เมียครับ ผัวขอโทษ นิยาย บท 97

“ไม่ใช่แค่วงการบันเทิงนะมึง รองนายกก็มา ไหนจะรัฐมนตรีอีกไม่รู้ตั้งกี่กระทรวง นี่มันงานระดับประเทศเลยนะเนี่ย” 

ดนุรุจพูดพร้อมกับรับไหว้ดาราหลายคนที่เข้ามาทักทายเขา 

 เขาหันมองดูบรรยากาศโดยรอบที่มีแต่ความครื้นเครง ใช่เขาควรจะมีความสุข แต่ทำไมในใจมันช่างแห้งแล้งเหลือเกิน ใจอดคิดไม่ได้ว่าถ้างานนี้เป็นงานหมั้นระหว่างเขากับศศินาเขาคงมีความสุขไม่น้อย ภัทรพลสะบัดศรีษะเบาๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เตือนตนเองว่า มันไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก เขาต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด หน้าที่ที่เมียรักของเขาเลือกทางเดินไว้ให้

“คุณพีทคะได้ฤกษ์แล้วค่ะ ท่านให้บีมาตามไปเริ่มพิธีค่ะ” 

บีบีผู้จัดการของคู่หมั้นของเขาเดินมาตาม เขาเดินตามหญิงสาวไป ทำทุกอย่างตามที่ทุกคนสั่ง ให้ยิ้มก็ยิ้มให้นั่งก็นอนให้ไหว้ก็ไหว้ จนถึงขั้นตอนการสวมแหวน จึงได้มีโอกาสพินิจคู่หมั้นตัวเองชัดๆ เธออยู่ในชุดไทยห่มสไปเฉียงสีเข้าคู่กับชุดเขา แลดูอ่อนหวานน่ารัก เหมือนนางในวรรณคดี รอยยิ้มแย้มปรากฎอยู่เต็มใบหน้างาม

หญิงสาวส่งมือให้ชายหนุ่มผู้เป็นคู่หมั้น เขาหยิบแหวนเพชรเม็ดงามขนาดห้ากะรัตมาสวมที่นิ้วนางของเธอ เสียงกดชัตเตอร์ของช่างภาพชื่อดัง รัวไม่ยั้งเพื่อเก็บภาพที่ดีที่สุด เธอก้มลงกราบแทบตักเขา เขายกมือรับไหว้ด้วยใบหน้าที่ฝืนยิ้มให้สดชื่นที่สุด ในอกแน่นไปหมด อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก รู้สึกถึงน้ำใสๆไหลลงมาจากหางตา 

“เจ้าบ่าวตื้นตันจนน้ำตาไหลเลยค่ะ”

เสียงแซวจากทีมงานคนหนึ่ง เรียกแขกคนอื่นๆให้หันมามองอย่างเอ็นดู ช่างภาพทำหน้าที่เก็บภาพแห่งความชื่นมื่นไว้ เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ คนอื่นอาจจะคิดว่ามันเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ มีแต่เขาเท่านั้น ที่รู้ว่ามันคือน้ำตาแห่งความอาดูร ทันทีที่สวมแหวนหมั้น เหมือนชีวิตเขากับศศินาจะห่างกันออกไปอีก แต่เขาจะอดทนอดทนรอวันที่เขาจะเป็นอิสระ

“คณพีทหอมแก้มน้องน้ำหวานหน่อยค๊า” 

ทีมช่างภาพทำหน้าที่ของตนเอง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่งานแต่ง แต่ภาพบรรยากาศแบบนี้ก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องเก็บ แขกที่มาร่วมงานส่งเสียงเชียร์ เขามองหน้าคู่หมั้นที่นั่งยิ้มเอียงอายอยู่ข้างๆ โน้มตัวไปหอมแก้มเนียน เสียงช่างภาพตะโกนบอกว่าให้หอมแช่ไว้อย่าเพิ่งขยับ เพื่อเก็บภาพสวยๆ อีกไม่นานภาพนี้คงถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกสำนักข่าว 

‘นาจะเห็นข่าวนี้หรือเปล่านะ’ 

เขาคำนึงในใจ แล้วเธอจะรู้สึกยังไงบ้าง จะเสียใจไหม ที่ไม่ใช่เธอที่อยู่ข้างๆเขาในวันนี้ หรือดีใจที่ทิ้งผู้ชายห่วยๆอย่างเขาไปได้  เขาอยากจะให้พิธีการทั้งหลายจบสิ้นเร็วๆ อยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว เพื่อปล่อยใจไปถึงใครบางคน ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม แต่เวลาก็ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกิน 

ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หญิงสาวชาวเอเชียเลื่อนอ่านข่าวจากโทรศัพท์ในมือ 

“สุดชื่นมื่นนางเอกสาวน้ำหวานนลินีหมั้นกับหนุ่มนักธุรกิจเจ้าของบริษัทประกันภัย”

ภาพข่าวเป็นรูปของชายหนุ่มหญิงสาวที่เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เธอมองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ดีใจไปกับเขาที่ชีวิตน่าจะไปได้ดีปนเปกับความเสียใจอาลัยอาวรณ์ที่คนในภาพไม่ใช่เธอหญิงสาวกลั้นน้ำใสๆไม่ให้ไหลออกมาจากตา บอกตัวเองไว้ให้เข้มแข็งเธอหย่อนโทรศัพท์ในมือลงในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนที่สวมอยู่ เดินเข้าไปในห้องครัวของโรงเรียนสอนทำขนมชื่อดังของฝรั่งเศ

“เฮ้ นาน่า เธอมาช่วยฉันดูที ว่าไส้ขนมนี่ได้ที่หรือยัง” 

นาตาชาเพื่อนสาวชาวอังกฤษเรียกเธอให้เข้ามาดูไส้มาการองที่เธอกำลังทำ หญิงสาวใช้ช้อนตักไส้มาพิจารณาแล้วยกนิ้วว่าใช้ได้เป็นกำลังใจให้เพื่อน

สามเดือนแล้วที่เธอเดินทางมาที่นี่ สถาบันสอนทำขนมที่ดังที่สุดในฝรั่งเศสเธอมาทำตามความฝันของเธอ ต้องขอบคุณน้องสาวของติณห์ ที่ช่วยประสานงานทุกอย่างให้ จนเธอสามารถมาเรียนที่นี่ได้อย่างไม่ลำบาก ตวงพรช่วยประสานงานเรื่องที่เรียนรวมไปถึงแนะนำที่พักที่สะดวกปลอดภัยให้ การได้ทำตามความฝันที่ตั้งใจมาตั้งแต่เด็กน่าจะทำให้เธอมีความสุข แต่ในใจลึกๆเธอกลับคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่ออยู่คนเดียวความคิดของเธอมักจะล่องลอยไปถึงเขา เขาจะเป็นอย่างไรบ้างเมื่อไม่มีเธออยู่ตรงนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ