นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 70

“พี่สะใภ้ ในเมืองนี้ไม่มีโรงเตี๊ยมใดยอมให้ท่านเข้าร่วมหุ้นเพียงเพราะแค่เครื่องปรุงรสตัวเดียวดอก”

โจวกุ้ยหลานยิ้มบอก “เรื่องนี้ไม่รบกวนเถ้าแก่ไป๋เป็นห่วงดอก”

เหตุผลนี้นางรู้ดี และที่สำคัญไปกว่านั้น ตัวยาในนี้ก็ง่ายมาก เวลาผ่านไปนานเข้าคนของโรงเตี๊ยมต้องจับสังเกตได้ ถ้าแค่ขายเครื่องปรุงรสนี่ น่ากลัวไม่นานต้องโดนคนพวกนี้รู้แน่ ดังนั้นเป้าหมายของตอนนี้คือ ใช้สูตรนี้หากำไรที่มากที่สุดก่อน

ส่วนเรื่องเข้าหุ้นโรงเตี๊ยม? นั่นเป็นแค่วิธีการหนึ่งในการต่อรองราคาเท่านั้นเอง

ไป๋ยี่เซวียนโดนนางตอบแบบนี้เข้า รู้สึกไม่สบายใจนัก

ถ้าโรงเตี๊ยมไป่เว่ยได้เครื่องปรุงรสนี้ไป เช่นนั้นก็ไม่มีที่ยืนให้โรงเตี๊ยมเทียนเซียงของเขาแล้ว

ดูท่าคุยกับพี่สะใภ้คนนี้ไม่น่าได้ เขากำหมัดหันไปคารวะสวีฉางหลินพลางว่า “พี่ฉางหลิน ถ้าข้าจ่ายเงินหนึ่งร้อยตำลึงซื้อสูตรนี้ ท่านว่าเหมาะสมหรือไม่?”

ถึงแม้สวีฉางหลินจะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ยังไงเขาก็เป็นบุรุษ เขาควรจะตัดสินใจ

ไม่คิดว่าสวีฉางหลินจะตอบปฏิเสธอย่างเย็นชาทันทีว่า “เมียข้าตัดสินใจ”

คำพูดนี้ทำไป๋ยี่เซวียนใบ้กิน ไป๋ยี่เซวียนที่ก่งในด้านการเจรจามาตลอดในเวลานี้ถึงกับไร้คำพูดใดจะกล่าวได้

แต่วินาทีต่อมา เขาก็สงบจิตใจได้ หันไปขอโทษโจวกุ้ยหลานพลางว่า “ไม่ทราบว่าพี่สะใภ้เห็นเป็นประการใด?”

ต้องยอมรับจริงๆว่า ไป๋ยี่เซวียนเป็นอัจฉริยะ ยืดหยุ่นได้ทุกสถานการณ์

โจวกุ้ยหลานยิ้มเดินกลับไป พลางว่า “ เครื่องปรุงรสของข้านี้เป็นสูตรที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว และไม่เผยแพร่ให้คนนอกด้วย หากแค่หนึ่งร้อยตำลึงก็ขายแล้ว ขาดทุนเกินไป บรรพบุรุษข้าคงปีนขึ้นจากหลุมมาตีข้าตายแน่เลย”

สวีฉางหลินเลิกคิ้ว เขาฟังเมียตนพูดพล่ามเป็นนิทาน

จากแม่ยายทางนั้น เขาไม่เคยเห็นเครื่องปรุงรสนี้มาก่อน แถมทุกครั้งที่เมียตนโกหกมักจะโกหกหน้าตายราวกับเป็นเรื่องจริงอีกด้วย

แต่เมียตนเติบโตมาในหมู่บ้านต้าสือมาตลอด นางไปรู้วิธีของเครื่องปรุงรสนี้มาจากที่ใดกัน? และยังของที่เอามาเลี้ยงไก่พวกนั้นอีก

นางมีความลับอะไรกันแน่?

สวีฉางหลินมองสำรวจเมียตนเองอย่างพินิจพิเคราะห์ ใบหน้านางร่าเริง ดวงตามีประกายแสงเจ้าเล่ห์วาบผ่านเป็นบางครั้ง ทำเอาใบหน้าแห้งกร้านของนางดูมีประกายกระฉับกระเฉงนัก

เขาแววตาสั่นไหว ก่อนจะกลับเป็นปกติ

ทางนี้โจวกุ้ยหลานยิ้มเอ่ยปากอีกครั้ง “ห้าร้อยตำลึงเป็นอย่างไร?”

ถึงห้าร้อยตำลึงจะไม่น้อย แต่เทียบกับเข้าหุ้นโรงเตี๊ยมแล้ว น้อยกว่ากันมากนัก

เพราะโรงเตี๊ยมนั้นสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนแล้ว มิใช่เรื่องของเงินมากเงินน้อย

ไป๋ยี่เซวียนที่ดีดลูกคิดในใจก็ตัดสินใจ “ตกลง ทำตามที่พี่สะใภ้บอก”

พอเห็นเขารับปาก โจวกุ้ยหลานยิ้มดีใจมากขึ้น

ห้าร้อยตำลึงนะ ทรัพย์สมบัติจำนวนมากโขเลย!

“เช่นนั้นก็ตกลง” โจวกุ้ยหลานก็รับคำ

“ทั้งสองรอสักครู่ ข้าจะให้คนไปเตรียม” ไป๋ยี่เซวียนบอกกล่าวทั้งคู่ และจากไปอย่างรีบร้อน

รอจนเขาไปแล้ว โจวกุ้ยหลานเก็บความดีใจของตนไว้ไม่มิด เอนกายเข้าใกล้สวีฉางหลิน พูดอย่างตื่นเต้นว่า “สวีฉางหลิน พวกเรารวยแล้ว!”

แต่เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยินเข้า นางจงใจกดเสียงต่ำ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น สวีฉางหลินยังรู้สึกได้ว่าเมียตนตื่นเต้นแค่ไหน

สวีฉางหลินยื่นสองมืออกไปกลางอากาศ กลัวโจวกุ้ยหลานจะกระโดดดีใจมากเกินไปจนล้มลง

โจวกุ้ยหลานเขย่งเท้า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หูสวีฉางหลิน พูดเสียงเบาว่า “อีกเดี๋ยวไปซื้อเสื้อผ้าให้เจ้า เจ้าต้องใส่ให้ข้าดูนะ”

ลมหายใจอุ่นร้อนโดนหูเขา ทำให้หูเขาร้อนผ่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา