จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 34

ย้อนกลับไปก่อนที่การประชุมตระกูลลี่จะเริ่ม

เวลาเที่ยงตรงบนเทือกเขาคุนหลุน ตอนนี้ดวงอาทิตย์สาดแสงอยู่เหนือศีรษะของจ้าวเทียนพอดี รูขุมขนทั่วร่างของเขาเปิดอ้าออก รับเอาพลังงานอันมหาศาลเข้าไปในเส้นลมปราณ

สิ่งสกปรกที่ตกค้างทั้งหมด ถูกพลังงานความร้อนทำลายสิ้นไม่มีเหลือ หากมองมาจากด้านนอก จะเห็นไอน้ำจำนวนมากปกคลุมรอบๆร่างกายของจ้าวเทียนเป็นชั้นๆ

ฟู่…

เขาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พลังปราณอันแข็งแกร่งระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ต้นไม้หลายต้นที่อยู่ห่างออกไป โบกสะบัดไปด้านข้าง เหมือนจะถูกพลังอันมหาศาลพัดปลิวไป

“ ขอบเขตปรมาจารย์ขั้นกลาง…ฉันทำสำเร็จแล้ว ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยแววตายินดี

เขาลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก แม้แต่ส่วนสูงยังเพิ่มขึ้นมาเกือบ 5 cm ร่างกายก็ดูกำยำเหมือนนักรบโบราณ

ใบหน้าเขาดูมีเสน่ห์มากขึ้น มันเพิ่มความสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อน เพราะการเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เส้นผมของเขาตอนนี้ยาวถึงกลางหลังแล้ว

แววตาเปลี่ยนเป็นดูลึกล้ำเกินจะหยั่ง เหมือนเซียนที่บรรลุเต๋าขั้นสูง พลังทั้งหมดในร่างกายถูกเก็บซ่อนอย่างมิดชิด บรรยากาศรอบๆตัวเขามีความสงบนิ่งเหมือนคมดาบที่ถูกเก็บไว้ในฝัก

ตอนนี้ต่อให้เจอผู้ฝึกตนระดับเดียวกันหรือสูงกว่าเล็กน้อย ก็มองระดับพลังของจ้าวเทียนไม่ออกอย่างแน่นอน ยกเว้นว่าเขาจะสำแดงพลังออกมาเอง มิเช่นนั้นก็คงคิดว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดา

“ ในเมื่อดูจนพอใจแล้ว…ก็ออกมาเถอะ! ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเฉยชา

เขารู้สึกถึงอีกฝ่ายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว แต่ไม่ได้สัมผัสถึงความประสงค์ร้ายเลยไม่ได้สนใจนัก แต่ตอนนี้ตัวเขาจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว

คงได้เวลาถามจุดประสงค์ของอีกฝ่ายให้ชัดเจน…

ฟุบ!

ชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้นห่างจากตัวจ้าวเทียนไปประมาณ 10 เมตร เขาก้าวมาข้างหน้าเพียง 1 ก้าว ก็มายืนอยู่ตรงหน้าจ้าวเทียนทันที

ดวงตาเฉียบคมสำรวจดูจ้าวเทียนอย่างชื่นชม มุมปากของเขามีรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“ อายุกระดูกเพียง 20 ปี…กลับอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ขั้นกลาง เธอมาจากสำนักไหนรึ” ชายคนนั้นพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

จ้าวเทียนมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่ภายในใจของเขากำลังตกตะลึงเป็นอย่างมาก แม้ดูแล้วชายคนนี้จะมีอายุ 40 กว่าปี แต่เขาคิดว่าอายุที่แท้จริงต้องเกินกว่านั้นไปมาก

‘ แม้ตัวเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าฉัน แต่กลับไม่สามารถมองขอบเขตพลังของเขาได้เลย ’

‘ ชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าฉันมาก… ’

“ คารวะผู้อาวุโส ผมชื่อจ้าวเทียน…มาจากเมืองเทียนจิน ไม่เคยเข้าสำนักไหนมากก่อน ” จ้าวเทียนคารวะตอบอย่างมีมารยาท

“ เธอ…เธอบอกว่าชื่อจ้าวเทียนงั้นเหรอ ” แววตาของชายตรงหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้รู้ชื่อของจ้าวเทียน เขามองหน้าจ้าวเทียนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ ใช่ครับ…ผู้อาวุโสเคยได้ยินชื่อผมมาก่อนเหรอครับ ” จ้าวเทียนถามด้วยความกังวล เขาลอบผนึกลมปราณขึ้นเตรียมพร้อมเอาไว้

“ เปล่าหรอก…เพียงแต่ชื่อของเธอทำให้ฉันนึกถึงเรื่องราวบางอย่างในอดีตเท่านั้นเอง ” เขาตอบขึ้นด้วยรอยยิ้มจริงใจ เหมือนกับว่าเพิ่มความสนิทสนมขึ้นอีกหลายส่วน

“ ผมขอทราบชื่อ…ของผู้อาวุโสได้หรือไม่ ” จ้าวเทียนถามขึ้น เขารู้สึกว่าชายตรงหน้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อตัวเขา แถมเขายังรู้สึกถึงความใกล้ชิดแบบที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ

ชายตรงหน้ามองจ้าวเทียนด้วยสายตาอ่อนโยน

“ ฉันชื่อเหยียนซืออู่…เป็นคนของสำนักคุนหลุน ” ชายคนนั้นตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ

จ้าวเทียนทวนชื่อเหยียนซืออู่ในใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกคุ้นเคยแม้แต่น้อย ในความทรงจำของเขาไม่มีบุคคลชื่อนี้เลยและ ความรู้สึกเขาบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก

“ ช่วยเล่าเรื่องของเธอ…ให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ” เหยียนซืออู่พูดขึ้นด้วยความเป็นกันเอง แววตาของเขามองมาด้วยความอบอุ่น เหมือนญาติผู้ใหญ่กำลังรอฟังเรื่องราวของบุตรหลาน

“ เอ่อ…ได้ครับ ” จ้าวเทียนตอบออกมาโดยไม่รู้ตัว

ทั้งคู่นั่งคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ท่ามกลางสายลมอ่อนๆ บรรยากาศร่มรื่นของธรรมชาติ เหยียนซืออู่นั่งฟังอย่างตั้งใจ มีเสียงหัวเราะ เสียงถอนหายใจออกมาบ่อยครั้ง เมื่อจ้าวเทียนเล่าถึงเรื่องในอดีต

อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกใกล้ชิด นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแดนสวรรค์แล้ว จ้าวเทียนได้บอกเล่าเรื่องทุกอย่างจนหมดสิ้น

หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับสำนักคุนหลุนให้ฟังบ้าง พร้อมทั้งเรื่องเกี่ยวกับสำนักโบราณอื่นๆที่จ้าวเทียนไม่เคยได้รู้มาก่อน ซึ่งมันก็เป็นประโยชน์กับตัวเขามาก

“ ผู้อาวุโสหมายถึง…อีกสองเดือนประตูมิติที่ปิดกั้นสำนักโบราณจะเปิดออกเหรอครับ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความตกตะลึง เขารู้ดีว่านั่นหมายความว่าอย่างไร

หากเป็นไปตามที่เหยียนซืออู่บอก ภายในสำนักโบราณนั้นมีปรมาจารย์มากมายรวมถึงขอบเขตที่สูงกว่าปรมาจารย์นั้นก็ยังสามารถพบได้

ซึ่งส่วนใหญ่ตระกูลชั้นสูงในจีน ก็มักจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสำนักพวกนั้นอยู่ หากเป็นแบบนี้มันจะต้องกระทบกับแผนการแก้แค้นของเขาแน่นอน

“ ในอดีตเมื่อ 500 ปีก่อน พลังปราณฟ้าดินในโลกของเรา มันเริ่มเจือจางลง พวกสำนักโบราณจึงย้ายเข้าไปอยู่ในโลกใบเล็ก ที่มีพลังปราณหนาแน่นกว่า ”

“ ทุกๆประมาณ 10 ปี ประตูของโลกใบเล็กจะเปิดออก 1 ครั้ง ให้ผู้คนด้านในออกมาสู่โลกภายนอกได้ ซึ่งประตูจะเปิดออกไว้เป็นเวลา 2 ปี จึงจะปิดลงอีกครั้ง ”

“ ในช่วงเวลานั้นผู้อาวุโสของสำนักต่างๆก็จะพาศิษย์รุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ ออกมาหาประสบการณ์ในโลกภายนอก ”

“ จากที่ฉันได้ยินเธอเล่ามา ตระกูลจ้าวแห่งปักกิ่งที่เธอจะต่อสู้ด้วยนั้นมีความสัมพันธ์กับสำนักง้อไบ๊อยู่ ในอนาคตข้างหน้าเธอต้องระวังตัวให้ดีนะ ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน