แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 368

จางเสี่ยวหลิงสื่อความหมายว่า เมื่อก่อนตอนลั่วเสี่ยวปิงชี้แนะสั่งสอนนาง นางยังห่วงใยญาติพี่น้องอยู่ และไม่สามารถตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้

หากตอนนั้นเด็ดเดี่ยว วันนี้ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอก

ลั่วเสี่ยวปิงมองจางเสี่ยวหลิง แล้วกล่าวว่า“แกะหายล้อมคอก ก็ยังมิสายเกินไปนะ”

อย่างน้อยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชีวิตของจางเสี่ยวหลิงก็สามารถลิขิตตัดสินใจด้วยตนเองได้

นี่เป็นเหตุผลที่ตอนอยู่เรือนของจางต้าโถว ที่นางไม่ได้ออกหน้าช่วยเหลือจางเสี่ยวหลิง

มีบางเวลา มีบางเรื่อง เมื่อคนที่อยู่ข้างๆช่วย มันก็มิสู้ได้บรรลุเป้าหมายแล้วเดินออกมาด้วยตนเองหรอกนะ

ในวันนี้ จางเสี่ยวหลิงพูดกับลั่วเสี่ยวปิงมากมาย รวมถึงวันข้างหน้ามีการวางแผนอะไรแบบไหนด้วย

เรื่องการแต่งงานของจูต้าหรงแน่นอนว่านางไม่มีทางยินยอม ส่วนเหรียญยี่สิบตำลึงนั้น เอารวบรวมแล้วนางยังสามารถคืนได้

ส่วนความสัมพันธ์กับเฉินต้าจ้วง เมื่อพูดถึง จางเสี่ยวหลิงค่อนข้างเสียใจ ทว่าไม่ได้พูดอะไรมาก

พูดเพียงแค่ว่า หากไม่มีพรหมลิขิต ก็ช่างเถิด ตนเองใช้ชีวิตตลอดไปกับเสี่ยวยาก็ได้

ลั่วเสี่ยวปิงดูออกว่าจางเสี่ยวหลิงค่อนข้างล่าถอย แต่ล้วนเป็นเรื่องส่วนตัวของนาง ลั่วเสี่ยวปิงเลยไม่ได้จะแทรกแซง

หากสุดท้ายป้ากุงสามารถยอมรับจางเสี่ยวหลิงได้ เช่นนั้นคือดีอกดีใจกันทุกคน หากไม่สามารถรับได้ หรือใจของจางเสี่ยวหลิงเองรู้สึกมองหน้ากันไม่ติด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ไร้ซึ่งหนทางแล้ว

สองวันนี้พอดีกับลั่วเสี่ยวปิงไม่ต้องไปที่เมือง จางเสี่ยวหลิงเลยพูดว่าอยากจะพักอยู่กับนางสักสองวัน ลั่วเสี่ยวปิงเองก็มิได้ปฏิเสธ

แต่เรื่องของจูต้าหรงจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ลั่วเสี่ยวปิงกลัวว่าจางเสี่ยวหลิงจะเสียเปรียบ จึงได้สั่งให้อั้นหวู่ตามไปด้วย

เป็นอย่างที่คิด จูต้าหรงไม่ได้ให้จางเสี่ยวหลิงคืนเหรียญถอนหมั้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น แต่มีอั้นหวู่อยู่ด้วย เรื่องของจางเสี่ยวหลิงก็ถือว่าแก้ไขได้อย่างราบรื่นดี

แก้ไขปัญหาอันใหญ่หลวงเรียบร้อยแล้ว ชัดเจนว่าจางเสี่ยวหลิงโล่งอกขึ้นมาก แต่ขณะที่อยู่เรือนของลั่วเสี่ยวปิง ก็ไม่ได้ออกไปเดินเล่น

ลั่วเสี่ยวปิงรู้ว่า นางไม่อยากจะเจอพวกจางต้าโถว ก็เลยไม่บีบบังคับฝืนใจ

วันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงได้ปรึกษาหาลือกันกับจางเสี่ยวจวนเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับเรื่องปัญหาหาของการขยายโรงงานเซรามิค ตอนที่กลับเรือน กลับได้เห็นเด็กคนหนึ่งยืนอยู่บนถนน

คนนั้นคือจางเอ้อหู่

แต่เดิมจางเอ้อหู่เป็นเด็กอ้วนที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่บ้าน เป็นเด็กที่กินเล่นและองอาจเป็นอย่างมาก

แต่ตอนนี้จางเอ้อหู่ผอมลงมาก ชัดเจนว่าคนทั้งคนขรึมลงไม่น้อย

ก็ใช่ เมื่อไม่มีพ่อแม่แล้ว อาศัยเด็กสองคนสามารถเลี้ยงดูตนเองได้นั้นไม่ง่ายเลย

ลั่วเสี่ยวปิงสงสารจางเอ้อหู่สองพี่น้อง แต่ก็นอกเหนือจากเหรียญที่ให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยดูแลบ้างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้จางเอ้อหู่มารับรู้

และตั้งแต่ภัยพิบัติหิมะครั้งนั้น ในความเป็นจริง ลั่วเสี่ยวปิงได้เจอจางเอ้อหู่น้อยครั้งมาก

วันนี้จางเอ้อหู่มารออยู่ตรงหน้า ท่าทางลังเลใจและมองมาทางนางอยู่เป็นนิจ ชัดเจนว่ามาหานางโดยเฉพาะ

สัญชาตญาณของลั่วเสี่ยวปิงจึงสั่งให้เร่งฝีเท้า มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจางเอ้อหู่

“เจ้ามาหาข้าหรือ?”ลั่วเสี่ยวปิงกล่าวถาม ด้วยน้ำเสียงที่พยายามนุ่มนวลอย่างที่สุด เพียงเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กตกใจ

จางเอ้อหู่ส่ายหน้าไปมา จากนั้นพยักหน้าทันที พร้อมกล่าวว่า “เอ่อ….เอ่อคือ…เสี่ยว พี่เสี่ยวปิง ข้า……”

จางเอ้อหู่ตื่นเต้นมาก เหมือนคนลิ้นจะพันกันแล้วอะไรประมาณนั้น เขาเก้ๆกังๆอยู่นาน ก็ไม่พูดออกมา

ลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่ได้รีบร้อน นางรอจางเอ๋อหู่รวบรวมคำพูดได้อย่างเงียบๆใจเย็น และพยายามไม่กดดันเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง