คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 57

เย่วซินหรี่ตามองคนร่างสูงอย่างสงสัยว่าวันนี้เขาเป็นอะไรใยถึงยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก

“อย่ามามองข้าแบบนี้” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกคนตัวเล็กเมื่อเห็นสายตาจับผิดของนางแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยทันที “เดินทางด้วยรถม้าต้องใช้เวลาสี่ห้าวันกว่าจะถึง คนป่วยคงได้อาละวาดเป็นแน่คนของข้ารายงานว่าบางครั้งก็ต้องมัดเอาไว้เช่นเดิมเพราะเขาคุ้มคลั่งคิดถึงเจ้า”

“จริงหรือ?” เย่วซินตกใจและเริ่มเป็นห่วงคนป่วยมากยิ่งขึ้นก็จริงอย่างที่ประมุขจ้าวเอ่ยคนป่วยกำลังรอนางอยู่ “เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะให้พี่จางฮั่นพาข้าไปพรรคของท่านก่อนส่วนพี่สาวคงต้องเดินทางตามไปทีหลัง” เย่วซินเอ่ยเมื่อนึกแผนการออกมาได้

“พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเองเพราะต้องกลับพรรคอินทรีย์เช่นกัน” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกร่างบาง หลายวันมานี้เขาต้องไปจัดการกับพรรคทมิฬจึงไม่ได้กลับพรรคเลยเช่นกัน วันนี้เขาตั้งใจจะมาถามนางว่าจะเดินทางไปพร้อมเขาเลยหรือไม่ ที่มาถามไม่ใช่เพราะเป็นห่วงแต่เขามีงานที่ต้องให้นางทำหลังจากเดินทางไปยังพรรคอินทรีย์ต่างหาก งานที่ทำเพื่อแลกกับปิ่นหยกของนาง จ้าวไท่เหว่ยยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจเมื่อคิดแผนการเอาคืนร่างบางได้

“ไม่รบกวนท่านดีกว่า ข้าให้พี่จางฮั่นพี่จางฮ่าวพาไปก็ได้” เย่วซินเอ่ยบอกนางไม่อยากใกล้ชิดบุรุษร่างยักษ์ผู้นี้มากนักเพราะรู้สึกไม่ถูกชะตา เขามันบุรุษร้ายกาจชอบรังแกสตรีแถมยังขี้ขโมยอีกต่างหาก

“นี่เป็นคำสั่ง ข้าไม่ได้ถามคิดเห็น” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมหยิบปิ่นหยกขาวออกมาจากแหวนจัดเก็บแล้วควงเล่นหมุนไปมาโดยหารู้ไม่ว่าทำให้คนตรงหน้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง

“คนบ้าอำนาจ!” เย่วซินกระแทกเสียงใส่พร้อมกัดฟันกรอด

จ้าวไท่เหว่ยไหวไหล่อย่างไม่สนใจคำก่นด่าพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปคว้าพวงมาลัยพวงเล็กๆที่วางอยู่บนชั้นมุมห้องขึ้นมาสูดดม เขาชอบกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดนี้และดูเหมือนว่าสตรีตัวแสบก็มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกไม้ชนิดนี้เช่นกัน

“พรุ่งนี้เช้ามารอข้าที่นี่” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอกแล้วดีดกายออกไปทางหน้าต่างของห้องพักด้วยความเร็ว

“ขี้ขโมยเสียจริงขนาดพวงมาลัยของข้าก็ไม่เว้นคนบ้า..” เย่วซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเจอเขาทีไรรู้สึกว่าตนเองพ่ายแพ้เสียทุกทีไม่ชอบเลยจริงๆ

เย่วซินเมื่อจัดการกับบัญชีของร้านเสร็จเรียบร้อยก็ไม่มีอะไรต้องทำอีก จึงคิดที่จะออกไปหาซื้อของฝากไปให้คนป่วยและจะเลยไปร้านอาภรณ์ของอิงอิงเพื่อบอกกล่าวเรื่องการเดินทางวันพรุ่งนี้ เย่วซินก้าวเท้าออกจากร้านแต่ไม่ทันระวังเลยชนเข้าคนที่กำลังเดินสวนเข้ามาในร้านจนนางถึงกับเซจนเกือบล้มแต่ยังดีที่มีมือใหญ่ฉุดรั้งเอาไว้ได้ทัน

“ขอโทษเจ้าค่ะข้าไม่ทันได้ระวัง” เย่วซินเอ่ยบอกบุรุษหน้าตาดีที่นางเดินชนเขา

“เป็นข้าที่ไม่ระวังเดินชนแม่นางจนเกือบล้ม” เจิ้งอู่เสียงเอ่ยบอกร่างบางพร้อมกับปล่อยมือของตนเองจากเอวคอดกิ่วที่เขากอดเกี่ยวเอาไว้ไม่ให้นางล้ม

“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยบอกเตรียมก้าวเท้าเดินจากไป

“ประเดี๋ยวก่อนแม่นางข้าเกือบทำเจ้าเจ็บตัวขอให้ข้าไถ่โทษโดยการเลี้ยงอาหารได้หรือไม่” เจิ้งอู่เสียงเอ่ยบอกร่างบางถึงแม้ว่าใบหน้าของนางจะมีผ้าคาดปิดบังเอาไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าภายใต้ผ้าผืนนั้นคงงดงามไม่น้อย

“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ข้าคงไม่อาจเอาเปรียบท่านหรอกเจ้าค่ะ อีกอย่างข้าทานอาหารที่นี่บ่อยจนเบื่อแล้ว” เย่วซินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสดใส บุรุษผู้นี้ดูดีมีน้ำใจแววตาเป็นมิตรไม่มีทีท่ากรุ้มกริ่มเจ้าชู้

“แล้วเจ้าจะไปที่ใดหรือ? ขอโทษที่ข้าถามแต่ข้าเพิ่งมาเยือนแคว้นแห่งนี้เลยไม่ค่อยรู้จักร้านรวงเท่าใดนักวันนี้เลยคิดว่าจะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆก่อน” เจิ้งอู่เสียงเมื่อเห็นร่างบางปฏิเสธจึงไม่คิดรบเร้าจึงเปลี่ยนเรื่องถาม เขาจะเปิดร้านสมุนไพรที่แคว้นนี้ ได้หาร้านทำเลดีๆเอาไว้แล้วและกำลังตกแต่งอยู่ แต่เมื่อผ่านมาทางนี้จึงนึกได้ว่าสตรีที่เล่นงานญาติผู้น้องของเขานางเป็นผู้ดูแลโรงเตี๊ยมแห่งนี้จึงคิดที่จะมายลโฉมเสียหน่อยเพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาคนของเขารายงานว่างานล้มเหลว

“ข้ากำลังจะไปเดินซื้อของที่ตลาดและจะไปร้านอาภรณ์” เย่วซินเอ่ยบอกบุรุษตรงหน้า

“เช่นนั้นข้าขอไปด้วยได้หรือไม่” เจิ้งอู่เสียงพร้อมกับส่งยิ้มเป็นมิตรไปให้ร่างบาง

“ก็ได้” เย่วซินเอ่ยตกลงเพราะเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย

ทั้งสองตกลงกันได้ก็พากันออกเดินมายังตัวตลาดที่มีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายทั้งสองข้างทางยังไม่รวมร้านค้าใหญ่ๆอีกตลอดแนวถนน ผู้คนก็คึกคักเดินสวนทางไปมาเพื่อจับจ่ายซื้อของ เย่วซินพาคนต่างถิ่นเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปทั่วพร้อมมองหาของฝากไปให้คนป่วยของตัวเอง

“นี่มันของสำหรับบุรุษเจ้าจะซื้อไปให้คนรักหรือ?ซินซิน” เจิ้งอู่เสียงเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะแต่ละร้านที่เดินเข้าออกนางล้วนมองหาของสำหรับบุรุษทั้งสิ้น

เย่วซินที่ได้ยินคำถามนั้นก็หัวเราะเสียงดังอย่างไม่สนใจกิริยาที่ควรมีของสตรีแล้วเอ่ยตอบเขา “ไม่ใช่คนรักของข้าแต่ข้าเป็นคนรักของเขา” เย่วซินเอ่ยตอบ

เจิ้งอู่เสียงขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบของนางเขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก แล้วไหนจะเสียงหัวขบขันนั่นอีกมีอะไรให้ขำนักหนาถึงได้หัวเราะเสียขนาดนั้นเขายังไม่เคยเห็นสตรีนางใดแสดงกิริยาเช่นนี้มาก่อน แต่ท่าทางของนางกลับดูมีเสน่ห์ชวนมองไม่น่าเกลียดเลยสักนิด

“ท่านอย่าสนใจเลย ว่าแต่ท่านไม่อยากได้สิ่งใดบ้างหรือ” เย่วซินเอ่ยถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน