จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 599

ณ มหาวิหารเต๋าสวรรค์เทพเจ้าสูงสุด

บนยอดเขาจักรวาลจุดศูนย์กลางของแดนสวรรค์ทั้งมวล มีตำหนักราชวังสีขาวขนาดใหญ่โตมโหฬารที่มีอาณาเขตครอบคลุมหนึ่งกาเลกซี่

สถานที่แห่งนี้คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ได้รับการกราบไหว้บูชาจากเหล่าทวยเทพทุกยุคทุกสมัยมาเกือบล้านปี จนแม้แต่มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องยอมก้มหัวให้

ภายในท้องพระโรงโออ่ากว้างขวาง ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายมนตราแห่งความลี้ลับ มีเงาร่างอันเลือนรางกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์สีทอง ท่ามกลางลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายเจิดจ้าดุจดวงตะวัน

ทันใดนั้น

แกร่ก!

บนแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ด้านข้างท้องพระโรง หนึ่งในสิบเอ็ดรูปสลักหยกซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับมหาเทพอวี่หวง ได้ก็แตกสลายสลายกลายเป็นฝุ่นผงลอยหายไปในอากาศ

“ หืม อวี่หวงพ่ายแพ้แล้วงั้นรึ ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก ”

เมื่อเสียงอันเย็นชาดังออกมาจากลำแสงศักดิ์สิทธิ์ สัญลักษณ์รูปดวงตาสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นตรงตำแหน่งที่เคยเป็นของรูปสลักมหาเทพอวี่หวง ทำให้บางสิ่งที่เพิ่งจะถูกทำลายไปกลับคืนมาอีกครั้ง

“ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าคืออวตารลำดับที่เก้าแห่งเต๋าสวรรค์ ”

แวบ!

สิ้นเสียง รูปสลักของมหาเทพอวี่หวงก็ได้รับชีวิตใหม่ ก่อนจะก้าวเดินลงมาจากแท่นบูชา แล้วโค้งคำนับไปที่เงาร่างซึ่งอยู่ภายในลำแสงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเคารพ

นับตั้งแต่อวตารลำดับที่เก้าคนเก่า ถูกสังหารไปในเหตุการณ์ทลายนภาของต้วนมู่เฉียน เต๋าสวรรค์ก็พยายามปลูกฝังมหาเทพอวี่หวงขึ้นมาแทนที่

แต่เนื่องจากจิตวิญญาณของมหาเทพอวี่หวงยังคงต่อต้านอยู่ ก็เลยไม่อาจหลอมรวมได้โดยสมบูรณ์ แตกต่างกับในเวลานี้ที่ตัวตนอีกฝ่ายถูกลบหายไปเรียบร้อยแล้ว

“ จงนำหุ่นเชิดสิบจักรพรรดิไปสังหารหลินซินเยว่ซะ อย่าปล่อยให้นางหนีรอดไปได้เด็ดขาด ”

“ ตกลง ข้าจะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน ” อวตารลำดับที่เก้าพูดขึ้นอย่างมั่นใจ ก่อนจะวาดฝ่ามือไปทางรูปสลักอดีตมหาเทพทั้งสิบองค์

แวบ!ๆๆๆๆ

สิบมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ได้ก้าวลงมาจากแท่นบูชาทีละองค์ ถึงแม้จะสูญเสียจิตวิญญาณและมรรคาจักรพรรดิไปแล้ว แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งเทียบเท่าจุดสูงสุด ของขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นต้น

ยิ่งเมื่อรวมกับอวตารเต๋าสวรรค์ลำดับที่เก้า ที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นกลาง ด้วยกองกำลังขนาดนี้ย่อมเอาชนะจักรพรรดิขั้นสูงได้อย่างง่าย เช่นเดียวกับตอนเผชิญหน้ากับมหาเทพจูเซียนในอดีต

ครืนน! วูป!

เมื่อสิบเอ็ดจักรพรรดิเทพพุ่งทะยานหายเข้าไปในช่องว่างมิติ ท้องพระโรงมหาวิหารก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

สิบลมหายใจผ่านไป

เงาร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ก็ลุกขึ้นก้าวเดินออกมาจากลำแสงศักดิ์สิทธิ์ช้าๆ เขามีรูปโฉมอยู่ในวัยกลางคน จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วทั้งสองพาดเฉียงขึ้นดุจกระบี่ นัยน์ตาลึกล้ำหยามเหยียดสรรพสิ่ง สวมชุดคลุมจักรพรรดิสีดำเปล่งประกายระยิบระยับ

ซึ่งหากเทพกระบี่และเสวี่ยหลงได้เห็นใบหน้าของชายคนนี้ชัดๆ ก็จะต้องตกใจจนอ้าปากค้างแน่นอน เพราะเขาคือศัตรูคู่แค้นของจักรพรรดิอสูรกระบี่แสวงพ่ายที่หายตัวไปในอดีต

ปราชญ์กระบี่ฟ้า ฟ่านเจี้ยนหลง!

ขอบเขตครึ่งก้าวผู้ปกครองเอกภพ!

หนึ่งในสามผู้นำตระกูลใหญ่ แดนสวรรค์ยุคบรรพกาล!

เจ้าวิหารราชันกระบี่ ทายาทรุ่นหลังแห่งผู้ปกครองเอกภพ!

หลังพ่ายแพ้ในการต่อรู้ จนตระกูลฟ่านถูกจักรพรรดิอสูรกระบี่กวาดล้าง ฟ่านเจี้ยนหลงก็สำนึกตัวดี ว่าไม่อาจต่อกรกับฝ่ายตรงข้าม ที่ได้รับการสนับสนุนจากจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นที่เก้าได้

เขาจึงหลบซ่อนกายเพื่อเอาชีวิตรอด ก่อนจะยอมละทิ้งตัวตนหันไปเข้าร่วมกับเต๋าสวรรค์ซึ่งเป็นกองกำลังลึกลับในยุคสมัยนั้น ในฐานะของร่างอวตารลำดับสามที่ยังรักษาสติสัมปชัญญะความนึกคิดสมบูรณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน