The king of War นิยาย บท 1933

ในใจอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงพิจารณาอัดอั้นเต็มกับการถูกสบประมาท สีหน้าอึมครึมอย่างสุด ๆ หรี่ตามองไปที่ลี่เฉินพูดไปว่า “เจ้าสำนักลี่ การซ่อนเร้นของท่านนั้นทำได้แนบเนียนจริง ๆ ไม่กลัวเลยหรือว่า เรื่องการก้าวทะลุของเจ้า จะรู้ไปถึงพันธมิตรพิทักษ์?”

ได้ฟังคำพูดนี้ ประกายฆ่าทอแวบขึ้นมาชัดในแววตาลี่เฉิน

ลี่เฉินพูดเสียงหนาวเยือกว่า “อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง เจ้าไม่ต้องมาลองสืบ หากวันไหนข้าก้าวขึ้นไปถึงขั้นนั้น ข้าจะต้องไปเดินเล่นที่สำนักกามิ กาโสะก่อนสักครั้งอย่างแน่นอน”

ทำไมเขาจะมองไม่ออกว่า อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงแกล้งหลอกถามเขา ในสภาวะตอนนี้ แน่นอนว่าเขาจะยังไม่เปิดเผยความเป็นจริงในขั้นแดนบูโดของเขาที่ได้ก้าวขึ้นถึงแดนนภาแล้ว

“ฮึ!”

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงมองพิจารณาลี่เฉินด้วยสายตาเหยียด ๆ พูดเสียงเย็นเยือกไปว่า “งั้นข้าก็ขอไปรอเจ้าที่สำนักกามิ กาโสะละ!”

พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป เพียงไม่กี่ก้าว ก็หายไปจากสายตาเหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร

มารแดงมองไปที่ลี่เฉินพูดว่า “ท่านเจ้าสำนัก อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงเหยียบเข้ามาสำนักมารเราคราวนี้ เป็นการมาดูลาดเลากองกำลังของพวกเราอย่างแน่นอน ไม่น่าจะปล่อยเขาออกไปเลย”

ลี่เฉินหัวเราะอย่างไม่ไยดี พูดเสียงเย็นชาว่า “ให้ใช่อย่างที่ว่า แล้วจะเป็นอะไร?สำนักมารเราเวลานี้ ต่อให้ไม่มีข้าอยู่ ก็ยังคงอยู่ได้ ในฐานะหนึ่งในห้าอิทธิพลสุดยอดแห่งภูเขามาร”

“ย้อนกลับดูสำนักกามิ กาโสะ หากไม่มีอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง สำนักกามิ กาโสะจะยังคงอยู่เป็นหนึ่งในห้าอิทธิพลสุดยอดแห่งภูเขามารได้หรือไม่ นั่นยังไม่รู้ได้”

ลี่เฉินไม่ใช่จะหยิ่งยโส แต่หลังจากได้พบกับหยางเฉินแล้ว ความกังวลที่เขามีอยู่แต่เดิม หมดสิ้นไม่มีเหลือ

ในเวลานี้ ถึงไม่มีเขาอยู่ ก็ยังมีมารแดงในกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น พลังฝีมือของมารแดงตอนนี้ถึงแม้ยังสู้อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ไม่ได้ แต่เขาก็ยังหนุ่มแน่นอยู่ ส่วนอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง นั้นอายุมากอยู่มาก ๆ แล้ว หากให้เวลามารแดงอีกไม่กี่ปี มารแดงก็จะถล่มอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ให้แพ้ไปได้แน่นอน

นอกจากมารแดงแล้ว ในสำนักมารก็ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดอีกหลายนาย ห่างจากก้าวขึ้นไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งก็ไม่ไกลแล้ว

แต่คนที่ทำให้เขาเกิดมั่นใจอย่างที่สุด ก็คือหยางเฉิน

ก่อนที่หยางเฉินจะสลบหลับไป ก็ได้ถล่มเนี่ยชิวในระดับกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นให้แพ้ไป สำหรับพลังฝีมือของเนี่ยชิวนั้น น่าจะอยู่ในระดับเดียวกับมารแดง

ก็จะพูดได้ว่า ในเมื่อหยางเฉินถล่มเอาเนี่ยชิวแพ้ไปได้ ก็ถล่มมารแดงให้แพ้ไปได้เหมือนกัน ถึงแม้การที่เนี่ยชิวแพ้ไปนั้น มีส่วนมาจากความกริ่งเกรงในหลายเรื่อง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พลังฝีมือของหยางเฉินนั้นเก่งกาจมาก ๆ

และหลังจากที่หยางเฉินอยู่ในสภาวะสลบไสลอยู่ จู่ ๆ ก็มีการพลังบูโดฝ่าทะลุออกมา อีกยังสามารถปล่อยเขตแดนวิถีมารออกมาได้

ให้แม้แต่ลี่เฉินเอง ก็ยังดูเหมือนรู้สึกจะมองหยางเฉินไม่ออก คิดดูได้เลยว่า หยางเฉินในเวลานี้ พลังฝีมือจะเก่งกาจไปถึงขนาดไหน น่าจะถึงขนาดไร้เทียมทานเลยในระดับขั้นต่ำจากแดนนภา

ด้วยพลังฝีมือของหยางเฉินขณะนี้ ก้าวออกไปทั่วทั้งโลกสามัญ ถ้าไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาออกมาเอง มีใครอีกหรือที่จะไปทำอะไรเขาได้?

และหม่าชาวก็เป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของหยางเฉิน เวลานี้หม่าชาวก็เป็นทายาทมารแห่งสำนักมาร เมี่อหม่าชาวได้ขึ้นมาเป็นเจ้าสำนักสำนักมารในภายภาคหน้า หากสำนักมารมีเรื่องเดือดร้อน หยางเฉินมีหรือจะปล่อยยืนดูเฉย?

ทันใดนั้นลี่เฉินก็มองไปที่หยางเฉินแล้วพูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า พี่น้องหยางเราจะฟื้นตื่นขึ้นมาได้เร็วขนาดนี้ ในเมื่อฟื้นตื่นแล้ว งั้นข้าก็จะไม่ปล่อยให้เสียเวลาอีกแล้ว อีกสักพักก็จะจัดพิธีให้หม่าชาวรับแต่งตั้งเป็นทายาทมารกันเลย”

คำพูดนี้ออกไป คนของสำนักมารทุกคนในบริเวณนั้น ตะลึงงงกันไปหมด

หยางเฉินผงกหัวเล็กน้อย มองไปที่ลี่เฉินพูดว่า “ตามแต่ท่านผู้อาวุโสลี่เห็นควร!”

เขาไม่ได้ขัดแย้งในเรื่องหม่าชาวมาเข้าสำนักมารนี้ กลับรู้สึกเห็นด้วยเอาอย่างมาก จึงแน่นอนว่าไม่มีความเห็นต่าง

แต่ทว่า ผู้แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ตอนนี้ต่างก็ตกตะลึงกัน หลาย ๆ คนมองไปที่มารแดงอย่างจงใจ

มารแดงในขณะนั้น ก็งงเซ่อขึ้นมาเต็มหน้า กับการตัดสินใจของลี่เฉินนี้ ดูน่าอัศจรรย์ใจมาก

ในสำนักมาร มารแดงจึงใช่ตัวเลือกที่มีคุณสมบัติพร้อมที่สุดในการรับเลือกเป็นทายาทมาร อายุเพียงสี่สิบเก้า พลังฝีมือก็มีถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War