Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1229

เมื่อคำพูดนี้ของหลินสวินดังออกมา ทำให้สีหน้าของพวกหวังจื่ออิงดูย่ำแย่อย่างที่สุดขึ้นมาทันที

“น่าขัน คิดว่าพวกข้าจะกลัวเจ้าจริงๆ หรือ”

พลันมีคนอดไม่อยู่ ตวาดออกมาอย่างดุดัน

รังแกกันเกินไปแล้ว พวกเขาตัดสินใจจะถอนตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้แล้วแท้ๆ แต่เทพมารหลินกลับยังไม่ยอมเลิกรา เห็นพวกเขาเป็นอะไร

ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่ก้าวสู่ระดับมกุฎราชัน แต่ละคนล้วนเย่อหยิ่งอย่างที่สุด!

ชิ้ง!

หลินสวินไม่พูดไม่จา มีเพียงดาบหักที่โฉบออกมา

กระบวนเฉือนนภาสงัด!

เสียงพรูดหนึ่งดังขึ้น คนที่ส่งเสียงตวาดจากไกลๆ นั่นยังไม่ทันตอบสนอง ศีรษะของเขาก็ร่วงหล่นลง เลือดสดๆ ไหลพุ่ง

พวกหวังจื่ออิงสูดหายใจหนาวเยือก มือเท้าเย็นเยียบ

พวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ถึงเรื่องหนึ่ง จากเรื่องราวในอดีตของเทพมารหลิน เจ้าหมอนี่เป็นอันธพาลที่ไม่เกรงกลัวฟ้าดินคนหนึ่ง!

ภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ได้ยืนยันเรื่องนี้แล้ว

มกุฎราชันคนหนึ่ง กลับถูกตัดศีรษะในชั่วพริบตา!

“ข้าไม่อยากพูดจาไร้สาระอีก เพื่อเป็นการลงโทษ ส่งโอสถเทพมาคนละต้น พวกเจ้าก็จากไปได้”

เสียงของหลินสวินราบเรียบ

นี่คือตำหนักนรกเทพ เป้าหมายอย่างหินไตรภพใหญ่เกินไป ยิ่งยื้อเวลาไปนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงดูดความละโมบของผู้แข็งแกร่งมากเท่านั้น

ในลานเงียบกริบ พวกหวังจื่ออิงแค้นจนกัดฟันกรอด เจ้าหมอนี่เห็นโอสถเทพเป็นผักเน่าไร้มูลค่าหรือไร

แต่พอสบสายตาเย็นเยียบของหลินสวิน แม้ในใจพวกเขาจะเดือดดาลและอับอาย แต่สุดท้ายก็เลือกจะก้มหัว

เถาวัลย์เทพสุริยน

ดอกเก้าจักราแปรเทพ

ผลม่วงเขียวยอดปีก

หญ้าดาราเงินเทพอรหันต์

…โอสถเทพทั้งหมดสี่ต้น มูลค่าไม่อาจประเมิน

สำหรับหลินสวิน คุณลักษณะของโอสถเทพเหล่านี้นับว่าอยู่ในระดับกลางและต่ำเท่านั้น แม้แต่ต้นที่สู้บัวเทพสองลักษณ์ได้ยังไม่มีสักต้นเดียว

ทว่าเห็นพวกเขาก้มหัวให้ความร่วมมือ หลินสวินเองก็ไม่คิดจะเอาความต่อ สะบัดมือสั่งให้พวกเขาจากไปราวกับไล่แมลงวัน

ก่อนไปพวกหวังจื่ออิงล้วนทั้งโกรธและแค้นเต็มอก สีหน้าย่ำแย่กันถ้วนหน้า แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจ พวกเขาจึงทำได้แค่อดทน

คำพูดรุนแรงสักคำยังไม่กล้าพูด กลัวแต่ว่าหลินสวินจะเล่นงานพวกเขาอีก

หลินสวินเองก็รู้ดีว่าคนพวกนี้เจ็บแค้นตนเข้าแล้ว หากมีโอกาสจะต้องแก้แค้นกลับแน่

ทว่าเขากลับไม่สนใจ

ด้วยพลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ เดิมก็ไม่ได้กลัวว่าคู่ต่อสู้ที่ไม่เข้าตาเหล่านี้จะแค้นใจ

เหยี่ยวจะสนใจความแค้นใจของมดตัวหนึ่งด้วยหรือ

ย่อมไม่!

เรื่องเล็กๆ ที่แทรกมานี้ ถึงขั้นไม่สามารถสร้างแรงกระเทือนต่อจิตใจหลินสวินได้

เขาเคลื่อนสายตาไปมองคัมภีร์โบราณบนหินไตรภพ

มองใกล้ๆ ยิ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดลึกลับของคัมภีร์นี้ ตัวอักษรของมันคดเคี้ยวราวกับไส้เดือน แผ่กระจายแสงมรรค

ที่แปลกที่สุดคือ ตัวอักษรหนาแน่นราวกับสิ่งมีชีวิตกำลังกลิ้งหมุนและพลิกตัวไปมา

ผู้ฝึกปราณทั่วไปเห็นเข้าจะต้องมึนงง เพราะคัมภีร์นี้แม้จะแปลกพิสดารแต่กลับคลุมเครืออย่างที่สุด ไม่สามารถหยั่งรู้นัยอัศจรรย์อะไรได้

ถึงขั้นที่ฝืนจำยังไม่ได้ เพราะตัวอักษรของคัมภีร์โบราณเล่มนี้เปลี่ยนแปลงและหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา!

‘มิน่าถึงมีแค่พวกถานไถหลิ่วแย่งคัมภีร์โบราณกันอยู่ที่นี่ คิดว่าหวังเสวียนอวี๋เองก็คงตระหนักได้ว่า คัมภีร์นี้แม้จะมหัศจรรย์แต่กลับไม่สามารถแย่งชิงและจดจำไปได้ หมายจะแก้และเข้าถึงความเร้นลับของมันจะต้องเสียเวลามากอย่างแน่นอน’

ในใจหลินสวินตระหนักได้

โลกใบเล็กในตำหนักนรกเทพนี่ เห็นได้ชัดว่าวาสนาไม่ได้มีแค่ที่เดียว บุคคลอย่างหวังเสวียนอวี๋ย่อมไม่มีทางเสียแรงและเวลาทั้งหมดที่นี่

ทว่า…

ยามนี้มุมปากของหลินสวินกลับเผยรอยยิ้มเสี้ยวหนึ่ง

เพราะเขารู้วิธีหยั่งรู้คัมภีร์นี้พอดี!

ฮูม…

พลังจิตรับรู้อันยิ่งใหญ่แผ่ออก แทรกเข้าไปในภาพคัมภีร์โบราณหินสลักราวกับมือนับหมื่นพัน

ตัวอักษรแต่ละบรรทัดที่อัดแน่นคดเคี้ยวราวกับไส้เดือนบิดตัว พลิกหมุนวนเวียนไปในแต่ละทิศทาง ซับซ้อนและยุ่งเหยิงอย่างที่สุด ชวนให้คนปวดหัวมากจริงๆ

ตอนที่จิตรับรู้หมายจะจับตัวอักษรเหล่านี้ พวกมันก็จะพริบไหวหายไป พาให้คนร้อนรน

ทว่าหลินสวินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้

ในจิตรับรู้ของเขา ตัวอักษรเหล่านี้ก็เหมือนกับสัญลักษณ์รอยสลักวิญญาณแต่ละตัว แม้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไร้ร่องรอยที่สามารถติดตามได้ แต่เพียงแค่จัดเรียงมันทีละบรรทัดและจัดกลุ่มใหม่ ก็จะสามารถจับและสรุปรวบยอดได้แล้ว!

หากเพียงเท่านี้ ผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ก็สามารถทำได้

สิ่งที่ยากคือทุกตัวอักษรโบราณล้วนแสดงถึงความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากไม่เข้าใจนัยเร้นลับของมัน ก็ไม่มีทางจัดเรียงและจัดกลุ่มพวกมันให้เป็นคัมภีร์โบราณหน้าหนึ่งได้

เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เกินความสามารถหลินสวิน

วู้ม!

ครู่ต่อมา เขาพลันใช้จิตรับรู้เป็นพู่กัน วาดเบาๆ คราหนึ่งบนคัมภีร์โบราณหินสลัก ปรากฏรอยวิถีที่อ่อนช้อยเบาบางสายหนึ่ง

จากนั้นภาพที่น่าตกใจปรากฏขึ้น พวกตัวอักษรโบราณที่เดิมโลดแล่นอยู่ในภาพสลักหินราวกับถูกชักนำ เริ่มขยับเข้าหาวิถีที่หลินสวินวาดขึ้น

ทั้งเหมือนฝูงปลาที่เจอเหยื่อ เริ่มรวมตัวกัน

จิตรับรู้ของหลินสวินขยับไหวไม่หยุด อักษรโบราณที่รวมตัวเข้ามาก็มากขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งตอนหลัง อักษรโบราณที่เบียดเสียดหนาแน่นยังเริ่มเคลื่อนและบินหมุนไปบนรอยวิถีที่หลินสวินวาด

และตอนนี้เอง จิตรับรู้ที่ราวกับปลายพู่กันของหลินสวินก็หยุดนิ่งโดยพลัน!

วู้ม!

เสียงกึกก้องแปลกประหลาดดังขึ้นจากในภาพหินสลัก พลันเห็นอักษรโบราณที่ราวกับไส้เดือนจำนวนนับไม่ถ้วนกระโดดออกจากภาพนั่น พุ่งเข้าห้วงนิมิตไปตามพลังจิตรับรู้ของหลินสวิน…

ตูม!

ชั่วพริบตาในห้วงนิมิตของหลินสวินสะเทือนอย่างรุนแรง ถูกอักษรโบราณแบบต่างๆ เข้ามาแทนที่จนเต็ม พวกมันรวมตัวกันไม่หยุด เปล่งแสงไม่ขาดสาย

สุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นคัมภีร์โบราณที่งดงามเล่มหนึ่ง!

หลินสวินถอนหายใจยาวทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์