คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 65

เย่วซินทำหน้าหงอยอยู่ในห้องส่วนตัวที่ประมุขจ้าวให้คนจัดเตรียมเอาไว้ให้ แถมยังมีกระดาษจดรายละเอียดงานสาวใช้มาให้อีก ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือจางฮั่นและจางฮ่าวมาส่งข่าวให้ทราบเรื่องที่อิงอิงต้องเดินทางมาถึงล่าช้า ที่นี่มีแต่บุรุษแม้มันจะเจริญหูเจริญตามากแต่มันก็เหงาปากเพราะขาดคู่เม้าท์มอยอยู่ดี

“นี่ข้าต้องเข้าครัวด้วยหรือ?ไม่นะ..” เย่วซินอ่านข้อความบนกระดาษเมื่อรู้ว่าตนเองมีหน้าที่ทำอาหารให้ประมุขจ้าวก็เกิดอาการต่อต้านทันที

“ก๊อกๆๆ...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นเย่วซินจึงเดินไปเปิดทันที

“ท่านซานจิ่นมีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ” เย่วซินเอ่ยถาม

“เอ่อ...คือว่า...ท่านประมุขให้คุณหนูเตรียมอาหารมื้อเย็นด้วยขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยด้วยท่าทีลำบากใจและไม่เข้าใจเหตุใดท่านประมุขถึงต้องให้คุณหนูเย่วซินทำหน้าที่เป็นสาวใช้ด้วย แล้วอย่างนี้จะยิ่งทำให้คุณหนูเย่วซินไม่พอใจหรือ เพราะเท่าที่สังเกตทุกวันนี้ท่านประมุขและคุณหนูเย่วซินเจอกันทีไรต้องลับฝีปากกันทุกครา

“ตอนนี้เลยหรือข้ายังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย” เย่วซินเอ่ย

“คุณหนูอย่ากังวลทางห้องครัวจัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เชิญตามมาทางนี้เลยขอรับ” ซานจิ่นเอ่ยพร้อมเดินนำทางไปยังห้องครัว ที่ตอนนี้ไม่มีผู้ใดอยู่เลยเพราะท่านประมุขมีคำสั่งให้ทุกคนออกไปจากห้องครัวจนกว่าคุณหนูเย่วซินจะทำอาหารเสร็จสิ้น

“ข้าไม่ได้ห่วงเรื่องวัตถุดิบทำอาหาร แต่ข้าไม่เคยทำอาหารเกรงว่าจะไม่ถูกปากท่านประมุขจ้าว” เย่วซินเอ่ยขณะที่กำลังเดินตามคนสนิทของท่านประมุขมายังห้องครัว

“ข้าน้อยได้ข่าวว่าคุณหนูคิดค้นเมนูต่างๆของโรงเตี๊ยมจนโด่งดังเป็นที่กล่าวขาน” ซานจิ่นเอ่ยและตนก็เคยลิ้มลองมาแล้วเช่นกัน

“ข้าใช้หัวคิดแต่ไม่เคยลงมือทำเองเลยเจ้าค่ะเลยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย” เย่วซินเอ่ย

“ท่านประมุขกินง่ายไม่เรื่องมากคุณหนูวางใจเถิด ถึงห้องครัวแล้วเชิญคุณหนูตามสบายต้นยามซวี(19.00-20.59)จะให้บ่าวมายกสำรับไปที่ห้องโถงข้าน้อยขอตัวขอรับ” ซานจิ่นเมื่อหมดหน้าที่ของตนก็เอ่ยลาและเดินจากไปทันที

เย่วซินมองไปรอบๆห้องพบว่าที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องครัวครบครันพร้อมทั้งวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร เย่วซินเมื่อชาติภพก่อนมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยเชฟช่วยจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆในการปรุงอาหาร นางไม่เคยได้ลงมือปรุงเองเลยแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะนางเฝ้ามองการปรุงอยู่ข้างเตาตลอดเวลา

ตลอดชีวิตของการทำงานในชาติภพก่อนนางเหน็ดเหนื่อยมาทั้งชีวิตผิดพลาดมาก็หลายครั้ง จึงตั้งใจเล่าเรียนเพื่ออนาคตที่สดใสจะได้ไม่ต้องลำบากอย่างที่เคย แต่ยังไม่ทันได้ถีบตัวเองออกมาจากห้องอาหารของโรงแรมก็ต้องมาตายเสียก่อน มาชาตินี้เย่วซินจึงไม่ค่อยได้เข้าครัวเท่าไรนักทำตัวราวกับว่าห้องครัวเป็นของต้องห้ามสำหรับตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

“ได้...ข้าจะทำให้สุดฝีมือเลย” เย่วซินเอ่ยกับตัวเอง จากนั้นก็เตรียมลงมือทำอาหารง่ายๆสี่อย่างคือไข่เจียวหมูสับ ผัดผักรวมมิตร หมูสามชั้นทอดผัดพริกแห้งและต้มจืดแตงกวายัดไส้ เมื่อทำอาหารเสร็จก็มีบ่าวชายมารอรับอาหารไปทันที

เย่วซินเดินตามบ่าวชายมายังห้องอาหารเพราะหน้าที่ของนางยังไม่จบ ต้องคอยดูแลท่านประมุขยามทานมื้ออาหารอีก เมื่อบ่าวจัดโต๊ะเรียบร้อย เย่วซินรีบตัดข้าวสวยใส่ถ้วยให้คนที่นั่งรออยู่ทันที

“ตักของเจ้าด้วย” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ย

“ไม่ดีกว่าข้ากินมาจากครัวแล้ว เชิญท่านประมุขตามสบายเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยปัด

“มื้อต่อไปมานั่งกินพร้อมกัน แม้ตอนนี้เจ้ามีหน้าที่รับใช้ข้าแต่อย่างไรเสียเจ้าก็ถือเป็นแขกของข้าเช่นกันข้าไม่อาจละเลยได้” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยสั่ง

“ขอบคุณที่เมตตาเจ้าค่ะ” เย่วซินกัดฟันเอ่ยอย่างว่าง่าย แต่ในใจราวกับมีไฟแผดเผา เป็นแขกอย่างนั้นหรือหึ..

จ้าวไท่เหว่ยมองอาหารที่วันนี้ดูน่ากินกว่าทุกมื้อ ไม่ผิดหวังจริงๆที่ให้นางเข้าครัว จ้าวไท่เหว่ยคิดในใจพร้อมกับคีบหมูสามชั้นขึ้นมาใส่ปาก เมื่อหมูเข้าปากก็ต้องชะงักอยากจะคายออกมาเสียตอนนั้น แต่เมื่อมองเห็นดวงตากลมโตที่มองมาอย่างยิ้มเยาะแล้วจำต้องกลืนหมูลงคอไป แล้วรีบตักต้มจืดขึ้นมาซดหวังจะให้มันดับความเผ็ดร้อน แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเพราะต้มจืดมันไม่จืดอย่างที่คิดมันกลับเค็มจนแทบกลืนไม่ลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน