ดอกหญ้าสีคราม นิยาย บท 17

สีครามเฝ้ามองเธอเลือกของอยู่ตลอด มองดูเธอต่อรองราคากับเจ้าของร้านดอกไม้ จากกระถางดอกไม้ราคา 50 เธอสามารถต่อให้เหลือครึ่งหนึ่งได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถที่จะทำให้เจ้าของร้านรู้สึกว่าถ้าไม่ขายให้เธอ ก็ขายให้ใครไม่ได้อีกด้วย สีครามเห็นแล้วก็รู้สึกแปลกใหม่มากสุดๆ

คุณชายอย่างเขาเวลาซื้อของไม่เคยดูราคาและไม่เคยต่อรองราคาด้วย

ไม่คาดคิดเลยว่าภรรยาของเขาจะเป็นคนที่ต่อราคาได้เก่งขนาดนี้ สีครามอยากจะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นเจ้าของร้านดอกไม้เจ็บปวดราวกับว่าเขาถูกตัดเนื้อชิ้นใหญ่ออกไปเสียอย่างนั้น

หลังจากจ่ายเงินแล้ว ดอกหญ้าจึงเริ่มย้ายกระถางดอกไม้ที่เธอซื้อมาไปที่รถของสีครามทีละกระถาง

ตอนแรกสีครามยืนอยู่ข้าง ๆ และมองดูอยู่เฉยๆ แต่แล้วเขาก็รู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่ข้างๆ รถเฉยๆ ในขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขนดอกไม้มันดูไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงไปช่วยดอกหญ้าขนย้ายดอกไม้ หลังจากย้ายดอกไม้ทั้งหมดแล้ว มันก็ทำให้รถของเขาถูกยัดเอาไว้จนเต็มแป๊ะ

โชคดีที่เจ้าของร้านดอกไม้ให้กระดาษแข็งมาปูบนเบาะนั่ง เพื่อกันไม่ให้เปื้อนเบาะรถของเขา

“มีอะไรอยากจะซื้ออีกไหม?”

สีครามเข้าไปในรถพลางเอ่ยถามภรรยาของเขา

“รถเต็มแล้ว ใส่ของอย่างอื่นลงไปไม่ได้แล้วล่ะ อย่าเพิ่งซื้อตอนนี้เลยแล้วกัน จะจัดการบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เสร็จได้ในวันสองวัน ฉันว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยๆ ซื้อ ค่อยๆ แต่งไป”

ดอกหญ้าคาดเข็มขัดนิรภัย เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา แล้วกล่าวกับเขาว่า “เรากลับกันก่อนเถอะ เดี๋ยวสักพักฉันต้องไปบ้านพี่สาวสักหน่อย”

สีครามขับรถไปอย่างเงียบ ๆ

“คุณสีคราม”

“ว่ามา”

“สุดสัปดาห์ คุณย่ากับพ่อแม่ของคุณจะมาหา ฉันบอกพี่สาวให้พี่สาวกับพี่เขยมาทานข้าวด้วยกันสักมื้อจะได้ไหม?ผู้ปกครองของฉันก็คือพี่สาวและพี่เขย พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ไม่ว่าเราจะมีสายสัมพันธ์กันหรือไม่ก็ตาม ในเมื่อจะพบผู้ใหญ่ ก็ต้องให้ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาเจอหน้ากัน”

เผื่อเจอกันบนถนนแล้วจะไม่รู้จักกัน

ดอกหญ้ายังมีปู่ย่าและลุงของเธออยู่ที่ชนบทด้วย แต่ทุกคนล้วนรังเกียจที่พวกเธอสองพี่น้องเป็นเด็กผู้หญิง หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พวกเขาไม่มีใครเต็มใจรับเลี้ยงดูพวกเธอสองพี่น้องเลย

กลับแบ่งเงินค่าชดเชยส่วนหนึ่งที่แลกมาด้วยชีวิตของพ่อแม่ไปอีกด้วย

บ้านที่พ่อแม่ของเธอทิ้งไว้นั้นก็มีปู่ย่าของเธออาศัยอยู่ด้วย อย่างไรแล้วเธอก็ไม่สามารถกลับไปที่นั่นได้อีกอยู่ดี และเธอก็ไม่ต้องการปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนกับญาติสนิทของเธอเองด้วย

รังเกียจพวกเธอสองพี่น้องที่เป็นเด็กผู้หญิงและปฏิเสธที่จะรับเลี้ยงดูพวกเธอเมื่อยามที่พ่อแม่เสียชีวิต ครั้นเมื่อพี่สาวของเธอแต่งงาน พวกเขายังมีหน้าที่จะร้องขอสินสอด 300,000 พวกเขาก็ถูกพวกเธอสองพี่น้องต่อว่าอย่างแสบสัน พี่สาวยืนกรานอย่างหนักแน่นไม่ยอมให้พี่เขยมอบเงินสินสอดแก่พวกเขาเป็นอันขาด

สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้เงินสินสอด 300,000 จึงจากไปพร้อมกับคำด่าสาดเสียเทเสีย และไม่แม้แต่จะเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว

ในหัวใจของดอกหญ้า พี่สาวต่างหากที่เป็นผู้ปกครองของเธอ

สีครามไม่ได้ปฏิเสธและกล่าวเสียงเรียบ “งั้นเอาอย่างนี้ คุณบอกพี่สาวให้รู้ วันเสาร์นี้ให้เธอเข้ามาพบพ่อแม่ของผม”

“ได้”

ไม่นานก็มาถึงกุสดีศิลป์อย่างรวดเร็ว

รถยนต์จอดอยู่ที่ชั้นล่าง ดอกหญ้าจะขนดอกไม้ขึ้นไปชั้นบนดังผู้หญิงแกร่งอีกครั้ง แต่สีครามกลับโทรหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของชุมชน จ่ายเงินค่าจ้างให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนไม่น้อย และขอให้พวกเขาช่วยขนกระถางดอกไม้เหล่านั้นขึ้นไปชั้นบน

ถ้าเรื่องไหนที่สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ก็ใช้เงินแก้ปัญหาไป ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ตัวเองเหนื่อย

แม้ดอกหญ้าจะคิดว่าเขาไม่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยการทำเช่นนี้ แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วพวกเขาก็ยังไม่ได้คุ้นเคยกัน มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะพูดออกไปว่าเขาใช้เงินมั่วซั่ว และเมื่อมองจากอีกมุมหนึ่ง มันเป็นเพราะเขาเห็นใจเธอ ไม่อยากให้เธอเหนื่อยขนาดนั้น เงินเล็กน้อยนั้นเสียไปแล้วก็คือเสีย แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเสียไป

มุมหนึ่งของระเบียงก็เต็มไปด้วยกระถางดอกไม้อย่างรวดเร็ว

สีครามส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นออกไป ในขณะที่ดอกหญ้ายืนอยู่บนระเบียงและมองดูระเบียงที่กว้างเกินไป แม้ว่าจะซื้อกระถางดอกไม้จนเต็มรถ มันก็กินพื้นที่ไปเพียงแค่มุมเดียวเท่านั้นเอง ชั้นตั้งดอกไม้ก็ยังไม่ได้ประกอบ และตอนนี้เธอก็ยังไม่ว่างด้วย มีเวลาเดี๋ยวค่อยกลับมาประกอบตอนหัวค่ำก็แล้วกัน

“เป็นอะไรไป?”

“ระเบียงใหญ่เกินไป วางดอกไม้แล้วก็ไม่ได้ตามที่ใจฉันอยากได้น่ะ”

สีครามเหลือบสายตามองดู อืม จริงด้วย น้ำเสียงเย็นชากล่าว “คุณอยากได้แบบไหน?แบบสวนดอกไม้ย่อมๆ เหรอ?”

ดอกหญ้าพยักหน้า

“คุณจะไปบ้านพี่สาวคุณนี่?คุณไปก่อนเถอะ แล้วผมจะไปซื้อดอกไม้กระถางที่ร้านดอกไม้มาให้อีกสักสองสามคันรถ”

ดอกหญ้ามองดูเวลาและเอ่ยถามเขา “พวกคุณทำงานกี่โมง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดอกหญ้าสีคราม