กน้อย เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่ง หยิบเหล้าขึ้นมาแล้วเทใส่แก้ว สายตาเขามองไปยังการแสดง ตรงเวทีด้านล่างอย่างสนใจ

!!

เปาเจียงกับพี่เว่ยหันมามองหน้ากันเอง พวกเขาทั้งสองต่างเป็นคนฉลาด ทำให้เข้าใจความหมายของจ้าวเทียนได้

ทั้งคู่มีรอยยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปมองพวกนายน้อยหลี่ด้วยสายตาเย็นชา

“ จับพวกมันทั้งหมดมานั่งคุกเข่าตรงนี้ ” พี่เว่ยออกคำสั่งทันที เขาชี้ไปที่พวกนายน้อยหลี่ กับเพื่อนหญิงของซุยลี่เหยาทั้งสามคน

“ ได้เลยลูกพี่ ” พวกนักเลงที่นอนอยู่ ตอนนี้ได้พากันพยุงตัวลุกขึ้นมา ได้เวลาสำหรับเรื่องสนุกๆแล้ว พวกเขาจะพลาดได้อย่างไร

ยกเว้นจ้าวเทียน กับซุยลี่เหยาที่ดูแลเฉินจิ้งอยู่ ทุกคนต่างถูกคุมตัวไปนั่งคุกเข่าอีกด้านหน้าทันที

“ ยัยนี่…ไม่ได้ยินพี่เว่ยสั่งเหรอ ” ชายคนหนึ่งพยายามที่จะจับไปที่ หน้าอกของกงเสี่ยวเหมยด้วยสีหน้าลามก

เปรี้ยง!

แก้วน้ำใบหนึ่งพุ่งใส่หัวของชายคนนั้นอย่างแรง จนมันล้มลงไปบนพื้น

“ แกทำอะไรวะ” “ ฆ่ามันเลยมั้ยลูกพี่ ” “ จัดการมันเลย ” พวกนักเลงที่เหลือพยายามจะมาแก้แค้นให้เพื่อน

“ หยุด!...ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำไป อย่าหาเรื่อง ” พี่เว่ยตะโกนสั่งเสียงดัง เขามองไปที่จ้าวเทียนด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย

“ พี่เสี่ยวเหมย…มานั่งดื่มกับผมตรงนี้สิ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขาหยิบแก้วใบใหม่ขึ้นมาเทเหล้าใส่ไปอีกครั้ง

กงเสี่ยวเหมยได้มองมาที่จ้าวเทียนด้วยความขอบคุณ ตัวเธอเป็นเพียงนักสู้ระดับ4เท่านั้น คงไม่สามารถต่อสู้กับคนเยอะขนาดนี้ได้ แถมวันนี้เธอดันใส่กระโปรงยาวมาอีกด้วย ทำให้ไม่สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก

ซุนลี่เหยามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสับสน ทำไมพี่เว่ยถึงดูเกรงใจจ้าวเทียนขนาดนี้ แม้แต่พวกนายน้อยหลี่ กับผู้หญิงที่เหลือก็ยังคิดสงสัยในเรื่องเดียวกัน

หรือว่า พวกมันเป็นพวกเดียวกัน…

“ จ้าวเทียน…ให้พวกมันถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ พวกแกมันพวกเดียวกันใช่ไหม ” นายน้อยหลี่หันไปตะโกนใส่จ้าวเทียน

“ ใช่ๆ…แกแค้นที่พวกเราด่าแกใช่ไหม ถึงไปเรียกพวกมันมาแก้แค้น ” สาวผมสั้นพูดเสียงดังด้วยความโกรธ เข้าใจอะไรได้ในทันที ตอนนี้พวกที่คุกเข่าอยู่จึงรุมด่าจ้าวเทียนเสียงดัง

“ ไอสวะนั่นมันจ้างพวกแกมาเท่าไหร่…ฉันให้แกได้มากกว่า10เท่าเลยนะ พวกแกไม่รู้เหรอครอบครัวมันล้มละล้ายไปแล้ว ตอนนี้มันไม่มีเงินซักแดงเดียว จะไปทำตามคำสั่งมันทำไม ” นายน้อยหลี่ยื่นข้อเสนอขึ้น เขามองไปที่พี่เว่ยอย่างมีความหวัง

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้กงเสี่ยวเหมยถอนหายใจออกมายาวๆ พวกเพื่อนเธอยังคงทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเพราะนายน้อยหลี่กับหยางจงไปทำร้ายคนอื่นก่อน พออีกฝ่ายยกพวกมาเอาคืนแล้วสู้ไม่ได้ กลับโยนความผิดให้จ้าวเทียนซะอย่างนั้น

ถ้าพวกเขาคิดถึงคำพูดสุดท้ายของเฉินจิ้งซักนิด ก็น่าจะคิดได้ว่าคนที่จะสามารถช่วยทุกคนได้ก็คือจ้าวเทียน แต่ตอนนี้พวกเธอกลับมารุมด่าเขาซะเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน