หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว นิยาย บท 29

เธออยากจะโทรหาห้า เพื่อคืนเงินชดเชยห้าแสนให้กับเขา แต่ก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เขาไม่เคยให้ช่องทางการติดต่อกับเธอ

เป็นเพราะช่วงเวลากลางวันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมาย บวกกับเขารีบร้อนจากไป ดังนั้นเธอจึงลืมเรื่องที่ต้องคืนเงินห้าแสนให้เขา

คราวนี้นึกขึ้นมาได้แต่กลับไม่มีหนทางคืน ตอนนี้ทำได้เพียงแค่หวังว่าจะได้พบกับเขาในครั้งต่อไป

ถ้าหากว่าเจอกันครั้งหน้า เธอจะต้องคืนเงินห้าแสนนั่นให้เขาแน่นอน

...

สิบโมงเช้า ชัชนันท์นอนจนกระทั่งตื่นขึ้นมาเอง

เธอบิดขี้เกียจอยู่บนเตียงนุ่มอย่างสุขสบาย จากนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง

เรือนผมหยักลอนดำราวกับสาหร่ายทะเลที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยแผ่สยาย เพิ่มความรู้สึกเกียจคร้านให้กับเธอ เธอในตอนนี้ดูคล้ายกับแมวเปอร์เซียสีขาวที่นอนอาบแดดฤดูร้อนในช่วงบ่าย เนือยๆแต่สูงส่ง

"ครืดๆๆ..." เสียงโทรศัพท์มือถือสั่น ชัชนันท์เหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนหัวเตียงแวบหนึ่งอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์แปลกหน้า เธอก็กดปุ่มรับสาย

ต่อมา น้ำเสียงคุ้นหูก็ลอยเข้าหู "ออกมาหน่อย ผมอยู่หน้าประตูบ้านคุณ"

เป็นเขา ห้า

บางทีเขาคงจะมาเพื่อเอาเงินมั้ง คิดถึงตรงนี้ ชัชนันท์ก็รีบลงจากเตียง ขยี้ผมเบาๆ ตอบกลับไปว่า "ถ้างั้นคุณรอแป๊บนึงนะ ฉันอาบน้ำก่อน"

ผ่านการฟื้นตัวมาตลอดคืน บวกกับการช่วยจากยารักษา เท้าของเธอจึงหายเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น เธอจึงวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว

จากนั้น ก็รีบหวีผม เลือกเสื้อสเวตเตอร์คอสูงสีฟ้าน้ำทะเลตัวหนึ่งกับกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อน พร้อมสวมเสื้อขนเป็ดตัวยาวสีขาวทับในห้องแต่งตัว และขับรถเบนซ์สีดำพุ่งทะยานไปหน้าประตูทันที

การแต่งตัวที่ธรรมดาจนไม่อาจจะธรรมดาได้อีกแล้ว บวกกับหน้าสดที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอาง ก็ยังคงปิดบังความงามของเธอไม่ได้

เป็นเพราะหิมะเพิ่งจะตก ภายในลานจึงปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนอันงดงาม สะอาดราวกับโลกแห่งจินตนาการ

เมื่อขับรถออกมา เธอก็เห็นชายหนุ่มคนนั้นทันที

เขาสวมเสื้อโค้ทกระดุมคู่ตัวยาวสีน้ำเงิน เข้าคู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทสีดำ รวมไปถึงกางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าหนังสีดำ ยืนอยู่ข้างรถมาเซราติคันสีแดง

ดุจดั่งสุดยอดนักธุรกิจที่อยู่ในจุดสูงสุดผู้เดินทางไปทั่วโลก หรือไม่ก็เป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ที่เดินอยู่ในงานเลี้ยงของชนชั้นสูง

กิ่งไม้แห้งบนต้นไม้เต็มไปด้วยหิมะสีขาวหนาๆ มองดูแวบแรกคล้ายกับต้นสาลี่ ยามที่ลมพัดมาเบาๆ เกล็ดหิมะก็จะโปรยปรายราวกับกลีบดอกไม้

ภาพเช่นนี้ ขับเน้นให้เขาดูดีขึ้นมากเป็นพิเศษ เห็นอยู่ชัดๆว่าทัศนียภาพรอบด้านงดงามมาก ถนนก็สวยมาก แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าเขากลับกลายเป็นฉากหลังแทน

พิจารณามองอย่างละเอียดแล้ว ชัชนันท์ก็ค้นพบว่า รถสปอร์ตที่อยู่ข้างกายเขาคันนั้นเหมือนกับคันเดิมของตัวเองเป๊ะ

อีกทั้งยังเป็นของใหม่ทั้งหมด กระทั่งป้ายก็ไม่ได้ติด

ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมาชั่วครู่ : นี่เขาทำอะไรน่ะ มาชดใช้รถรึไง?

แทนไทเห็นชัชนันท์อย่างรวดเร็ว สายตาเย็นชามองทะลุผ่านกระจกหน้ารถไปที่ใบหน้าเธอ

ชัชนันท์รีบลงจากรถ เดินไปทางเขา พลางถามว่า "นี่คุณ...?"

แทนไทวางกุญแจรถที่อยู่ในมือตัวเองลงบนฝ่ามือเธอ และตอบว่า "ชดใช้รถให้คุณ"

"จะให้รถคันนี้กับฉันจริงๆหรอ คุณบ้าไปแล้วหรอ ฉันพูดไปแล้วว่าไม่ต้องชดใช้ไม่ใช่รึไง คุณเอาเงินมาจากไหน?" ชัชนันท์หน้าตะลึง

คนแบบเขา คาดว่าน่าจะมีเงินไม่เท่าไร มากสุดก็แปดล้านถึงสิบล้าน

อย่างไรเสีย เขาก็ไม่ใช่ลูกพี่ เป็นแค่ลูกสมุนที่ติดตามอยู่ข้างกายลูกพี่เท่านั้นเอง ตอนที่หัวหน้ากินเนื้อ ให้เขาดื่มน้ำแกงสักคำก็ไม่เลวแล้ว

รถคันนี้ของเธอมีมูลค่าเจ็ดล้านกว่า เขาพูดว่าจะซื้อก็ซื้อเลยได้ยังไง นี่เป็นการจ่ายเงินทั้งหมดที่เก็บมาแล้วสินะ? คิดถึงจุดนี้ ในใจชัชนันท์ก็รู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายลำบากทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลีกทางหน่อย... ยัยเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้ว