บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 330

ฉับพลันนั้นหัวใจของเธอก็เริ่มที่จะเต้นแรงมากขึ้น คิดที่จะควบคุมมันแต่ก็เปล่าประโยชน์ ตึกตักตึกตัก ค่อยๆ เร็วขึ้นที่ละนิด

โม่โยวรู้สึกปั่นป่วนอยู่นิดหน่อย ขยุกขยิกตัวคิดที่จะเอามือขึ้นบังราวกับกลัวว่าจะถูกใครพบเห็นเข้า ในใจก็หวาดระแวงและงุ่นง่าน คอยแต่ภาวนาอยู่ในใจให้การแข่งขันนี้จบลงไปเร็วๆ

ผู้ชายของประเทศF ส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อแน่นเป็นมัดๆ ในการแข่งขันรอบแรกใช้เวลาไปเกือบสามสิบนาทีเต็มถึงจะคัดคนออกได้ครึ่งหนึ่ง

บรรดาผู้ชมที่อยู่ด้านล่างก็ตื่นเต้นตะโกนเชียร์กันอย่างไม่หยุดหย่อน สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือ คู่ชายหญิงชาวจีนที่มีเพียงคู่เดียวก็ยังคงยืนหยัดอยู่ต่อไปได้ และเมื่อดูท่าทางแล้วก็ราวกับไม่เหน็ดเหนื่อยเลย นี่จึงทำให้คนพากันตกใจ

ในเมื่อสำหรับพวกเขาแล้ว เห็นว่าลู่จิ้นยวนมีรูปร่างที่ด้อยกว่าชายท้องถิ่นอย่างเห็นได้ชัด แล้วจะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรกันล่ะ

หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน โม่โยวก็รีบกระโดดผลุงลงไปอย่างรวดเร็ว ในใจก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในที่สุดก็จบแล้ว

ต่อมาในทันทีก็เริ่มการแข่งขันรอบถัดไปแล้ว

บรรดาทีมงานก็เข็นแท่นอันน้อยๆ ขึ้นมาทางด้านข้างบริเวณที่ไม่มีคน โดยเข็นเอามาให้ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่บนเวที ข้างบนแท่นมีจานคริสตัลใสวางอยู่ ข้างในจานนั้นมีกลีบดอกกุหลาบใส่จนเต็ม และที่ด้านข้างก็มีตะกร้าดอกไม้ที่ว่างเปล่าวางคู่กันอยู่

โม่โยวมองดู ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา “นี่เอามาทำอะไรเนี่ย”

ลู่จิ้นยวนยิ้มขึ้นมาเล็กๆ นัยน์ตาปรากฏร่อยรอยแห่งความพึงพอใจออกมา รู้สึกชอบใจกับการออกแบบเกมนี้มากอย่างเห็นได้ชัด พูดออกมาอย่างหนักแน่นช้าๆ ว่า “ไม่มีอะไรหรอก เกมรอบนี้ง่ายมาก ฉันส่งกลีบกุหลาบให้เธอ เธอก็เอาไปใส่ไว้ในตะกร้าแค่นี้ก็พอแล้ว”

เธอนิ่งไปในทันที ท่าทีตอบกลับแรกของเธอก็คือ ง่ายอย่างนี้เลยงั้นเหรอ

แล้วก็พลันขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที นี่มันไม่ถูกต้อง

“คุณจะส่งกลีบดอกไม้มาให้ฉัน แล้วจะส่งมาอย่างไรล่ะ” ทันใดนั้นเธอก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง แล้วดวงตาก็พลันเบิกกว้างขึ้นมาทันที

ลู่จิ้นยวนหัวเราะออกมาเบาๆ ริมฝีปากที่ยกยิ้มโค้งได้รูปนั้นช่างมีเสน่ห์ยั่วยวน นิ้วอันเรียวยาวยกขึ้นมา แล้วแตะลงไปบนริมฝีปากของตน การกระทำของเขานั้นดูธรรมชาติมาก ซ้ำยังมีความนัยที่เต็มไปด้วยความเสน่หาเจือมาด้วย

ราวกับระเบิดลง เกมยังไม่เริ่มแต่ว่าใบหน้าของโม่โยวก็ขึ้นสีแดงแล้ว

ไม่รอให้เธอพูดอะไร ลู่จิ้นยวนก็ก้มหน้าลงใช้ปากดูดกลีบกุหลาบขึ้นมาหนึ่งกลีบ ร่างกายโน้มไปข้างหน้าเบาๆ นัยน์ตาอันลุ่มลึกมองจ้องเข้าไปในดวงตาเธอ

ใบหน้าของโม่โยวแดงจนสุก ขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ยืนตัวแข็งทื่อไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

เธอไม่ขยับแม้แต่น้อย ลู่อันหรานที่อยู่ด้านล่างก็ร้อนใจจนทนไม่ไหว เพราะคู่อื่นนั้นได้ส่งต่อกลีบกุหลาบไปกันหลายกลีบแล้ว พ่อกับแม่ของเขานั้นยังไม่ได้แม้แต่กลีบเดียว

“แม่ รับสิ รีบเอาปากรับเร็วเข้าสิครับ เร็วๆ หน่อย”

เสียงอันนุ่มนวลแต่เจือไปด้วยความร้อนรนดังขึ้นมา ยิ่งทำให้ใบหน้าของโม่โยวแดงยิ่งขึ้นไปอีก คิดที่ก้าวเท้าถอยหลังออกไปแต่ก็ตัวแข็งทื่อค้างอยู่อย่างนั้น

เธอมองดูกลีบดอกไม้ที่อยู่ห่างเพียงแค่คืบ สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ขยับริมฝีปากเล็กน้อย ที่หน้าผากมีเหงื่อซึมชื้นออกมาบางๆ

นัยน์ตาของลู่จิ้นยวนหรี่เล็กลง ทันใดนั้นก็เอามือหนึ่งทาบไปที่บริเวณท้ายทอยของเธอ อีกมือก็คว้าเอวของเธอเอาไว้ แล้วประทับริมฝีปากกดลงไป กลีบดอกไม้ที่อยู่ตรงกลางก็ถูกกดแนบลงไปอยู่ระหว่างริมฝีปาก

ผู้ชมต่างก็รีบส่งเสียงตะโกนกู่ร้องเนื่องด้วยความร้อนแรงที่ปะทุออกมา

สำหรับการกระทำเมื่อสักครู่ของคู่รักชาวจีนนี้ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของโม่โยว พวกเขาไม่อาจเข้าใจได้เลย จึงสงสัยงุนงงอยู่อย่างนั้น แต่การกระทำอันดุดันของลู่จิ้นยวน ทำให้พวกเขาส่งเสียงตะโกนเฮออกมาอย่างเสียงดัง

เจ้าตัวน้อยเอามือปิดใบหน้าไว้ สีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีลับลมคมใน แอบมองลอดผ่านช่องระหว่างนิ้ว ปากอันน้อยๆ นั้นก็ยิ้มกริ่ม เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนกับจิ้งจอกก็ไม่ปาน

แต่กับโม่โยว รู้สึกว่าจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างแล้ว ดวงตาเบิกโพลง หัวสมองว่างเปล่า ห้วงเวลาที่ล่องลอยราวฝันราวกับสัมผัสได้เพียงแค่ความร้อนที่บริเวณริมฝีปากที่ถูกประกบอยู่กับลมหายใจที่คุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด ทั้งหมดรั้งเธอไว้ให้ยืนนิ่งแข็งอยู่เช่นนั้น

ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่แล้ว..........

ความเป็นจริงแล้วเวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่นัก ผู้เข้าแข่งขันคู่อื่นต่างทยอยพากันส่งกลีบดอกไม้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลู่จิ้นยวนจึงพึ่งจะปล่อยตัวโม่โยวออก นัยน์ตาสีดำราวกับหมึกที่ดูเหมือนกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องไปทั่วอย่างไรอย่างนั้น มีแสงประกายระยิบระยับเต็มไปหมด แล้วปรากฏรอยยิ้มบางๆ ขึ้นมาบนใบหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก