กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 433

กู้ชูหน่วนตกตะลึงพรึงเพริด

"เจ้าโดนมังกรไฟทำร้ายหรือ?"

การเคลื่อนไหวของประมุขชิงแปรเปลี่ยน ใช้ทั้งแขนและขาในการปีนป่ายไปด้านบนอย่างยากลำบาก พลางพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า "ไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น"

บาดเจ็บเล็กน้อย? อันนี้เรียกว่าบาดเจ็บเล็กน้อย?

"เจ้าวางข้าลง ข้าขึ้นไปเองได้ เจ้าบาดเจ็บสาหัส ถ้ายังแบกข้าอยู่อย่างนี้ พวกเราจะขึ้นไปไม่ได้ทั้งคู่"

"นังโง่ ข้าบอกว่าจะพาเจ้าไป ข้าก็ต้องทำให้ได้อยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องกลัว ถ้าเหนื่อยก็นอนซะ ประเดี๋ยวตื่นขึ้นมาพวกเราก็ขึ้นไปถึงแล้ว"

ประมุขชิงพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย ทว่ากู้ชูหน่วนรับรู้ว่า เขาค่อย ๆ อ่อนแรงมากขึ้น ซึ่งแสดงว่าถึงขีดความพยายามสูงสุดแล้ว

เบ้าตากู้ชูหน่วนแดงก่ำ นางยื่นมือดึงหน้ากากของเขาออก พลางเผยใบหน้าอันคุ้นเคย

คืออี้เฉินเฟย......

เป็นเขาจริง ๆ ด้วย......

ความงามของใบหน้าอี้เฉินเฟยอยู่ในลำดับต้น ๆ ของใต้หล้า โครงหน้าเขาเด่นชัด อ่อนโยนและสง่าผ่าเผย คิ้วงามพริ้ง สีหน้าราวกับจันทราในวันไหว้พระจันทร์ แม้นจะได้ยลโฉมระยะไกลปราดเดียว ทว่าก็ชวนให้หลงใหลยิ่งนัก

"แม่หนู เจ้าเลวเกินไปแล้ว มาดึงหน้ากากข้าออกตอนนี้กลัวว่าข้าจะทิ้งเจ้าไปหรือไร?"

"พี่เฉินเฟย ไยเจ้าจึงดีกับข้านัก?"

"เจ้าเรียกข้าว่าพี่ พี่ย่อมต้องปกป้องน้องสาว เป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่นะ เจ้าหลับตานอนเลย"

"กึก......"

ถวัลย์สายหนึ่งขาดลุ่ยอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา

และเส้นที่ขาดคือเส้นที่ผูกตัวกู้ชูหน่วนไว้

อี้เฉินเฟยขมวดคิ้ว ไม่ว่าร่างกายจะรู้สึกปวดปานใด ทว่าก็ยังคงปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ

แผ่นหินลื่นมาก ทั้งยังมีอุณหภูมิสูงอีกต่างหาก สองฝ่ามือของเขาเสียดสีจนเป็นตุ่ม ทั้งยังร้อนจนแดงชาด ทว่าอี้เฉินเฟยหากได้ใส่ใจไม่ เขาจดจ่อกับการพากู้ชูหน่วนออกไปอย่างปลอดภัยเท่านั้น

"กึก......"

ถวัลย์รับน้ำหนักสองคนไม่ไหว ถวัลย์บนกายกู้ชูหน่วนขาดอีกหนึ่งเส้น

ครั้งนี้รู้สึกร้อนรนใจกันทั้งสองคน

อี้เฉินเฟยแกะถวัลย์บนกายแล้วมัดให้กู้ชูหน่วนอย่างไม่ใคร่ครวญ

"เจ้าทำอะไร เจ้าไม่มัดตัวเองเช่นนี้ หากเกิดอันใดขึ้น งั้นกระทั่งศพของเจ้าคงรักษาไว้ไม่ได้"

กู้ชูหน่วนจับถวัลย์อีกเส้นมัดที่เอวเขาอย่างไม่รอความเห็นชอบจากอีกฝ่าย

"อาหน่วนเชื่อฟังหน่อย ขอแค่เจ้าปลอดภัย ไม่มีอันตรายกับข้าแน่นอน เจ้าเกาะหลังข้าดี ๆ อย่าขยับมั่วซั่วก็พอ"

ประมุขชิงกวาดสายตามองทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน เขาไม่กล้าจินตนาการเลย หากถวัลย์เส้นที่สามขาดอีก

เช่นนั้นกู้ชูหน่วนจะทำยังไง?

"รอดก็ต้องรอดด้วยกัน ตายก็ต้องตายด้วยกัน"

กู้ชูหน่วนมัดให้อีกฝ่ายอย่างเผด็จการ ไม่ยอมให้เขาคัดค้าน จากนั้นก็ขบฟันรวบรวมพลังแล้วพึ่งถวัลย์ปีนขึ้นไปต่อ

ผิวหน้าผาขรุขระมาก กอปรกับทะเลโลหิตเกิดคลื่นซัดเป็นระลอก พวกเขาสองคนจึงตกอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริง ๆ

หน้าผาสูงชันเกิดเสียงกะทันหัน

กู้ชูหน่วนคิดว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาเยือน ใบหน้าพลันเผยความดีใจ

ทว่าวินาทีที่นางเงยหน้ามอง ใบหน้าก็ต้องเขียว

ไม่ใช่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์

แต่เป็นงูเหลือมผิวขาวดำ ยาวห้าสิบเมตร ไม่รู้ว่าเป็นอสุรกายขั้นไหน ยามนี้กำลังแลบลิ้นอย่างไม่หวาดกลัวอุณหภูมิของหินหนืด แค่จ้องพวกเขาราวกับเหยื่อ ในทำนองที่ว่า สามารถโจมตีได้ตลอดเวลา

ประมุขชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส

นางก็เช่นกัน

และถวัลย์ก็ช่างล่อแหลม ยิ่งไปกว่านั้นตรงนี้ยังไม่มีที่ให้ยืนตัวตรงเลย

พวกกู้ชูหน่วนจึงกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันควัน

"ร่างกายข้ายังมีอาวุธลับ แค่หนอนตัวเดียวยังคิดจะสู้ข้าหรือ"

กู้ชูหน่วนข่มอารมณ์กลัวไว้ในใจ ระหว่างที่พูดก็หยิบอาวุธลับขึ้นมากลางอากาศ

ทว่ากลับได้ยินเสียงสั่นเทาของประมุขชิง "ไม่ใช่หนึ่งตัว แต่เยอะมาก"

"เยอะเหรอ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์