บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1364

การตรวจสอบอาหารและเครื่องดื่มของหวงกุ้ยเฟยและฮู่เฟยอย่างละเอียดนั้น ใช้วิธีการของกรมการพระนครเพื่อตรวจสอบ ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องของฮู่เฟยผ่านไปแล้ว แต่ของหวงกุ้ยเฟยยังอยู่ อีกทั้งหวงกุ้ยเฟยก็เพิ่งจะได้ดื่มน้ำแกงไปเมื่อเย็นวาน ดังนั้นต้องเริ่มสืบจากคนที่ต้มน้ำแกงเมื่อวานนี้ ก็จะรู้ได้ในพริบตาว่าใครที่เป็นคนแตะต้องน้ำแกงนี้

หากจะสืบสาวราวเรื่องไปตามเบาะแส แน่นอนว่าย่อมต้องสืบไปที่ตัวของแม่นมหลาน เดิมแม่นมหลานเคยรับใช้ฮองเฮา กู้ซือจึงคิดว่าคงจะสืบสาวไปจนถึงตัวฮองเฮาแน่ แต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากเค้นถามหลายครั้งเข้า แม่นมหลานไม่สามารถทนรับการลงโทษไหว จึงยอมสารภาพว่าเป็นคำสั่งของฉินเฟยที่บงการให้นางทำ

แม่นมหลานร้องไห้พลางพูดว่า "เป็นฉินเฟยที่สั่งให้ข้าน้อยใส่ใบตงขุย (รู้จักกันในชื่อใบเมลโล) ลงในน้ำแกงของฮู่เฟยเพคะ แต่ข้าน้อยใส่เพียงสองครั้งเท่านั้น ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นแม่นมยู่ที่เป็นคนใส่ แม่นมยู่ได้รับเงินหลายพันตำลึงจากฉินเฟย จึงแอบใส่ใบตงขุยลงไปในน้ำแกงนานกว่าหนึ่งเดือน จึงมีผลให้พระนางแท้ง ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าน้อยนะเพคะ ต่อให้ข้าน้อยไม่ได้ใส่ใบตงขุยเมื่อสองครั้งสุดท้ายนั่น ครรภ์ของพระนางก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้อยู่ดี”

เดิมทีแม่นมยู่เป็นคนที่ตระกูลเดิมของฮู่เฟยส่งมาให้ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่านางจะถึงกับช่วยฉินเฟยทำร้ายฮู่เฟยได้ เรื่องนี้ช่างชวนให้รู้สึกตกใจอย่างมาก กู้ซือคุมตัวแม่นมหลานไปส่งถึงตรงหน้าหยู่เหวินเห้า พูดว่า "สารภาพแล้ว บอกว่าฉินเฟยเป็นคนสั่งพ่ะย่ะค่ะ"

หยู่เหวินเห้าทูลรายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้หมิงหยวน ฮ่องเต้หมิงหยวนถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ เหมือนกับเชื่อไม่ลงว่าสองเรื่องนี้จะมีคนบงการอยู่ทั้งยิ่งไม่อยากเชื่อว่าฉินเฟยจะเป็นคนทำเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้

แต่แทบจะในเวลาเดียวกัน พระองค์ก็กริ้วมาก สาวเท้าก้าวเดินยาว ๆ ออกไปข้างนอก "ถ่ายทอดคำสั่งให้ฉินเฟยไปที่ห้องทรงพระอักษรเดี๋ยวนี้!"

ฉินเฟยถูกพาตัวไปยังห้องทรงพระอักษรกลางดึก ตั้งแต่มีข่าวมาจากตำหนักฉางเหมินว่าหวงกุ้ยเฟยจะคลอดแล้ว นางก็ไม่ยอมนอน เอาแต่เฝ้ารอข่าวจากที่นั่นอย่างใจจดใจจ่อ

แต่นางกลับรอจนได้รับข่าวว่า ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเรียกนางเข้าเฝ้าอย่างเร่งด่วนแทน

ในใจนางตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง แต่ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วเดินตามมู่หรูกงกงไปยังห้องทรงพระอักษร

หยู่เหวินเห้าอยู่ข้าง ๆ ฮ่องเต้หมิงหยวนในห้องทรงพระอักษรตลอด เขาแทบไม่เคยเห็นเสด็จพ่อทรงกริ้วมากถึงขนาดนี้มาก่อน เรียกว่าทรงกริ้วมากจนควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนสายแล้วสายเล่า ปรากฏบนหน้าผากจนแน่นขนัด ทั้งเนื้อทั้งตัวก็แผ่รังสีเย็นชาจนน่ากลัว

ฉินเฟยถูกพาตัวเข้ามา นางซึ่งตอนแรกยังกอดความคิดที่ว่า ตัวเองจะสามารถหนีความผิดพ้น ได้เห็นสีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวน หัวใจของนางก็แข็งค้าง แข้งขาพลันอ่อนแรง ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตึง

หลังจากปากแข็งไม่ยอมรับไปสองประโยค แต่อย่างไรก็ไม่อาจทนรับคำถามที่เต็มไปด้วยความโกรธกริ้วของฮ่องเต้หมิงหยวนได้ สุดท้ายฉินเฟยก็ทรุดตัวลงไปหมอบราบกับพื้นยอมสารภาพความจริงออกมาในที่สุด

นางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ร้องไห้แต่กลับยิ้มให้ฮ่องเต้หมิงหยวน "อาศัยอะไร? ทั้งที่ลูกชายของข้าตายไปแล้ว พวกนางกลับยังได้คลอดลูกอีก? หม่อมฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ลูกชายจากไปแล้ว ฝ่าบาทก็ไม่เสด็จมาหาอีก ทุกวันนี้หม่อมฉันไม่หลงเหลือความหวังแล้ว พวกนางอาศัยอะไรถึงยังลำพองใจได้ขนาดนี้อยู่อีก?"

ฮ่องเต้หมิงหยวนตวาดอย่างโกรธแค้นว่า"เจ้ามันช่างจิตใจชั่วช้ายิ่งกว่าอสรพิษ การที่หยู่เหวินจุนมีจุดจบเช่นนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะความผิดที่เขาทำเองทั้งนั้น ไม่มีใครทำร้ายเขา ทำไมเจ้าถึงต้องไปทำร้ายคนอื่นเพื่อแสดงความไม่พอใจของตัวเอง? เจ้ามันผู้หญิงชั่วช้ายิ่งกว่าอสรพิษ ทำร้ายลูกของฮู่เฟยไม่พอ ยังถึงกับใช้ชื่อข้าสั่งคนส่งน้ำแกงไปให้หวงกุ้ยเฟย ทำร้ายลูกในครรภ์ของนางอีก ตอนที่หยู่เหวินจุนเกิดเรื่อง หวงกุ้ยเฟยก็ช่วยเหลือเจ้าไว้ไม่น้อย เจ้ากลับตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เจ้ามันเลวระยำต่ำช้ายิ่งกว่าหมูหมาก็ไม่ปาน!”

ฉินเฟยร้องไห้เหมือนคนเสียสติพลางพูดว่า "ฮู่เฟยสมควรตาย! ฮู่เฟยเข้าวังมา ทำลายความคิดฝันของคนในวังหลังไปตั้งมากมายเท่าไหร่? เดิมหวงกุ้ยเฟยไม่ควรมีลูก นางควรจะเป็นเหมือนหม่อมฉัน ควรจะอยู่อย่างหงอยเหงาไปจนแก่เฒ่า แต่นางกลับท้องขึ้นมาเสียได้ แต่ก่อนนางอยู่ในวัง การคุ้มกันแน่นหนาแม้แต่น้ำสักหยดยังรั่วเข้าไปไม่ได้ ข้าย่อมไม่มีวิธีลงมือ ....แต่นางกลับไปอยู่ตำหนักฉางเหมิน ข้ามีโอกาสนี้ ทำไมจะไม่รีบคว้าเอาไว้ล่ะ? นางควรจะเป็นเหมือนข้าสิ! ฝ่าบาท หวงกุ้ยเฟยควรจะเป็นเหมือนข้า พวกเราไม่สมควรมีลูกมาส่งศพตอนตาย!”

นางร้องไห้อย่างน่าสมเพชเวทนา ราวกับว่าคนที่ถูกทำร้ายเป็นนางเองอย่างไรอย่างนั้น ด้วยความคิดที่บิดเบี้ยวเช่นนี้ ว่าตามความจริง พอหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย เป็นเพราะนิสัยใจคอของหยู่เหวินจุน ส่วนใหญ่เป็นเพราะถูกฉินเฟยทำให้บิดเบี้ยวไปจากที่ถูกที่ควร แน่นอนว่ายังมีเสด็จพ่อที่คอยให้ท้าย ตั้งแต่ที่ฉินเฟยเสนอเรื่องการคัดเลือกพระสนมกับหวงกุ้ยเฟยก่อนหน้า เขาก็รู้แล้วว่าฉินเฟยไม่เต็มใจที่จะอยู่คนเดียว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นางเกิดความรู้สึกไม่เต็มใจ ย่อมจะต้องหาทางทำอะไรบางอย่างออกมาอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน