จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 800

ฟางจินหยวนรีบเข้าไป แต่ละก้าวที่เดินไป ก็เหมือนจะแก่โรยราไปนิดหน่อย ในใจก็เหมือนมีไฟสุมทรวง กำลังเผาไหม้ตัวเขาอยู่ เลือดสูบฉีดด้วยความโกรธ พลุ่งพล่านไปทั่วกาย

ฟางไห่เฟิงเป็นถึงคนที่ต้องรับภาระหน้าที่ของตระกูลฟาง พอสิ้นเขาไป ก็เท่ากับว่าตระกูลฟางได้จบสิ้นแล้วจริงๆ !

ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่ฟางจินหยวนใช้เวลาเดินไปเป็นเวลา3นาที จนกระทั่งมาถึงตรงหน้าฟางไห่เฟิง และก็ทนไม่ไหว ต้องกระอักเลือดออกมา ตัวก็สั่นไปหลายครั้ง ร่างกายก็อ่อนแรงจะล้มเสียให้ได้ สุดท้ายเขาก็อดกลั้นยืนตรงไว้ได้ แต่ก็ยังคงไม่มั่นคงเสียเท่าไร พร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อ

ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้สายตาเย็นชามองทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ได้เข้าไปรบกวนหรือห้ามอะไร ฟางไห่เฟิงเป็นคนที่น่ายกย่อง ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ หรือว่าศัตรู ฟางไห่เฟิงล้วนได้รับการยกย่องจากผู้หญิงคนนี้ เธอก็อยากจะได้เหมือนกันว่า ฟางไห่เฟิงมีอะไรจะสั่งเสีย?

ฟางจินหยวนมายืนข้างๆ ตัวฟางไห่เฟิง อ่อนแรงทั้งกายใจ ตัวนี่สั่นเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ในของเขาเปลี่ยนไปอย่างไร แต่รับรู้ได้ตอนนี้ความรู้สึกในใจของเขานิ่งขรึมมาก!

เขาไม่เคยคิดว่าฟางไห่เฟิงจะแพ้ ไม่เคยเห็นฟางไห่เฟิงบาดเจ็บทั้งตัวแบบนี้ ไม่เคยเห็นฟางไห่เฟิงตกอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นฟางไห่เฟิงบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ เพราะว่าฟางไห่เฟิงเป็นดั่งเทพของตระกูลฟาง เป็นเทพผู้ไม่เคยพ่ายแพ้!

เมื่อเทพได้กลายเป็นเทพ ก็จะกลายเป็นเส้นชัย ที่ทุกคนต้องเคารพยกย่อง!

แต่ไม่มีใครเคยคิดเลยว่า ผู้ชายที่แทบจะเป็นเทพคนนี้ ก็คือคนคนหนึ่งเท่านั้น!

ฟางจินหยวนไม่เสียดายพลังของฟางไห่เฟิง แต่เขาเสียดายที่ลูกชายตนเองต้องมาบาดเจ็บทั้งตัวแบบนี้เพื่อตระกูลฟาง เจ็วปวดหัวใจถึงขีดสุด เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป!

เขาจับมือของฟางไห่เฟิงอย่างตัวสั่นๆ น้ำตาไหลเป็นสายเลือด “เจ็บไหม ลูกพ่อ”

ฟางไห่เฟิงส่ายหัวเบาๆ “พ่อครับ เมื่อเทียบกับบาดแผลบนตัวแล้ว ผมกังวลแผลในใจมากกว่า ตระกูลฟางไม่มีทางไปแล้ว ไม่มีทางรับมืออสูรเพลิงได้ ผมไม่อยากให้ทุกคน ต้องนำความแค้นติดตัวไปปรโลกด้วย พวกเขาควรมีชีวิตวัยรุ่นที่สุขสบาย ไม่ควรมาเป็นเครื่องสังเวยของตระกูล พ่อครับ การรับมือแบบนี้มันไม่ได้ผล โดยเฉพาะต้องให้ทุกคนมาตายไปพร้อมกับผม มันไม่คุ้ม”

ฟางจินหยวนทำหน้าเคร่งขรึม มันคุ้มไหม?

มันไม่เกี่ยวว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้ม!

เป็นคนของตระกูลฟาง แถมยังนำพาตระกูลฟางเจริญรุ่งเรืองมีเกียรติยศ นั่นก็คือคนมีคุณูปการต่อตระกูลฟาง ถ้าไม่พูดถึงผลงานที่ฟางไห่เฟิงทำให้กับตระกูลฟาง ฟางไห่เฟิงก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลด้วยเหมือนกัน

มีที่ไหนจะให้พ่อส่งลูกชายตนเองไปให้คนอื่นฆ่าตาย?

ไม่ต้องพูดให้อื่นฆ่าหรอก แค่ตีนิดเดียวฟางจินหยวนก็ไม่อนุญาต!

“ไห่เฟิง พ่อก็ยังยืนยันคำเดิมนะ ตระกูลฟางจะขาดใครไปไม่ได้ ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องตายไปด้วยกัน ตั้งแต่อดีต ตระกูลฟางเราก็ไม่เคยขาดคนที่กล้าหาญ ดังนั้นเอ็งไม่ต้องพูดแล้ว”

“พ่อครับ พ่อก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ต่อหน้าพลังอำนาจที่ยากจะต้านทานนั้น ทุกอย่างมันล้วนเป็นสิ่งจอมปลอม” ฟางไห่เฟิงก็เหมือนจะคิดอะไรออก แล้วก็พูดต่อไปว่า “ผมรู้ว่าพ่อมีคนหนึ่งที่เป็นที่พึ่งได้ คือขวังซือใช่ไหม?”

ฟางจินหยวนก็พยักหน้านิ่งๆ นี่คือไพ่ใบสุดท้ายของตระกูลฟาง ไม่ถึงขั้นวิกฤติจริงๆ ฟางจินหยวนจะไม่ปล่อยขวังซือออกมา เพราะว่าขวังซือเป็นสัตว์ในตำนานที่พิทักษ์ตระกูลฟาง และเป็นปัจจับสำคัญที่ทำให้ตระกูลฟางไม่มีวันล่มสลาย

“คนน้อยยากจะชนะคนมาก” ฟางไห่เฟิงยิ้มส่ายหัวอย่างเจ็บปวด “ปรมาจารย์3คนร่วมมือกัน ผมได้ฆ่าไปแล้ว1คน ที่เหลือ2คนเจ็บหนัก ส่วนผมเองก็เจ็บหนัก ตำแหน่งของผู้หญิงคนนั้นก็อยู่เหนือปรมาจารย์3คนนั้น พลังฝีมือคงจะไม่ใช่เล่นๆ บวกกับอสูรเพลิงไม่ได้ยกพลมาเต็มกำลัง พวกเราจะรับมือไหวได้อย่างไร?”

“พ่อครับ อย่าลืมไปนะว่า องค์กรที่มีมานานเป็นพันปี จะมีแค่ปรมาจารย์ไม่กี่คนงั้นหรือ? ระดับผมก็ถือว่าปีศาจแล้ว แต่ว่าในอสูรเพลิง มีคนที่เก่งกว่าผมมากมาย พวกเขาจะยอมอยู่ภายใต้ชายคาบ้านคนอื่นงั้นหรือ? คนเก่งก็มีศักดิ์ศรีของตนเอง คนที่สามารถควบคุมพวกนั้นได้ ก็มีแต่คนที่มีความสามารถเหนือกว่า และคนระดับนั้น ก็คงจะเป็นคนที่มีฝีมือระดับทำลายฟ้าดินได้เลยทีเดียว”

“ระดับที่เหนือกว่าระดับปรมาจารย์ ก็คือระดับยอดดาวเหนือ แล้วสูงขึ้นไป จะไม่มีนินจาที่มีระดับสูงขึ้นไปอีกงั้นหรือ? แม้แต่ผมเองก็ยังไม่สามารถรู้ได้เลย อายุ30กว่าก็ได้เป็นนินจาระดับปรมาจารย์ ถือว่าหาได้ยากมากแล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็เป็นที่เชิดหน้าชูตา แต่ถ้าเอาไปอยู่ในอสูรเพลิงล่ะ?”

“พ่อครับ ผมพูดขนาดนี้ เพียงแค่จะบอกพ่อว่า โลกที่พ่อยังไม่ได้สัมผัส มันยังมีโลกใหม่อีก และโลกใหม่ที่ว่านี้อาจจะเป็นพลังที่สามารถทำลายฟ้าดินได้เลยทีเดียว พลังที่แท้จริงของขวังซือยังคงเป็นที่สงสัย จุดนี้ผมเข้าใจดี แต่มันก็เป็นเพียงระดับปรมาจารย์ที่ยังไม่เคยแพ้ใคร แต่มันไม่สามารถขัดขวางการบุกรุกของอสูรเพลิงได้ พลังของอสูรเพลิงมันไม่ธรรมดา!”

ฟางไห่เฟิงไอออกมาหลายครั้ง จากนั้นก็กระอักเลือด โม่หลันชิงเช็ดเลือดให้เขา แล้วก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความรัก แต่ในรอยยิ้มแห่งความรักก็มีความสงสารแฝงอยู่

“พ่อครับ ขวังซือจะถูกเปิดเผยออกมาไม่ได้ ชาตินี้ก็ห้ามเปิดเผยออกมา ถ้าพวกอสูรเพลิงรู้ว่ามีขวังซืออยู่ ตระกูลฟางก็จะดับสิ้นไปจากโลกนี้ อสูรเพลิงล้วนปฏิบัติกับพวกนินจาว่า ใครคล้อยตามก็อยู่ ใครขวางก็ตาย พ่อเข้าใจใช่ไหม?”

คำพูดของฟางไห่เฟิง เหมือนเอาไม้ทุบไปที่หัว เล่นเอาฟางจินหยวนมึนหัวไป!

ฟางจินหยวนนิ่งไป

การมีอยู่ของขวังซือ ทำให้เขาไม่กลัวอะไร!

พอฟังฟางไห่เฟิงพูดออกมาแบบนี้ ทำให้เขาเริมรู้สึกว่า ทุกอย่างมันไม่ได้เพียบพร้อมอย่างที่คิด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ