เมียไร้รัก นิยาย บท 26

เมษา....

ฉันนั่งรถเมล์กลับบ้าน ระหว่างทางก็เอาแต่คิดว่าฉันจะท้องจริงๆเหรอฉันท้องได้ยังไงในเมื่อฉันทานยาคุมตลอดเวลา จนมาฉุกคิดถึงช่วงที่คุณยายไม่สบายฉันอาจจะเผอเรอลืมกินไปบ้างหรือเปล่าเพราะช่วงนั้นฉันวิ่งวุ่นทั้งบ้านทั้งโรงพยาบาล 

"ถ้าท้องจริงๆฉันจะทำยังไงดี" นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองท้องจริงหรือเปล่า ฉันตัดสินใจไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้อแท่งตรวจครรภ์แทนการไปโรงพยาบาลเพราะมันเสียอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะซึ่งเงินเดือนของฉันยังไม่ออก ฉันคิดว่าถ้าตรวจด้วยแท่งตรวจครรภ์แล้วไม่ท้องก็จะได้ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแต่ถ้าตรวจแล้วท้องยังไงฉันก็ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีเพื่อความแน่ใจ

ตอนนี้ฉันนั่งลุ้นอยู่ว่าแท่งที่อยู่ในมือมันจะขึ้นกี่ขีด เภสัชกรบอกว่าถ้าขึ้นหนึ่งขีดคือไม่ท้องแต่ถ้าสองขีดให้ฉันไปโรงพยาบาลได้เลย

และในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง แท่งตรวจครรภ์มันก็ขึ้นสองขีดอย่างชัดเจนซึ่งฉันซื้อมาตรวจทั้งหมดสามอันเพื่อความชัวร์และมันก็ขึ้นสองขีดทั้งสามอัน ฉันทรุดตัวลงกับพื้น ฉันสับสนไปหมดมือไม้สั่นใจสั่นด้วยความตื่นเต้น ฉันมองแท่งตรวจทั้งสามอันในมืออีกครั้งเพื่อความแน่ใจเผื่อตัวเองจะตาฝาดมองผิดไปแต่ถึงจะมองกี่ครั้งหรือมองยังไงมันก็ขึ้นสองขีดอยู่ดี  นี่ฉันท้องจริงๆเหรอฉันกำลังจะมีลูกใช่ไหม ฉันค่อยๆเอามือลูบหน้าท้องตัวเองอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าสิ่งมหัศจรรย์ที่อาจจะกำลังก่อตัวขึ้นจะได้รับอันตราย

"หนูกลัวแม่จะเหงาหนูเลยจะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ใช่ไหมคะ" 

วันต่อมา....

ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนซึ่งอยู่ใกล้บ้านโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลของรัฐค่าใช้จ่ายไม่แพงเท่าโรงพยาบาลเอกชนเพราะฉันเคยพายายของตัวเองมาหาหมอที่นี่เป็นประจำ ฉันอยากมาตรวจเพื่อความแน่ใจเพราะถ้าฉันท้องจริงๆฉันก็จะได้ฝากท้องเพื่อความปลอดภัยของลูก เพราะฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองท้องได้กี่เดือนกันแน่และลูกปลอดภัยดีไหมแล้วฉันต้องดูแลตัวเองยังไงบำรุงยังไงกินอะไรได้บ้างอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ

หลังจากซักประวัติเสร็จเรียบร้อยแล้วพี่พยาบาลก็พาฉันมานั่งรอหน้าห้องตรวจครรภ์ ซึ่งมีคุณแม่หลายท่านมานั่งรอตรวจเหมือนกันกับฉันซึ่งบางท่านก็ท้องโตใกล้คลอดบางท่านก็ยังดูไม่ค่อยออกว่าท้องแต่ฉันสังเกตได้จากชุดคลุมท้อง แต่ที่เหมือนกันก็คือทุกคนมีพ่อของลูกมาด้วยบางคนก็มีแม่มีญาติพี่น้องมาส่งคงมีแค่ฉันที่มาตรวจเพียงลำพังคนเดียว

"หิวมั้ยที่รัก" ฉันหันไปข้างๆเสียงผู้ชายคนนึงที่ถามภรรยาของเขาซึ่งท้องโตยังไม่มากเขาถามเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

"ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ"

"แต่ผมว่าคุณทานนมสักหน่อยดีไหมเพราะตั้งแต่เช้าคุณทานแค่โจ๊กที่ผมทำให้นิดเดียวเอง ผมกลัวคุณกับลูกจะหิว"

"ก็ได้ค่ะทานนมก็ได้คุณจะได้สบายใจ"

" เดี๋ยวผมป้อนนะ"

"ขอบคุณค่ะที่รัก"

"ไหนบอกไม่ค่อยหิวไง ดูสิแป๊บเดียวหมดกล่องแล้ว"

"คุณอย่าแซวฉันสิคะ ฉันกินเพื่อลูกหรอกนะทั้งที่ฉันไม่ได้หิวเลย"

"โอเคครับที่รักผมเชื่อคุณก็ได้"

ฉันนั่งฟังแล้วรู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังที่มีพ่อของลูกดีๆแบบนี้พ่อของลูกที่มาคอยดูแลอยู่ไม่ห่างต่างกับฉันที่ไมมีใครเลยสักคน ไม่มีแม้กระทั่งพ่อของลูกเพราะเขาไม่เคยต้องการลูกฉันยังจำคำพูดของเขาได้ดี เขาบอกกับฉันเองว่าเขาไม่อยากมีลูกเขาไม่อยากเป็นพ่อคน ถ้าฉันท้องจริงๆฉันคงไม่บอกเขาหรอกลูกของฉันฉันจะเลี้ยงเองแม้ฉันจะไม่ได้ร่ำรวยเท่าเขาแต่ฉันมั่นใจว่าฉันจะเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกได้อย่างแน่นอน ลูกของฉันคงมีแค่ฉันเพียงคนเดียวฉันจะเป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดีให้กับแกเอง

"คุณเมษาท้องได้สามเดือนแล้วนะคะดีใจด้วยค่ะ"

"ฉันท้องได้สามเดือนแล้วเหรอคะคุณหมอ"

"ใช่ค่ะ"

"แล้วแกปลอดภัยดีใช่มั้ยคะ คือก่อนหน้านี้ฉันทำงานหนักตลอดเลยค่ะ" ฉ้นถามคุณหมอด้วยความร้อนใจเพราะถ้าฉันท้องได้สามเดือนแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันทำงานหนักมาตลอดทั้งยกอาหารเสริฟทั้งยกถ้วยยกจานแล้วแบบนี้ลูกจะปลอดดีใช่ไหม

"จากที่ดูน้องก็ปกติค่ะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ว่าต่อไปนี้คุณเมษาต้องดูแลตัวเองให้มากห้ามยกของหนักห้ามวิ่งห้ามทำอะไรที่มันมันเสี่ยงที่จะเกิดแท้ง อ่อแล้วที่สำคัญก็คือต้องทานยาบำรุงทานอาหารที่มีประโยชน์นะคะและต้องมาตรวจตามเวลานัดด้วยเพื่อที่ว่าเราจะได้ดูพัฒนาการของน้อง เดี๋ยวพยาบาลด้านนอกจะทำใบนัดให้นะคะ"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ"

"แต่ครั้งหน้ามาตรวจพาคุณพ่อมาด้วยก็ดีนะคะคุณหมอจะได้แนะนำว่าต้องดูแลคุณแม่ยังไง"

"ฉันท้องไม่มีพ่อค่ะ" ฉันบอกความจริงออกไปอย่างไม่อาย

หกเดือนต่อมา...

ตอนนี้ฉันกำลังเตรียมตัวคลอดลูก ลูกที่ฉันเฝ้าดูแลมาตลอดระยะเวลาหกเดือนตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง ฉันไม่รู้ว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายฉันหวังเพียงอย่างเดียวว่าขอให้แกปลอดภัย ถามว่ากลัวไหมฉันกลัวมากบอกตามตรงว่าฉันอยากให้พ่อของลูกมาอยู่ข้างๆแล้วคอยจับมือฉันพูดบอกว่าไม่เป็นอะไรนะไม่ต้องห่วงฉันจะอยู่ข้างๆเธอแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เขาคงจะกำลังมีความสุขกับสิ่งที่เลือกเขาคงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังได้จะเป็นพ่อคนแต่ถึงเขารู้เขาก็คงไม่สนใจเพราะเขาไม่เคยต้องการมีลูก

เวลาต่อมา...

"อุแว๊ อุแว๊ อุแว๊" เสียงร้องของลูกทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดไปหมดสิ้นฉันมองลูกที่เพิ่งคลอดออกมาตัวของแกแดงมากและร้องเสียงดังมาก

"แกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะคุณหมอ" ฉันถามขณะที่คุณหมอกำลังพาแกไปทำความสะอาดร่างกาย

"น้องเป็นผู้หญิงนะคะคุณแม่สมบูรณ์แข็งแรงดีน้ำหนักอยู่ที่สามพันห้าร้อยกรัมอ้วนจ้ำม่ำเลยค่ะคุณแม่^^"

แค่รู้ว่าลูกปลอดภัยแข็งแรงสมบูรณ์แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว  ฉันตั้งชื่อให้ลูกว่า เด็กหญิงพอใจ ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อที่คุณยายเป็นคนตั้งให้เพราะท่านเคยพูดกับฉันไว้ก่อนที่ท่านจะเสียว่าถ้าฉันกับคุณพีเจมีลูกสาวให้ตั้งชื่อว่าน้องพอใจและถ้ามีลูกชายให้ตั้งชื่อว่าเด็กชายจอมพล

กลับมาปัจจุบัน....

"แม่จ๋าเสร็จหรือยังเดี๋ยวกุ้งกับปลาหมึกหมดน้องอดกิน" ลูกสาวตัวน้อยตะโกนเรียกฉันอยู่ตรงบันไดด้วยน้ำเสียงรีบเร่ง

"แป๊บนึงนะคะแม่ล็อคประตูบ้านก่อน" ฉันบอกลูกก่อนจะรีบจัดการล็อกประตูแล้วเดินมาหาลูกที่ยืนรออยู่

"เราจะไปซื้อกุ้งที่ไหนกันดีจ้ะแม่" น้องพอใจเงยหน้าถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเพราะดีใจที่จะได้กินกุ้งกับปลาหมึกที่อยากกิน

"ไปซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างค่ะเพราะวันนี้แม่ต้องเอาไปฝากธนาคารด้วย" คือวันนี้เป็นวันอาทิตย์ธนาคารข้างนอกปิดทำการฉันจึงต้องนำเงินที่เก็บสะสมจากการร้อยพวงมาลัยไปฝากที่ธนาคารในห้างแทนและถือโอกาสพาลูกมาซื้อของด้วยถึงแม้กุ้งกับปลาหมึกในซุปเปอร์มาร์เก็ตจะมีราคาแพงกว่าในตลาดแต่ฉันก็มั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย อะไรก็ตามที่ลูกจะกินฉันต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดและปลอดภัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียไร้รัก