เขากะพริบตารัว ๆ พลางจ้องเค้กอย่างดวงตาวาวโรจน์“คุณแม่ซื้อเค้กมาเหรอครับ?”
เมื่อเห็นแววตาร่งเริงของลูกชาย เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย เพียงแต่พยักหน้ารับ
เธอละทิ้งความเจ็บปวดจากการขายหน้าในค่ำคืนนี้ กล่าวว่า“อยากกินไหม?เดี๋ยวแม่ตัดให้”
“รอพ่อก่อนครับ พ่อกลับมาแล้วค่อยกินด้วยกันครับ”
หมีพูลอยากกินมาก ทว่ากลับพูดแบบนี้
ได้ยินดังนั้น พนาวันส่ายหัว พูดตรง ๆ ว่า“ลูกกินเลย คืนนี้พ่อเขาไม่กลับมานอนที่นี่แล้ว”
ถึงแม้เขาไม่เคยใส่ใจหมีพูลมาก่อน แต่หมีพูลกลับคิดถึงแต่เขาอยู่ในใจตลอด เด็กมักจะไม่จำความแค้น มีหัวใจกว่าผู้ใหญ่หรือเปล่า?
คืนนี้เขามัวแต่อยู่กับผู้หญิงอื่น จะมีเวลากลับมาได้ยังไง?
ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะเล่นอยู่บนเตียงกับผู้หญิงอื่นก็เป็นได้
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หัวใจพนาวันคล้ายกับถูกบีบจนหายใจไม่สะดวก
“คุณพ่อไม่กลับมาแล้วเหรอครับ?”
ดวงตาเด็กน้อยเศร้าหมองทันที
เขาเงยหน้ามองประตู ความผิดหวังเขียนอยู่บนใบหน้าอย่างเด่นชัด
พนาวันไม่ได้ปลอบใจเขา
เขาไม่กลับมาที่นี่ประจำ ความผิดหวังเช่นนี้เคยเกิดขึ้นนับร้อยครั้งแล้ว
หมีพูลคุ้นชินแล้ว แม่จะผิดหวัง แต่ก็จะให้มีความรู้สึกเช่นนี้เพียงไม่กี่วินาที
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความสัมพันธ์สองพ่อลูกจะพัฒนาขึ้นอีกขั้น
ดังคาด ผ่านไปชั่วครู่ อารมณ์ของหมีพูลก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
เขากลัวคุณแม่จะเสียใจตามเขา“คุณแม่พวกเรากินเค้กกันเถอะครับ”
เธอตัดเค้กก้อนใหญ่ให้หมีพูล ส่วนตัวเองก็เลือกกินชิ้นนิดเดียว
รสชาติไม่เลวเลย หวานแต่ไม่เลี่ยน เนยก็พอดี
“ปัง ปัง ปัง”
ทันใดนั้นประตูก็ดังขึ้น
พนาวันลุกขึ้นไปเปิดประตู
วินาทีต่อมาอาคิระก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตู
เธออึ้งอยู่กับที่
ทำ......ทำไมเขากลับมาแล้วเหรอ?
“คุณพ่อ คุณแม่ซื้อเค้กมาครับ คุณพ่อจะกินไหมครับ?” หมีพูลดีใจร่าเริงขึ้นมาทันควัน
“ลูกกินเลย”
เมื่อคุยกับลูก เมื่อน้ำเสียงอาคิระจะไม่อ่อนโยน แต่ก็ยังดีที่ความโกรธจางหายเล็กน้อยแล้ว
จากนั้นก็มองไปยังพนาวัน พร้อมกับกล่าวเสียงเย็นเยียบ“ใครอนุญาตให้คุณกลับมา?”
พนาวันรู้สึกเหนื่อยล้ามาก เหนื่อยทั้งกายและใจ
เธออยากต่อต้านเป็นครั้งแรก
เธอไม่ได้ตอบ พนาวันวางเค้กในมือลง
พึ่งเดินได้ไม่กี่ก้าว แขนของเธอก็ถูกผู้ชายบีบเต็มแรง“ไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอ?แกล้งเป็นใบ้แกล้งหูหนวกเหรอ?หรืออยากท้าทายความอดทนของผม?”
ทันใดนั้นบรรยากาศในห้องพลันตึงเครียดขึ้นมา
หมีพูลวางเค้กลง เขานั่งเก้าอี้วีลแชร์ ดวงตาก็มองผู้เป็นพ่อและแม่
“ดึกแล้วแม่พาลูกเข้านอนนะ”
พนาวันมองหมีพูล ทว่าอาคิระไม่ได้ปล่อยมือ
เธอพูดเสียงต่ำและแหบพร่า“ฉันไม่อยากทะเลาะต่อหน้าลูก”
ได้ยินดังนั้นอาคิระก็ลับสายตาไปอีกทาง
หมีพูลมองพวกเขาสองคนด้วยความเครียด
เขาจึงปล่อยมือ
เขาเข็นหมีพูลเข้าห้องนอน แล้วอุ้มขึ้นเตียง จากนั้นก็ห่มผ้าให้ ก่อนจะส่งนมวัวให้ดื่ม ซึ่งสีหน้าเป็นปกติมาก
หมีพูลเอ่ยปากพูด“คุณแม่ครับ คุณพ่อจะทะเลาะกับคุณแม่ไหมครับ?”
“ไม่หรอกลูก เขาแค่โกรธนิดหน่อย นอนอย่างสบายใจได้เลยนะลูก” พนาวันจับผ้านวม ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป
อาคิระยืนอยู่ในห้องนอน ก่อนจะโยนเสื้อสูทไว้บนเตียง ต่อด้วยปาเนคไทลงพื้น “ใครอนุญาตให้คุณออกไปโดยพลการ?”
เธอเคยใส่ใจ เจ็บปวดรวดร้าวมาแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกเฉย ๆ นิ่งดั่งสายน้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง