ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 83

อะไรนะ!

หนานหว่านเยียนมีลูกเลี้ยงดูให้กู้โม่หาน?!

ครั้นโม่หวิ่นหมิงโพล่งคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตื่นตระหนกตกใจทันที หนานหว่านเยียนทึ่งเบิกตาโพลง!

ฮูหยินของเฉิงเซี่ยงหน้าถอดสี หนานฉีซานนัยน์ตาหดเล็ก หัวใจของกู้โม่หานรัดแน่น “อะไรนะ”

เขาหันไปมองหนานหว่านเยียนทันที! สมองหนานหว่านเยียนยังไม่ทันแล่น รู้สึกแต่อยากเป็นลมแกล้งตายไปเสีย!

โม่หวิ่นหมิงไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ตอนนี้เขากำลังเลือดขึ้นหน้า ต้องการแต่จะยกความผิดของกู้โม่หานมาตำหนิแทนหนานหว่านเยียนเท่านั้น

“ฮึ ข้าว่าเจ้าก็แค่นี้! ห่างไกลกับหว่านหว่านของพวกเราลิบลับ! ถ้าเจ้าใจเดียวรักทะนุถนอมหว่านหว่านของพวกเราไม่ได้ เจ้าก็ให้หว่านหว่านแต่งกับคนอื่นเสียเถอะ ให้นางพาลู...อื้อ”

หนานหว่านเยียนพุ่งเข้าอุดปากโม่หวิ่นหมิงแบบมือเร็วตาไวทันที

เมื่อกี้หัวใจนางจะกระเด้งขึ้นมาถึงลำคอแล้ว สงสัยว่าเซียงอวี้ก็คงถูกไอ้เลวกู้โม่หานห้ามไว้ ก็เลยไม่ได้รายงาน

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาฉงนฉงายสืบเสาะของทุกคนในยามนี้ หนานหว่านเยียนจึงฉีกริมฝีปาก ฝืนตั้งสติให้มั่น

“ท่านลุงแค่พูดเล่นเท่านั้น ความหมายของเขาคือ ช้าเร็วข้ากับท่านอ๋องก็ต้องให้กำเนิดบุตรชายอบรมสั่งสอนบุตรสาว แต่เขาควบคุมปากไม่ได้ชั่วขณะ ปากพูดไปเอง ทุกคนอย่าใส่ใจเลยนะ!”

ทว่าสีหน้าโม่หวิ่นหมิงที่ถูกอุดปากแปลกประหลาด กลอกลูกตาคล้ายจะถามหนานหว่านเยียนว่าห้ามเขาพูดทำไม

หนานหว่านเยียนพยายามส่งสายตาให้โม่หวิ่นหมิงสุดฤทธิ์ แล้วจึงปล่อยมือ “ข้ากลัวว่าท่านลุงจะพูดผิด ก็ท่านเก็บตัวมาตั้งห้าปี ไม่มีโอกาสได้รู้ข่าวสารภายนอก ทุกคนเข้าใจด้วยนะ”

จะให้เรื่องสองพี่น้องนั่นหลุดออกไปไม่ได้ และจะให้คนรู้ชาติกำเนิดของพวกนางไม่ได้ด้วย ตอนนี้หวังเพียงท่านลุงจะเข้าใจสายตาของนาง

เมื่อได้ยินดังนั้น กู้โม่หานก็พูดไม่ออกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน ไม่รู้ว่าผิดหวังมากกว่า หรือเป็นความเย็นชาที่มากกว่า

เขานึกว่าเจ้าตัวน้อยสองตัวนั้นคือลูกของเขา คิดไม่ถึงว่าจะเข้าใจผิด...

แม้ฮูหยินของเฉิงเซี่ยงและบ่าวไพร่ทั้งหลายจะสงสัย แต่พอคิดอีกที เศษสวะอย่างโม่หวิ่นหมิง หมกตัวอยู่แต่ในนี้หลายปี จะไปรู้อะไรได้ คงพูดผิดจริงๆ

พวกนางไม่คิดเรื่องนี้อีก มองหนานหว่านเยียนอย่างขำขัน

หนานฉีซานลุกขึ้นยืน มองหนานหว่านเยียนด้วยความหมายลึกซึ้งทีหนึ่ง “เชิญพระชายาพาท่านอ๋องกลับห้องพักผ่อนเถอะ คืนนี้กระหม่อมจะจัดงานเลี้ยงในครอบครัว ถึงตอนนั้นจะให้บ่าวไพร่มาแจ้งพวกท่านมาร่วมงาน”

พอกล่าวจบ หนานฉีซานก็พาฮูหยินและบ่าวไพร่ออกไป

เซียงอวี้รออยู่นอกประตู

เมื่อนั้น ในห้องก็เหลือเพียงสี่คน

อาจี้อยู่ในห้องที่มีบรรยากาศกดดัน ใช้นิ้วมือม้วนแขนเสื้อไม่หยุด เห็นชัดว่าอึดอัดมาก

โม่หวิ่นหมิงจึงเอ่ย

“อาจี้ เจ้าไปนอกห้อง ตักน้ำมาชงน้ำชาใหม่ให้ข้าหน่อย ชานี่เย็นชืดหมดแล้ว”

เมื่อได้รับคำสั่งของโม่หวิ่นหมิง อาจี้ก็เหมือนกับคว้าได้ฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย ออกจากห้องไปราวกับการหนี

ตอนนี้ เหลือเพียงพวกหนานหว่านเยียนสามคนแล้ว

ความประทับใจแรกที่โม่หวิ่นหมิงมีต่อกู้โม่หานลดฮวบ เขาเหลือบมองกู้โม่หานที่หนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์

“คนในราชวงศ์ก็ใช่ว่าจะดีเด่นเสมอไป ดูแล้ว ไม่รู้ว่าหว่านหว่านของพวกเราอยู่ในจวนอ๋องอี้ ต้องรับอารมณ์เท่าไร!”

สายตากู้โม่หานน่ากลัว “เป็นนางหรือข้าที่รับอารมณ์ นางรู้แก่ใจดีที่สุด!”

หนานหว่านเยียนหางตากระตุก คิดไม่ถึงว่าเจตนาร้ายระหว่างผู้ชายจะมากถึงเพียงนี้ได้!

นางเมินการเสียดสีของกู้โม่หาน หากระดาษและพู่กันในห้อง รีบเขียนสูตรยาบำรุงร่างกายให้โม่หวิ่นหมิง

โม่หวิ่นหมิงลดสายตามองนาง ในดวงตาปรากฏความสงสารและเสียดาย “หว่านหว่าน ข้าพูดจริงนะ ถ้าจวนอ๋องอี้รับเจ้าไม่ได้ เจ้าก็พาลู...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้