ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ! นิยาย บท 44

มู่เจี้ยนเต๋อหยุดพูดชั่วครู่ ทุกคนเงียบฟังประโยคหลังจากเขา

สีหน้าเขาหนักอึ้งขึ้นกะทันหัน“เชื่อว่าแขกในงานคงทราบอุบัติก่อนหน้านี้แล้ว ผมเสียใจกับสิ่งนี้มาก แต่เพื่อความรุ่งโรจน์ของมู่ซื่อกรุ๊ป ผมจึงตัดสินใจประกาศทายาทใหม่ของมู่ซื่อกรุ๊ป ซึ่งก็คือมู่จื่อหนิงครับทุกท่าน”

เมื่อกล่าวจบ เขาก็หันหน้าไปด้านหลัง จากนั้นก็ผายมือให้ทุกคนมองไปชั้นบน

เวลานี้มู่จื่อหนิงเปลี่ยนชุดราตรีตัวยาวสีเหลือง ปัดผมลอนมาทางด้านไหล่ซ้าย และแต่งหน้าใหม่ได้ประณีตมาก

เธอยิ้มอ่อนโยนและสง่างามมาก คล้ายกับไม่เคยเกิดเรื่องในหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้

บรรดาแขกเหรื่อเห็นเธอก็ปรบมืออย่างให้ความร่วมมือ

เมื่อมีบทเรียนเมื่อครู่ มู่จื่อหนิงจึงไม่ได้เดินดัดจริต เดินลงบันไดอย่างมีจังหวะ แล้วไปอยู่ด้านหน้ามู่เจี้ยนเต๋อจากนั้นก็โอบกอดตามประสาพ่อลูก

จากนั้นมู่เจี้ยนเต๋อก็เดินลงจากเวที

ยกเวทีให้แก่มู่จื่อหนิง

มู่จื่อหนิงจับไมค์ กล่าวด้วยความตื้นตันใจ ดวงตาจึงแดงก่ำภายใต้แสงไฟนิด ๆ

“ขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ที่ให้โอกาสหนูทำหน้าที่ในมู่ซื่อกรุ๊ป ผมจะพยายามเรียนรู้งานในบริษัทอย่างเต็มความสามารถ จะนำมู่ซื่อกรุ๊ปพัฒนาไปสู่อีกขั้น และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ค่ะ หวังว่าทุกท่านจะสนุกกับงานเลี้ยงคืนนี้นะคะ”

ผู้คนคิดว่าเธอกล่าวจบแล้ว แขกส่วนใหญ่จึงพากันปรบมือให้

ทว่ามู่จื่อหนิงหยุดชั่ววูบ จากนั้นก็พูดด้วยใบหน้าเอียงอาย

“แขกหลายท่านอาจจะทราบข่าวแล้ว แต่ดิฉันขอเชิญทุกท่านอีกครั้งนะคะ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฉันกับประธานเฟิงซื่อกร๊ปจะจัดงานหมั้นที่โรงแรมเอสเตอร์ หวังว่าเมื่อถึงเวลาทุกคนจะมาเป็นสักขีพยานระหว่างเรานะคะ”

ระหว่างที่เธอประกาศ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขอันล้นพ้น มองไปยังเฟิงยู่เหนียนอย่างหวานชื่น ทว่าหางตากลับเลืองมองเซิงเกอ

โจ๋วซิงโฮ๋ได้ยินก็หันไปมองเซิงเกอด้วยสัญชาตญาณ

ทว่าใบหน้าเธอเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ใด ๆ ยังคงจิบไวน์แดงด้วยอารมณ์สุนทรีย์

โจ๋วซิงโฮ๋ยังคงรู้สึกเป็นห่วง กล่าวปลอบใจเธอ“พี่เซิงเกอ ไอ้ผู้ชายสวะพึ่งหย่ากันไม่นานก็จะหมั้นแล้ว ไม่ใช่คนดีอะไร โชคดีที่พี่หย่ากับเขาแล้ว คุณหนูมู่คนนี้ก็จงใจประกาศในงานเลี้ยง เท่ากับเป็นการสำแดงฤทธิ์เดชให้พี่ มันคนแผนร้ายมาก”

เซิงเกอรู้สึกตลกกับคำพูดของเขา หัวเราะเอ่ยว่า“นายพูดหมดแล้ว ฉันยังพูดอะไรได้อีก”

พวกเขาคุยหยอกล้อยิ้มแย้ม มู่จื่อหนิงเห็นอย่างชัดเจน

นังสารเลวทำเป็นไม่สะทกสะท้าน ไม่เห็นหัวเธอเลยใช่ไหม?

ความโหดเหี้ยมแวบผ่านดวงตาเธอ

จากนั้นก็โค้งคำนับไปยังใต้เวที แล้วเริ่มดื่มขอบคุณแขกในงาน

โดยมีหยุนเหม่ยนำเธอไปกล่าวทักทายอย่างมีมารยาทต่อแขก และจะมีบริกรยกไวน์แดงตามติดอยู่ด้านหลังเงียบ ๆ

มู่จื่อหนิงดื่มขอบคุณเป็นกลุ่ม ๆ

ไม่นานก็มาถึงจุดที่เซิงเกออยู่

มู่จื่อหนิงดื่มขอบคุณทุกคนเสร็จก็ยกแก้วไวน์แล้วมองเซิงเกอด้วยใบหน้าเป็นธรรมชาติ

“เซิงเกอเมื่อกี้พวกเราเกิดเรื่องไม่สบอารมณ์กัน ฉันรู้ว่าเซิงเกอใจกว้าง คงไม่ถือสาฉันหรอกใช่ไหม”

เซิงเกอก็ยกแก้วไวน์ขึ้น เงยหน้าสบตากับมู่จื่อหนิง ริมฝีปากแดงยกโค้งขึ้น“คุณหนูมู่คงไม่รู้จักฉันดีพอ ฉันเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ต้องเอาคืนทุกอย่าง”

รอยยิ้มบนใบหน้ามู่จื่อหนิงยิ้มสดใสกว่าเดิม ก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูเธอ

ถ้าคนรอบข้างมองมา จะคิดว่าพวกเธอสองคนเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย

“เมื่อกี้ได้ยินความรักระหว่างฉันกับอะยู่ เธอก็ปวดใจน่าดูสิน่ะ? ทนลำบากมาสามปี สุดท้ายก็ต้องเฉดหัวออกไป คิกคิก ช่างน่าสงสาร”

มู่จื่อหนิงยิ้ม ทว่าปากกลับลั่นแต่คำแดกดัน

เซิงเกอยิ้มเย็นเยียบ“งั้นต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ฉันเหมือนจะไม่เห็นคุณมู่กับคุณเฟิงรักใคร่กัน ฉันรู้เพียงว่าสายตาคุณมู่ไม่ดี แยกไม่ออกว่าชุดเลียนแบบอยู่บนกาย คาดว่าคงดูผู้ชายไม่เป็นด้วยหรอกมั้ง”

รอยยิ้มมู่จื่อหนิงแข็งค้าง ภาพที่อับอายขายหน้าผู้คนลอยมาตรงหน้า

เธอกำแก้วไวน์ในมือด้วยความเกรี้ยวกราด กดเสียงให้ต่ำกว่าเดิม

“เธออย่าได้ใจหน่อยเลย ยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”

เธอยิ้มอย่างไร้พิษสง พูดเสียงอ่อนนุ่ม ทว่าความหมายกับโหดร้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!