จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 590

ภาพละอองแสงสีรุ้งสาดเทลงมาราวกับสายฝนอันชุ่มฉ่ำ มันได้ช่วยแต่งแต้มให้ท้องฟ้าดูงดงาม เปล่งกระกายสดใสยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

ทุกครั้งที่ละอองแสงพวกนั้นสัมผัสกับพื้นดิน ก็จะถูกดูดกลืนโดยเจตจำนงของโลก เพื่อหมุนวนกลับคือสู่กระบวนกลั่นตัวใหม่อีกครั้ง จนกว่าครบเวลาหนึ่งชั่วโมงที่จ้าวเทียนกำหนดไว้ ขั้นตอนนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

“ ช่างเป็นพลังงานฟ้าดินที่เข้มข้นจริงๆ เหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ในยุคบรรพกาลเสียอีก เพียงแต่การนำมาใช้แบบนี้ ออกจะดูสิ้นเปลืองไปบ้าง ” เสวี่ยหลงพูดขึ้นอย่างรู้สึกเสียดาย

หากนำพลังงานฟ้าดินพวกนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสม ก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะบ่มเพาะยอดอัจฉริยะรุ่นเยาว์นับแสนขึ้นมา ซึ่งมันมีประโยชน์กว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคนธรรมดามาก

“ เอาเถอะ มอบโอกาสให้…. ” จ้าวเทียนยังพูดไม่ทันจบ ก็หยุดชะงักไปทันที

!!!!

ทั้งจ้าวเทียนและเสวี่ยหลง ได้เงยหน้ามองขึ้นไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกัน

“ ดูเหมือนว่า พวกเราจะมีแขกไม่ได้รับเชิญนะ ผู้อาวุโสอยู่คุ้มกันคนอื่นๆตรงนี้ ปล่อยให้ฉันออกไปจัดการเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ มหาเทวีเฟรย่ากับมหาเทวีฟริกก์ ! นี่พวกนางกล้ามาด้วยร่างจริงเลยงั้นรึ นายน้อยให้ข้าออกไปพร้อมกับท่านดีกว่า สตรีสองนางนี้แข็งแกร่งกว่าเทพโลกาขั้นสูงสุดทั่วไปมาก ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ท่านจะเผชิญหน้าตามลำพังได้ ” เสวี่ยหลงพูดเตือนอย่างเป็นห่วง

ถึงแม้เขาจะมองระดับพลังที่แท้จริงของจ้าวเทียนไม่ออก แต่ก็คงไม่เหนือกว่าเซียนพวกลี่เหยาเหยามากนัก หรือต่อให้อีกฝ่ายสามารถทะลวงขอบเขตต่อไปได้จริงๆ ก็ยังห่างไกลจากตัวตนระดับผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์มากอยู่ดี

“ เรื่องนี้ ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ” จ้าวเทียนตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ ก่อนจะฉีกมิติหายไปทันที เขาไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง เพียงแต่ยังไม่เจอคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมก็เท่านั้น

ในเมื่อต้องการจะตกปลาตัวใหญ่อย่างเต๋าสวรรค์ ถ้าไม่สำแดงความสามารถที่แท้จริงออกไปซักเล็กน้อย แล้วจะดึงดูดความสนใจอีกฝ่ายได้อย่างไร

‘ มหาเทวีเฟรย่า นางพญาวัลคีรีที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดภายใต้ขอบเขตจักรพรรดิเทพ กับมหาเทวีฟริกก์ราชินีผู้ทรงอำนาจแห่งแอสการ์ดงั้นเหรอ ช่างมาได้เวลาพอดีจริงๆ ’

จ้าวเทียนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ได้สร้างกายทิพย์ขึ้นใหม่จากสุดยอดสมบัติล้ำค่าในตำนานหลายชิ้น เขาก็ยังไม่มีโอกาสทดสอบพละกำลังและความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองเลย

ดังนั้นการปรากฏตัวของฝ่ายตรงข้ามตอนนี้ ก็เลยเป็นเหมือนการโยนนางพญาวิหคแสนสง่างามสองตัว เข้าไปอยู่ในกรงเดียวกับพยัคฆ์หนุ่มที่กำลังหิวโซ มันย่อมมีสิ่งน่าสนใจเกิดขึ้นแน่นอน

บริเวณรอบนอกระบบสุริยะ

ครืนนน!

เงาร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล ของมหาเทวีเฟรย่าเดินออกมาจากรอยแยกมิติ โดยมีหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีพร้อมกับองครักษ์เกราะแสง เจ็ดนายติดตามออกมาด้วย

สตรีคนนี้คือ มหาเทวีฟริกก์ซึ่งเป็นเมหสีเอกของราชันเทพโอดิน ส่วนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็คือบุตรชายของนาง เทพแห่งแสงสว่างบาลเดอร์ ว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไปของนครแอสการ์ด

“ น้องเฟรย่า เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเราในอดีต พี่จะให้โอกาสเจ้าได้ตายอย่างสมศักดิ์ศรีในฐานะนักรบ จงเดินทางไปที่โลกมนุษย์เพื่อสังหารจ้าวเทียน และทวงคืนแตรเขาสัตว์วัลฮัลลากลับมาซะ ”

“ ถ้าสำเร็จ ตัวเจ้าจะกลายเป็นวีรสตรีผู้กล้าที่แก้แค้นแทนเจ้านาย ไม่ใช่นักโทษแผ่นดินที่ล้มเหลวในการกบฏช่วงชิงบัลลังก์ ” มหาเทวีฟริกก์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ในใจนางรู้สึกเครียดแค้นชิงชังสตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะต้องการรักษาภาพพจน์อันดีงามให้บุตรชาย คงสั่งลงทัณฑ์ให้ตกตายไปอย่างทุกข์ทรมานตั้งแต่แรกแล้ว

“ ตายอย่างสมศักดิ์ศรีงั้นรึ หึหึ ช่างเป็นความเมตตาอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ ” มหาเทวีเฟรย่าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

จากคำพูดประโยคนี้แสดงให้เห็นว่า ต่อให้นางสามารถแก้แค้นให้ราชันเทพโอดินได้สำเร็จ พอกลับแอสการ์ดก็ต้องตายอยู่ดี อีกฝ่ายไม่มีทางปล่อยให้หอกข้างแคร่อย่างนางมีชีวิตรอดแน่นอน

‘ เอาเถอะ ในเมื่อกองทัพวัลคีรีของข้าและเหล่าแม่ทัพผู้ภักดีถูกสังหารจนหมดสิ้น ต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็คงได้รับแต่เสียงติฉินนินทาเท่านั้น ’

มหาเทวีเฟรย่าไม่นึกโทษผู้ใดทั้งสิ้น ความผิดทุกอย่างนางขอแบกรับไว้เพียงผู้เดียว มหาเทวีฟริกก์ได้รับปากแล้ว ว่าจะให้อภัยโทษแก่ดวงวิญญาณของเหล่าวัลคีรีที่กลับมาเกิดใหม่ เพียงเรื่องนี้ก็เพียงพอที่นางจะขายชีวิตให้อีกฝ่ายแล้ว

“ เกราะปีกสวรรค์! หอกแห่งชัยชนะ! ”

ชุดเกราะวัลคีรีสีทองได้ปกคลุมร่างกายมหาเทวีเฟรย่า พร้อมกับหอกโบราณเปล่งแสงเจ็ดสี ซึ่งเป็นอาวุธระดับพระเจ้าที่แท้จริงของนางปรากฏขึ้นในมือ พริบตานั้นอาการบาดเจ็บทั้งหมดของนางก็ถูกรักษาจนหายดีทันที

“ เสด็จแม่ ลูกก็ต้องการแก้แค้นให้เสด็จพ่อเช่นเดียวกัน ” บาลเดอร์รีบส่งกระแสจิตไปหามารดา เขาต้องการแสดงความสามารถให้ประจักษ์ ว่าตนเหมาะสมกับตำแหน่งกษัตริย์อย่างแท้จริง ไม่ใช่อาศัยเพียงสายเลือดอันสูงส่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน