จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 15

“ หืม…แย่ละสิ ” จ้าวเทียนพึ่งจะรู้สึกตัว

ตอนนี้ ตัวเองนั่งกุมข้อเท้าของหญิงสาวตรงหน้ามานานหลายนาทีแล้ว ผู้คนรอบตัวบางคนหยิบมือถือมาถ่ายรูปและชี้มาทางเขา แล้วซุปซิบกันเองด้วยความสนุกสนาน

เขามัวแต่มุ่งความสนใจไปที่เมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพ จนลืมสิ่งต่างๆรอบตัว…

“ ผมต้องขอโทษจริงๆครับ ” หลังจากพูดออกไป เขาก็รีบปล่อยมือออก แล้วถามขึ้น

“ เป็นยังไงบ้างครับ ยังเจ็บอยู่ไหม ”

“ ไม่รู้สึกเจ็บแล้วค่ะ…คุณทำได้ยังไงกัน ” อันที่จริงเธอหายเจ็บตั้งนานแล้ว

แต่เพราะคลื่นความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมือของชายคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายจนลังเลที่จะบอกเขา

ทั้งสองคนสบตากันแล้วต่างก็ยิ้มให้กัน แต่ความคิดในหัวนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง จ้าวเทียนนั้นยังคงคิดถึงแต่เรื่องของเมล็ดพันธุ์แห่งทวยเทพ มันจะมีส่วนช่วยต่อตัวเขาอย่างมาก

“ โอ้ยย…พี่ชายสนใจหนูหน่อย ” จ้าวหยูเหมยร้องขึ้นด้วยความแง่งอน ทั้งสองคนยืนคุยกันไม่สนใจเธอเลย

“ อืม…เมื่อกี้เธอบอกว่าใกล้ถึงเวลาขึ้นแสดงแล้วใช่ไหม เรารีบไปกันเถอะ ” จ้าวเทียนหยุดมองลี่เหยาเหยาเล็กน้อย

เขากำลังคิดว่าจะคุยกับเธอเรื่องเมล็ดพันธุ์ดีหรือไม่

เขาไม่ได้เป็นห่วงว่าจะมีคนอื่นมาช่วงชิงไปจากเธอได้ เพราะคนที่รับรู้ได้ถึงเมล็ดพันธ์แห่งทวยเทพจะต้องฝึกวิชาของเทพสวรรค์โบราณ

ซึ่งมันก็หาได้ยากในแดนสวรรค์ อย่าว่าแต่ในโลกมนุษย์เลย

ตั้งแต่ที่เมล็ดพันธุ์ได้ดูดซับปราณของเขาไปฟื้นฟูตัวเอง ก็เหมือนมีการเชื่อมโยงบางอย่างกับตัวเขา ซึ่งสามารถสัมผัสถึงที่อยู่ของกันและกันได้

จ้าวหยูเหมย เห็นพี่ชายของเธอแสดงท่าทีสนใจหญิงสาวคนนี้อย่างน่าหมั่นไส้ เธอจึงคิดช่วยเหลือพี่ชายซักเล็กน้อย

“ พี่สาวคะ…พี่มาเที่ยวชมงานนิทรรศการดนตรีหรือเปล่า ” จ้าวหยูเหมยถามขึ้นอย่างร่าเริง เธอตีเนียนดึงแขนลี่เหยาเหยาให้เดินตามไปด้วยกัน

“ ใช่จ๊ะ…พอดีพี่พึ่งกลับมาพักผ่อนที่บ้านเกิด เลยออกมาเดินเล่น ” เธอตอบ

“ ถ้างั้น…พี่จะมาดูการแสดงของหนูไหม วันนี้พี่ชายก็มาให้กำลังใจหนูด้วย ถ้าพี่มาด้วยกันหนูจะดีใจมากเลย ” จ้าวหยูเหมยกอดแขนลี่เหยาเหยาออดอ้อนอย่างน่ารัก

“ คือพี่…ตกลงจ๊ะ” เธอเกิดความลังเลเล็กน้อย

อันที่จริงเธอไม่อยากไปที่ที่มีคนอยู่เยอะๆ แต่เมื่อมองไปที่เด็กสาวคนนี้ เธอก็ปฏิเสธไม่ลง

จ้าวหยูเหมยเหมือนมีบรรยากาศทำให้คนที่อยู่รอบๆรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมได้โดยง่าย อีกเหตุผลหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะว่าเธอยังอยากมีเวลาใกล้ชิดพี่ชายของเด็กสาวคนนี้นานอีกซักหน่อย

“ หนูชื่อจ้าวหยูเหมย…พี่สาวชื่ออะไรคะ” จ้าวหยูเหมยได้ถามขึ้น เธอแอบยักคิ้วให้พี่ชายเล็กน้อย

“ พี่…พี่ชื่อลี่เหยา ” เธอลังเลที่จะบอกชื่อจริง แต่ก็ไม่อยากโกหกจึงตอบไปแบบนั้นแทน

“ งั้นหนูเรียกว่าพี่สาวลี่นะคะ ส่วนพี่ชายของหนูชื่อว่าจ้าวเทียน ” จ้าวหยูเหมยถือโอกาสแนะนำตัวพี่ชาย

!!

“ จ้าวเทียนเหรอ…คงไม่ใช่ว่า ” ตอนนี้เธอรู้สึกแปลกใจจริงๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาที่นี่

ชายคนนี่คือคนที่จะรักษาปู่ของเธอในวันพรุ่งนี้…

“ ทำไมเหรอคะ…พี่สาวรู้จักพี่ชายหนูมาก่อนเหรอ ” จ้าวหยูเหมยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ เปล่าจ๊ะ…เราพึ่งเจอกันครั้งแรก ” เธอตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม

ตอนแรกเธอคิดว่าอาจจะไม่ได้เจอชายคนนี้อีก แต่ดูแล้วคงจะไม่ใช่แบบนั้น

มันเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ หรือโชคชะตากันแน่นะ…

ทั้งสามเดินไปด้วยกัน จนถึงอาคารโถงประชุมขนาดใหญ่ ที่สามารถจุคนได้นับพันคน ที่นี่คือที่จัดการแสดงดนตรีในครั้งนี้

เมื่อมาถึงแล้วจ้าวหยูเหมยก็ขอแยกตัวออกไป เพื่อเตรียมการแสดง

ส่วนจ้าวเทียนก็ได้พาลี่เหยาเหยามาที่นั่งตรงแถวหน้า ที่ถูกเตรียมไว้ให้ครอบครัวของนักเรียนที่ได้ขึ้นแสดง

การแสดงของนักเรียนได้ผ่านมาเรื่อยๆ งานนี้เปิดโอกาสให้ชมรมต่างๆที่เกี่ยวกับดนตรีได้มาแข่งขันกัน โดยมีผู้มีชื่อเสียงจากวงการดนตรีในสาขาต่างๆมาเป็นกรรมการตัดสิน

“ การแสดงของเสี่ยวเหมยอยู่ถัดไปจากวงนี้ ” จ้าวเทียนได้หันไปบอก ลี่เหยาเหยา

ตลอดเวลาที่ผ่านมา 1 ชั่วโมงพวกเขาได้คุยกันอย่างถูกคอ ด้วยประสบการณ์ชีวิตเกือบแสนปี แม้ว่าจ้าวเทียนจะไม่ได้สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องดนตรีมาก่อน

แต่เขาเคยเป็นมหาเทพปกครองแดนสวรรค์มานาน ได้รับชมการการแสดงดนตรีของเหล่านางฟ้าสวรรค์มาแล้วหลายครั้ง

ซึ่งมันเหนือกว่าดนตรีที่มีในโลกมนุษย์มากนัก ทำให้เขาสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์กับลี่เหยาเหยาได้อย่างเท่าเทียม

ตอนนี้ลี่เหยาเหยาได้พูดคุยกับจ้าวเทียนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการเขินอายเหมือนตอนแรก

“ การแสดงถัดไปของชมรมดนตรีสากลในเพลง For Love ครับ ”

พิธีกรชายที่ยืนอยู่บนเวที ได้ประกาศออกมา

“ แปลกนะ…นี่มันบทเพลงที่เสี่ยวเหมยจะขึ้นไปเล่นไม่ใช่เหรอ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยความสงสัย

ตอนที่พวกเขา 3 คนเดินมาด้วยกัน น้องสาวได้บอกรายละเอียดเกี่ยวการแสดงของชมรมเธอให้พวกเขาฟังหมดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน