ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 81

ผู้ติดตามน้อยคนนั้นกลับรีบโบกมือ เดินมาด้วยความร้อนรน “ท่านไม่ได้นะขอรับ!”

เมื่อได้ยินดังนั้น หนานหว่านเยียนก็หันไปมอง เห็นเพียงผู้ติดตามสีหน้าเคร่งเครียด ท่าทางกังวลมาก

โม่หวิ่นหมิงเอ่ยกับหนานหว่านเยียน “หว่านหว่าน นี่คืออาจี้ ติดตามข้าอยู่ที่จวนนี้ห้าปีแล้ว ข้าสอนเขาอ่านเขียนเป็นประจำ เขาก็เลยเรียกข้าว่าท่าน เด็กคนนี้มีเมตตา ดูแลข้าทุกเรื่อง แต่จะระมัดระวังขาของข้ามากเกินไปเท่านั้น”

จากนั้นเขาก็กล่าวปลอบอาจี้ด้วยความอ่อนโยนละรอยยิ้ม “อาจี้เอ๋ย หว่านหว่านคือคนที่ข้าเชื่อใจมากที่สุด ไม่ว่านางจะพูดอะไร ข้าก็จะสนับสนุนทั้งหมด เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง หว่านหว่านไม่ทำร้ายข้าหรอก”

“หว่านหว่าน เจ้าวางใจ ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็จะยืนอยู่ข้างเจ้า เจ้าควรทำอย่างไรก็ทำเถอะ”

เมื่ออาจี้เห็นดังนั้นก็เม้มริมฝีปาก อยากพูดแต่ก็ไม่พูด แล้วมองหนานหว่านเยียนด้วยความหวาดหวั่นทีหนึ่ง พยักหน้าไม่พูดอะไรอีก

หนานหว่านเยียนกลับรู้สึกว่าหนุ่มน้อยผู้นี้ซื่อสัตย์จริงใจประมาณหนึ่ง และดีกับโม่หวิ่นหมิงจริงๆ “อาจี้ใช่ไหม เชื่อข้า ข้าต้องรักษาท่านลุงให้หายดีแน่ แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ข้าต้องให้เจ้าช่วยข้าทำเรื่องหนึ่ง”

ถ้าให้เขาเข้าห้วงเวลา พิษของโม่หวิ่นหมิงต้องรักษาหายแน่ แต่สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ จะเข้าห่วงเวลาเลยไม่ได้เด็ดขาด มีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในการผ่าตัดมากเกินไป

อาจี้เกาศีรษะด้วยความงุนงง มองนัยน์ตากะพริบวับวาวของหนานหว่านเยียน “พระชายามีอะไรจะสั่งหรือขอรับ”

หนานหว่านเยียน “ตอนนี้สภาพร่างกายของท่านลุงอ่อนแอมาก พิษร้ายจู่โจมหัวใจสิบปีแล้ว อวัยวะภายในเสียหายอย่างหนัก จะผ่าตัดใหญ่ไม่ได้ ฉะนั้นเขาต้องปรับร่างสมดุลกายระยะหนึ่ง เช่นนี้ความเสี่ยงในการผ่าตัดถึงจะลดลงมาก และที่เจ้าต้องทำ ก็คือดูแลเขาให้ดี ต้มยาให้เขาทุกวัน ซื้อของอร่อยให้เขา บำรุงร่างกายเขา อ้อ เงินน่ะข้ามี ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะ”

อาจี้ที่อยู่ด้านข้างไม่กล้ารับคำ แต่ความคิดนี้ดูเหมือนว่าไม่เลว เขามองโม่หวิ่นหมิงที่อยู่บนเตียง

โม่หวิ่นหมิงรูปงามสง่าดั่งหยก พยักหน้ากับหนานหว่านเยียน “ได้ เอาตามหว่านหว่านว่า”

หนานหว่านเยียนยิ้มกับเขา “ท่านลุงวางใจ สูตรยาที่ข้าเขียนล้วนเป็นยาบำรุงอย่างดี ขอเพียงท่านบำรุงเรื่อยๆ เชื่อว่าอีกไม่นานต้องผ่าตัดได้แน่”

ความจริงที่นางพูดว่าผ่าตัดๆ ชายทั้งสองในห้องฟังไม่เข้าใจสักนิด อาจี้อดถามขึ้นไม่ได้ “การรักษาโรคของท่าน ไม่ทราบพระชายามั่นใจกี่ส่วนขอรับ หรือว่าทำได้ถึงระดับไหน”

หนานหว่านเยียนมองโม่หวิ่นหมิง ยิ้มน้อยๆ “เป็นปกติ”

ผู้ชายทั้งสองตกตะลึง อาจี้ถามอย่างเหลือเชื่อ “พระชายา ท่านกล่าวเป็นเล่นหรือ เป็นปกติที่ท่านว่าคือแบบไหนขอรับ ทำให้ร่างกายท่านดีขึ้น หรือว่า หรือว่า...”

หนานหว่านเยียนพูดต่อเลย “เป็นปกติ เป็นเหมือนอย่างเราๆ เป็นคนที่แข็งแรง!”

ทันใดนั้น ผู้ชายทั้งสองในห้องก็พูดไม่ออก

หัวใจของโม่หวิ่นหมิงเต้นระส่ำน้อยๆ แววตามีความหวังเพิ่มขึ้นบางส่วน “หว่านหว่าน ข้ายังจะ...หายเป็นปกติได้จริงหรือ”

“ใช่” หนานหว่านเยียนผงกหัวกับเขา “ข้าว่าได้ ก็ต้องได้สิ”

สิบปีผ่านไป โม่หวิ่นหมิงไม่มีหวังและรู้จักนิยามคำว่า ‘เป็นปกติ’ นานแล้ว เขาก็คุ้นเคยกับความสิ้นหวังนานแล้วเช่นกัน

แต่เวลานี้ หนานหว่านเยียนกลับบอกอย่างง่ายดายว่าสามารถช่วยได้ หัวใจที่อับเฉาเป็นเถ้าถ่านสั่นสะท้าน แตกหน่อแห่งความหวังขึ้นอีกครั้ง

กรอบดวงตาเขารื้นน้ำตาเล็กน้อย ฝ่ามือประทับอยู่บนกระหม่อมของหนานหว่านเยียน ลูบอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “หว่านหว่านของพวกเราโตแล้วจริงๆ รู้ความไม่น้อย ต่อให้ไม่สำเร็จ ข้าก็วางใจเจ้าแล้ว ข้าว่าถ้าพี่สาวบนสวรรค์เห็นท่าทางของเจ้าในตอนนี้ นางจะต้องปลื้มใจแน่ๆ”

โม่หวิ่นหมิงชมเชยอย่างไม่หมกเม็ดแม้แต่น้อย หนานหว่านเยียนฉีกมุมปากอย่างเก้อเขิน

จะอย่างไร นางก็เป็นคนที่มีลูกสองคนแล้ว แถมนางก็ไม่ใช่เจ้าของร่าง ถ้ายังไม่รู้ความอีกก็ผิดกับมโนธรรมแล้วจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้