พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 123

“สูญเสียความทรงจำ?”วารุณีร้องอุทานเอามือปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อ

อารัณเองก็ประหลาดใจเช่นกันที่ตัวเองสูญเสียความจำ

มีเพียงไอริณเท่านั้นที่ยังเอียงศีรษะไปมาอย่างไม่เข้าใจ“หม่ามี๊อะไรคือสูญเสียความทรงจำค่ะ?”

“ก็คือพี่อารัณลืมเรื่องราวไปบางส่วน”วารุณีมือลูบไปที่ศีรษะของเธอ แล้วตอบกลับไปสั้นๆ

ไอริณที่กำลังดูดนิ้วมือตัวเองอยู่ ฟังเข้าใจแล้ว “ แล้วทำไมพี่อารัณถึงลืมได้ละคะ ?”

“หมอค่ะ แล้วทำไมลูกชายของดิฉันถึงได้สูญเสียความจำละค่ะ ? ”วารุณีจ้องมองไปที่หมอ แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างร้อนใจ

หมอไม่ได้ตอบในทันที แต่โน้มตัวลงแล้วตรวจเช็กไปยังบริเวณศีรษะของอารัณ

แต่หลังจากที่ตรวจเช็กแล้ว ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสับสน“ น่าแปลกมาก ศีรษะของลูกชายคุณไม่มีบาดแผลอะไรเลย ตามหลักแล้วโอกาสที่จะสูญเสียความทรงจำนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย ”

“แต่เขาก็บอกเองว่าเขาจำอะไรไม่ได้” วารุณีชี้ไปที่อารัณ

อารัณขมวดคิ้ว แล้วพยายามลองนึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ยิ่งนึก ก็กลับยิ่งนึกอะไรไม่ออก สุดท้ายแล้วศีรษะก็เริ่มปวดไปด้วย

เมื่อวารุณีเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของลูก ก็รีบวางมือไปยังหน้าผากของเขา แล้วร้องห้ามว่า“ ลูกรัก ไม่ต้องนึกแล้ว นึกไม่ออกก็ช่างมัน”

“หม่ามี๊ผมขอโทษ”อารัณเบะปากน้อยๆ พูดขอโทษอย่างรู้สึกผิด

วารุณีเอามือออก โน้มตัวเอาหน้าผากตัวเองแตะไปกับหน้าผากของเด็กน้อยเบาๆ ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ลูกไม่ต้องพูดขอโทษ คนที่ควรพูดขอโทษ คือหม่ามี๊”

“หม่ามี๊ไม่มีอะไรที่ต้องขอโทษผม”อารัณมองไปที่เธออย่างไม่เห็นด้วย

ความเห็นอกเห็นใจของลูก ทำให้วารุณียิ่งโทษตัวเอง เธอลูบไปที่หน้าผากของลูกชาย แล้วลุกยืนขึ้น “ คุณหมอค่ะ ยังคิดไม่ออกเหรอคะ?”

คุณหมอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ผมคิดถึงความเป็นไปได้อยู่อย่างหนึ่ง ลูกชายของคุณคงอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ จนทำให้สูญเสียความจำ นี่เป็นหลักการป้องกันตัวเองของระบบสมอง เคยมีกรณีศึกษาลักษณะคล้ายกันนี้ในทางการแพทย์”

“แล้วจะฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิมไหมคะ” วารุณีจับจ้องมองไปที่หมอ

หมอส่ายหน้าอย่างไม่มั่นใจ “ อันนี้ก็ระบุชัดไม่ได้ บางครั้งก็อาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ฟื้นแล้ว หรือบางครั้งก็อาจจะใช้ทั้งชีวิตก็ฟื้นคืนมาไม่ได้ก็มี แต่มันก็เป็นเรื่องดี อย่างน้อยในใจของเด็กก็ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้”

เมื่อได้ยินดังนั้น วารุณีก็พยักหน้าอย่างโล่งใจ “ที่หมอพูดมาก็ถูก”

เพียงแค่สูญเสียความจำไปบางส่วนเท่านั้น ไม่ได้สูญเสียทั้งหมดเสียหน่อย และถ้าเทียบกับความทรงจำแล้ว ยังไงชีวิตของอารัณก็สำคัญกว่า ความทรงจำจะฟื้นมาหรือไม่นั้น ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน

หลังจากที่หมอเดินออกไปแล้ว วรยาก็กลับเข้ามา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเมื่อวานสองนาย ตำรวจทั้งสองที่มาก็เพื่อมาสอบถามเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับอารัณ

แต่เพราะอารัณสูญเสียความทรงจำ จึงจำอะไรไม่ได้เลย

เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองที่มาจึงมาเสียเที่ยว เบาะแสการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ จำต้องยุติลงไปโดยปริยาย

วรยานั่งลงไปบนโซฟา สีหน้าไม่พอใจ“เป็นไงละ ทีนี้จับฆาตกรไม่ได้แล้ว เหมือนสองครั้งก่อนหน้านั้นเลย ”

วารุณียกยิ้มออกมาอย่างจนใจ และไม่ได้พูดอะไร

เธอจะไม่รู้ได้ยังไง

“ลูกรัก”จู่ๆวรยาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ มองไปยังอารัณที่เพิ่งกินยาเสร็จ แล้วนอนหลับอยู่บนเตียง เหล่ตามองแล้วพูดขึ้นว่า “ ลูกคิดไหมว่าการสูญเสียความทรงจำของอารัณนั้นมันช่างบังเอิญเกินไป ?”

“แม่หมายความว่ายังไงคะ ?”วารุณีที่กำลังเช็ดตัวให้กับอารัณอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ มือที่เคลื่อนไหวก็ลงหยุดทันที

วรยาเม้มริมฝีปาก “แม่หมายความว่า การสูญเสียความทรงจำของอารัณนั้นมันช่างบังเอิญเกินไป อีกทั้งช่วงเวลาที่จำไม่ได้ก็เป็นตอนที่สองคนแม่ลูกแยกตัวไปห้องน้ำอีก เหตุการณ์นี้มันเหมือนคนร้ายต้องการปิดบังอำพรางเบาะแสที่มี เหมือนจงใจลบความทรงจำช่วงนั้นของอารัณเลย ”

“ที่แม่พูดมา มันก็แปลกจริงๆนั่นแหละ แต่มันเป็นความบังเอิญจริงๆค่ะ มีใครที่ไหนสามารถควบคุมความทรงจำของคนอื่นได้กันละคะ?”วารุณีก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อารัณต่อ

วรยาโบกมือ “ใครจะไปรู้ไม่แน่อาจจะมีก็ได้ ดูอย่างในละครทีวีซิ นักสะกดจิตก็มีความสามารถแบบนี้”

“แม่ยังพูดเองเลยว่ามันในละครทีวี ในชีวิตจริงหนูยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครที่ทำแบบนี้ได้ ”วารุณีกลั้นหัวเราะไม่อยู่ คิดไปว่านางคงฟั่นเฟือนไปแล้ว และไม่ได้ใส่ใจคำพูดนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ