ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 439

บทที่ 439 รวมหัวกัน

พอพูดจบ พนักงานทำความสะอาดที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ได้ด่าขึ้นมาว่า “จะเสียงดังอะไรหนักหนา คนจะหลับจะนอน”

เหนือนพนักงานคนนั้นยังไม่ตื่น และดูเหมือนเขาจะไม่ใช่คนในประเทศนี้ด้วย เพราะสำเนียงที่เขาพูดมันฟังดูแปลกมาก ดีที่เจียงนวลนวลยังฟังออก

พอเธอได้ยินอย่างนั้น ก็รีบใช้ภาษาอังกฤษตอบกลับไปว่า “ขอโทษค่ะ” จากนั้นเธอก็จากไปอย่างเงียบๆ

พูดได้เลยว่า สภาพของเธอในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหนูจรจัดที่ไม่อาจสู้ใครได้ แม้แต่พนักงานทำความสะอาดเธอยังไม่กล้ามีปัญหาด้วยเลย

เธอรู้สึกเคียดแค้นเจียงสื้อสื้อมาก แต่เธอในตอนนั้นยังไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่จะเอาชีวิตให้รอดยังแทบไม่เห็นทางเลย

ทันใดนั้นเอง แววตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เพราะเธอได้นึกถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมา

คนๆ นั้นก็คือ จี้เฉิน

บริษัทแม่ของสตีเฟนกรุ๊ปก็อยู่ที่เมืองนี้ การจะหาตัว จี้เฉินนั้นไม่ยาก จี้เฉินเขาเกลียดจิ้นเฟิงเฉินเข้ากระดูก ขอแค่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา เธอก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะทำให้จิ้นเฟิงเฉินกับเมียของมันถึงตายไม่ได้

สตีเฟนในตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ตอนที่พวกเขาต่อต้านจิ้นเฟิงเฉินก็ถูกเขาจัดการจนไม่เหลือชิ้นดี เกรงว่าตอนนี้พวกเขายังอยู่ในช่วงฟื้นฟูอยู่เลยมั้ง

ที่สำคัญ เท่าที่เธอรู้มาคือ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จี้เฉินเกือบถูกไล่ลงจากตำแหน่งแล้ว หนี้เก่ายังไม่สะสางหนี้ใหม่ก็เพิ่มเข้ามา จี้เฉินคงคลั่งจนแทบอยากจะบินไปฉีกจิ้นเฟิงเฉินให้เป็นชิ้นๆ เลยก็ได้

ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ยิ่งจี้เฉินเป็นพวกที่ไม่ชอบให้ใครมาหยามด้วย ถ้าสามารถไปร่วมมือกับคนอย่างเขาได้ก็เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

ถ้ามีที่พึ่งพาแล้ว ด้วยความสามารถของเธอ เธอก็สามารถทำให้เจียงสื้อสื้อตายอย่างทุกข์ทรมานได้

ในขณะที่เธอกำลังใช้ความคิด ขนมปังในมือถูกกัดกินจนหมดไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว ปัดๆ ฝุ่นบนตัวออก จากนั่นก็ไปล้างหน้าในห้องน้ำสาธารณะ จัดทรงผมให้เข้าที่ เมื่อเจียงนวลนวลมองดูตัวเองในกระจกที่ยังคงงดงามเหมือนเดิม มุมปากของเธอก็ได้ยิ้มออกมา

เจียงสื้อสื้อ ฉันจะคอยดูว่าแกจะอยู่อย่างได้ใจไปจนถึงเมื่อไหร่

หลังจากที่จัดการกับตัวเองเสร็จแล้ว เธอถึงได้เดินไปทางสตีเฟนกรุ๊ป

โชคยังดีที่สตีเฟนกรุ๊ปอยู่ห่างจากที่ๆ เธออยู่ไม่ไกลมากนัก เดินใช้เวลาเดินเท้าไปที่นั่นประมาณชั่วโมงเศษๆ

ในตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปข้างในอยู่นั่นเอง พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ได้มาหยุดเธอไว้ “คุณครับ ช่วยแสดงบัตรพนักงานของคุณด้วยครับ”

เธอไม่ใช่พนักงานของสตีเฟนกรุ๊ปสักหน่อย แล้วจะให้เธอไปเอาบัตรพนักงานมาจากไหน แต่เธอก็ไม่อยากอธิบายให้มากความจึงได้พูดสวนไปว่า “ฉันมาพบจี้เฉินค่ะ”

พนักงานทั้งสองถึงกับอึ้งไป จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “การที่จะเข้าพบท่านประธานจี้ของเรานั้นจำเป็นต้องนัดล่วงหน้าก่อน ไม่ทราบว่าคุณได้นัดหมายมาก่อนไหมครับ?”

แน่นอนว่าเจียงนวลนวลจะต้องไม่มีอยู่แล้ว เธอจึงจำใจต้องถอยออกมาก่อน แล้วรอให้ จี้เฉินออกมาค่อยเข้าไปพูดคุยกับเขาก็ได้

เธอเงยหน้าขึ้นไปมองตึกระฟ้าที่สูงตระหง่านหลังนี้ ที่กำลังถูกดวงอาทิตย์สาดส่องให้สว่างจ้าจนแสบตา และมันก็ทำให้เธอหวนนึกถึงวันเก่าๆ ในตอนที่เธออยู่ในประเทศ ทุกๆ วันเธอสามารถเดินเข้าออกจากสถานที่แบบนี้เป็นว่าเล่น แต่มาตอนนี้ แม้แต่จะเข้าไปข้างในเธอยังไม่มีสิทธิ์เลย

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของจี้เฉิน แต่เธอก็ยังถือว่าโชคยังดีที่ในเวลาที่สิ้นหวังผู้ช่วยของจี้เฉินผ่านมาพอดี

พนักงานรักษาความปลอดภัยเองก็เห็นว่าเธอมารออยู่ตั้งนานแล้ว จึงได้เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ผู้ช่วยของเขาฟัง

ผู้ช่วยคนนั้นได้เดินเข้ามาหาเธอ แล้วถามเธอว่า “คุณต้องการเข้าพบท่านประธานด้วยเหตุผลอะไรครับ?”

เจียงนวลนวลครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบไปว่า “ฉันอยากจะทำธุรกิจร่วมกับประธานจี้ มันเกี่ยวข้องกับจิ้นเฟิงเฉินค่ะ”

“แล้วคุณจะรับประกันได้ยังไงล่ะว่าท่านประธานจะยอมมาพบคุณ?” ผู้ช่วยคนนั้นหรี่ตามองเธอ พร้อมกับพิจารณาเธอไปด้วย

ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ทำไม เขากลับรู้สึกว่าตาคู่นั้นของเธอช่างเหมือนกับของเจียงสื้อสื้อยิ่งนัก ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!