ฮูหยินไร้พ่าย นิยาย บท 18

หลี่เจินเหริน/หลี่เจินหลาน สองพี่น้องผู้งดงามราวกับเทพเซียนเมื่อยืนคู่กันเมื่อบอกตนเป็นที่สองไม่มีใครหน้าหนากล้าเป็นที่หนึ่งเด็ดขาด สองพี่น้องฝาแฝด น้องสาวคิดการณ์วางแผนเก่งเฉลียวฉลาด วรยุทธ์สูงส่งมาตั้งแต่เด็กปากร้ายใจดีบ้างบางครั้ง พี่ชาย เชื่อฟังน้องสาวเสียยิ่งกว่าเชื่อฟังมารดาหรือญาติพี่น้องคนอื่นๆอ่อนโยนสุภาพและเรียบร้อยอย่างมาก แม้วรยุทธจะไม่เก่งเท่าน้องสาวแต่ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชยาทสืบต่อจากเสด็จอาของเขา เสด็จอาเป็นต้วนซิ่วเลยไม่มีทายาท เสด็จพ่อกับเสด็จย่าสิ้นพระชนน์ไปก่อนหน้านี้ก่อนที่เขาสองพี่น้องจะเกิดมาเสียอีก

...หลี่เจินเหริน...

ข้าพาองค์รัชทายาทแคว้นอู๋ อู๋จวินหลิวหราน หรือก็คือหลิวจวินในชาติที่แล้ว เหอะข้ารำคาญเจ้ารัชทายาทคนนี้จริงๆเชียว อยู่แคว้นหรงนานตั้งสิบวันไม่เบื่อหรือไง

"เหรินเอ๋อ ข้าต้องกลับแคว้นอู๋แล้วเจ้าขะคิดถึงข้าหรือไม่"

"คนอย่างข้าเนี่ยนะจะคิดถึงเจ้าไม่มีทางซะหรอก รีบๆกลับไปเถอะเบื่อจะแย่แล้ว"

"ไหนเจ้าบอกจะให้โอกาสข้าอย่างไรล่ะทำไมถึงได้ลืมไปเสียแล้ว"

"เจ้าโง่ข้าไม่ลืมหรอกคนอย่างหลี่ซิ่วอิง...เอ่อ..หลี่เจินเหรินไม่มีทางลืมเรื่องแค่นี้หรอกรีบๆกลับไปเถอะข้ารู้สึกรำคาญเจ้าเท่านั้นเอง"

"ข้า..."

"ยังไม่รีบไปอีก"

"ข้าขอหมั้นเจ้าเอาไว้ได้หรือไม่"

"เหอะฝันไปเถอะ รีบไปได้แล้ว"

"เจ้าไม่รับหมั้นข้างั้นหรือ..."

"นี้จวินหลิวหราน ในอดีตเข้าก็เคยหมั้นกับข้าไม่เห็นได้มาแต่งกับข้าเลยข้าไม่มีทางหมั้นหมายกับเจ้าหรือคนอื่นเด็ดขาดไสหัวกลับแคว้นเจ้าได้แล้ว"

"เจ้าจะไม่หมั้นกับคนอื่นจริงๆนะ"

"นี้เจ้าตายแล้วเกิดใหม่เป็นเด็กจนโตเนี่ยข้าถามจริงๆเถอะนิสัยกลายเป็นเด็กเช่นกันงั้นหรือ"

"ข้า...งั้นข้ากลับแคว้นอู๋แล้วนะไว้ข้าว่างจะมาหาเจ้าอีก"

"ตามใจอยากมาก็มาใครห้าม"

"ข้าไปก่อนนะ"

"ไปสิ"

หลังจากที่ข้าไปส่งจวินหลิวหรานเสร็จข้าก็เดินกลับมาก็เจอกับเสด็จพี่ที่เดินอ่านตำราอยู่เจ้าเด็กคนนี้เดินไปอ่านไปมันจะไปรู้เรื่องอะไร นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยจริงๆ

"หลี่เจินหลาน เจ้าเดินอ่านตำราอีกแล้วหรือไม่เวียนหัวหรือไง"

"น้องหญิงอยู่ที่นี้เอง ข้าอ่านนิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอก"

"เลิกอ่านแล้วไปค่ายทหารกับข้า"

"ไปทำอะไรที่นั้น"

"ข้าเบื่อวังไปกับข้านะท่านพี่"

"เจ้าว่าอย่างไรข้าว่าอย่างนั้น"

"ดีตามมา"

......

........

.......

.....

....

18

บาปที่ก่อเอาไว้

หลิวจวิน

ในตอนนี้ถ้าหากย้อนกลับไปในตอนนั้นได้ข้าจะเลือกนาง หลี่ซิ่วอิงสตรีที่องอาจเก่งกล้าที่ออกรบไม่เคยพ่ายแพ้จนได้รับสมญานามว่าแม่ทัพพยัคเมฆาไร้พ่ายไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ศัตรูหน้าไหนข้าในตอนนั้น ข้าเพียงต้องการที่จะรู้จักนางมากขึ้นเพียงเท่านั้น และคิดเสมอว่านางคือสหายของน้องสาวของข้า และตัวข้าก็แอบแฝงเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร และคอยอยู่เคียงข้างนาง

28 ปีก่อน

ข้าได้พบหลี่ซิ่วอิงที่สนามประลองและคนที่นางประลองด้วยคือบุรุษที่เคยเป็นคนรักเก่าของนางในตอนนั้นอดีตแม่ทัพผู้นั้นก็ทุจริตต่อนางจนนางได้รับความพ่ายแพ้โดยไม่เป็นธรรมนางจึงหักแขนและขาของอดีตคนรักต่อหน้าต่อตา คนในส่วนของเขา จนทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงหูเสด็จพี่ฮ่องเต้ และเป็นน้องหญิงที่เข้าไปพูดคุยกับเสด็จพี่และข้าที่เห็น เหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้และการดูหมิ่นเหยียดหยามของอดีตแม่ทัพใหญ่ที่ดูถูกเหยียดหยามเชื้อพระวงศ์จนเสด็จพี่ฮ่องเต้สั่งปลดอดีตแม่ทัพใหญ่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาและให้นางเข้ามาดำรงตำแหน่วแม่ทัพฝ่ายซ้าย

งานแรกของนางก็คือการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในขบวนนางรำที่ไปรำให้แก่ค่ายทหารของฝ่ายศัตรูและนางก็สั่งหารฝ่ายศัตรูจนสิ้นชีพ และนางก็กลับมาพร้อมกับคำว่าชัยชนะจนทำให้นางได้เลื่อนตำแหน่งเร็วขึ้น ส่วนข้าที่เป็นกุนซือก็พลอยได้หน้าไปด้วยเราทั้งสองคนต่างสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ข้ารู้แล้วว่าคนที่ข้าตามหามาตลอดทั้งชีวิตนั้นคือผู้ใด

“อาอิงเจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่งั้นหรือ"

"กุนซือหลิว ท่านสนิทกับอาหารมากขนาดนั้นเลยเหรอถึงเรียกข้าแบบนั้น"

“งั้นเราทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกันนะสิ"

"เหอะเจ้าคนปลิ้นปล้อนแต่เอาเถอะข้าไม่ถือสาเจ้าหรอกอีกอย่าง ข้าดูเจ้าแล้วเค้าโครงใบหน้าของเจ้าก็ดูหล่อเหลาเอาการเหตุใดจึงไว้หนวดเครารุงรังอย่างกับจนป่านเช่นนี้"

“ถ้าจะโกนหนวดโกนเคราก็ตอนที่ข้าจะแต่งงานเท่านั้นและสตรีที่ข้าโกนหนวดให้ก็คือคนที่ข้าเลือกไปใช้ชีวิตตลอดชีวิตกับข้า"

"หลิวจวิน เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้แต่งงานด้วยหรือวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้ จึงคิดอยากจะแต่งงานคือการแต่งงานมันเรื่องไร้สาระสิ้นดีเจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ"

"ข้าไม่อยากคิดเช่นนั้นหรอก เพราะในอนาคตข้าก็อยากมีลูกมีหลานกับสตรีที่ข้ารัก แล้วเจ้าล่ะไม่อยากแต่งงานอย่างนั้นหรือ”

"ไม่อยากเลยสักนิดเจ้าก็ฝันเอาเถอะว่าเจ้าจะได้ใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขเหอะ"

"ทำไมเจ้าหึงข้างั้นหรือที่ข้าบอกอยากแต่งงานกับสตรีอื่นที่ไม่ใช่เจ้า"

"เหอะเจ้าฝันกลางวันอยู่หรือไงเจ้าหนวดเครารุงรังเช่นเจ้าเนี่ยนะฝันไปเถอะข้ามัวพูดคุยอะไรกับเจ้ากันข้าจะไปตรวจค่ายทหารแล้วล่ะ"

"งั้นก็ไปสิแต่เรื่องแต่งงานอย่างไรเจ้าก็ต้องคิดบ้างไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นยายแก่แร้งทึ้งเอาได้นะ"

"นั้นมันก็เรื่องของข้า"

ใครจะคิดว่าสุดท้ายแล้วข้าเองต่างหากที่ไม่อาจหลุดพ้นจากคำพูดของเธอเองข้าไม่ยอมแต่งงานกับสตรีที่พี่หาให้ ข้าไม่ยอมที่จะหาที่อื่นนอกจากนางสุดท้ายวันเวลาผ่านไปความใกล้ชิดสนิทสนมของข้ากับนางก็สุกงอมขึ้นมาทันทีและข้าก็ไม่อาจหักห้ามใจจนสารภาพความในใจที่มีให้นางตลอดสิบให้นางได้รับรู้

แต่เวลาที่มีความสุขของข้ากับนางมีเพียงชั่วครู่เพียงเท่านั้นเมื่อแคว้นหรงส่งองค์หญิงมาอภิเษกกับข้าที่เป็นถึงอ๋องเจ็ดและวันที่กำหนดงานอภิเษกคือวันเดียวกันกับงานแต่งงานของข้ากับซิ่วอิงแต่ท่านพี่ให้ข้าเลือกทางเลือกที่ข้าไม่ต้องการทางเลือกที่ต้องเลือกระหว่าง ความสงบสุขของแคว้นอู๋และปวงประชากับการเห็นแก่ตัวแต่งงานกับสตรีที่ตนเองรักและสุดท้ายข้าก็เลือกอภิเษกกับองค์หญงแคว้นหรงแทนซิ่วอิงที่รอข้าตอนที่แห่ขบวนรอบเมืองซิ่วอิงนางไปยืนขวางขบวนอีกครั้งใช่นางเคยมายืนขวางขบวนแบบนี้เมื่อสิบปีก่อนกับอดีตคนรักของนางที่ทำเช่นเดียวกันกับข้าเลือกคนที่เหมาะสมและคู่ควรแก่ตนเองโดยทิ้งนางเป็นหม้ายข้ามองใบหน้างดงามหมดจดที่มีน้ำตาหลั่งใหลออกมามากมายพร้อมทั้งถ้อยคำอ้อนวอนขอให้ข้าอย่าทอดทิ้งนางแต่ข้าก็จำต้องทอดทิ้งนางถ้าข้ายังเลือกนางเสด็จพี่ก็จะสังหารนางเพื่อไม่ให้นางมาขัดขวางข้าจึงสั่งทหารคู่กายลากนางออกไป ข้าทำผิดบาปต่อนางมากเหลือเกิน

"หลิวจวินเจ้าจำเอาไว้ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้าชั่วชีวิต!!"

"เจ้าคนสารเลวอึก...ฮือออ...เจ้าหลอกลวงความรักของข้า...เจ้าจะไม่ได้ตายดีเจ้าคนเลวทราม!!!"

หลิวจวิน

คืนแรกที่ข้าแต่งงานข้าเฝ้าคิดถึงซิ่วอิงจนข้าต้องตรอมใจจนกลายเป็นโรคร้ายแรงขึ้นอู๋เซียวเหยาน้องสาวของข้าหรือก็คือองค์หญิงเก้าของแคว้นอู๋ต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นหรงส่วนเสด็จพี่ฮองเต้ก็ทรงเดินทางไปยังแคว้นเว่ยเพื่อขอมารดาแห่งท้องทะเลเพื่อมารักษาอาการของข้าเมื่อข้าได้รับยารักษาอาการของข้าก็ดีขึ้นมาข้าไม่ได้ดีใจเลยสักนิดที่ต้องมีชีวิตอยู่เช่นนี้ข้าอยากตายให้ไปพ้นๆจากความทรมานนี้ผ่านมาไม่กี่เดือนแคว้นที่ข้าทำศึกด้วยกลับบุกเข้ามาภายในเขตวังหลวงจนต้องออกรบอย่างกระชั่นชิดเหล่าทหารที่เคยร่วมรบกันในคราก่อนนั้นได้ขอลาออกไปอยู่กับครอบครัวโดยกล่าวว่าแม่ทัพที่พวกเราต้องการคือแม่ทัพหลี่เท่านั้นแต่แล้วอย่างไรในเมื่อสุดท้ายแล้วนั้นกษัตริย์ตรัสแล้วย่อมคืนคำมิได้เหล่าทหารต่างพากันแยกย้ายออกไปข้าที่พึ่งหายดีก็ต้องออกรบแทนแต่ข้านั้นก็ไม่ได้เก่งอะไรมากนักจึงเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ร่างบอบบางในชุดแต่งงานสีแดงที่ข้าจำได้แม่นว่าสตรีนางนี้คือหลี่ซิ่วอิงสตรีที่ข้ารัก

"ไง กุนซือหลิวไม่สิต้องเรียกเจ้าว่าอ๋องเจ็ดถึงจะถูก"

"ซิ่วอิง...”

"ใช่ข้าเอง คนที่เจ้าหลอกลวง คนที่เจ้าเคยทิ้งงานแต่งไปแต่งกับคนอื่น คนที่เจ้าสั่งลงโทษที่ไปขวางขบวนเจ้าบ่าวของเจ้านั้นไง และเป็นคนที่ให้ชีวิตใหม่แก่เจ้าด้วยและสุดท้ายจะเป็นคนที่พรากชีวิตเจ้ายังไงล่ะอยู่มาห้าปีคงคุ้มแล้วสินะ หลิวจวิน!!!"

"เข้ากลับมาแล้ว...ข้าขอโทษ....ข้าไม่สามารถปกป้องเจ้าในฐานะสามีได้...ข้าไม่เคยคิดร้ายต่อเจ้าเลยนะ ซิ่วอิง..."

"หุบปาก!!! เจ้ามันคนเลวหลอกข้ามาตลอดเห็นว่าข้าโง่มาโดยตลอดพวกเจ้ารวมหัวกันหลอกข้า!!!"

"ข้ารักเจ้า ซิ่วอิง...ไม่มีวันไหนที่ไม่รัก...ตอนนี้ต่อให้ข้าตายไปข้าก็จะรักเพียงเจ้า...ซิ่วอิงข้ารักเจ้า"

"ข้าเกลียดเจ้า!!!"

".....ข้ารักเจ้า...”

"ข้าเกลียดเจ้า หลิวจวิน!! ทั้งรักทั้งเกลียดเจ้า เจ้ารู้มั้ยตอนที่ข้าขวางขบวนเจ้าหากมีสักนิดที่เจ้ากระโดดลงจากม้า แล้วพาข้าหนีไปพร้อมกับเจ้าข้าจะไม่เกลียดเจ้าเลยแต่เจ้าเลือกทอดทิ้งตัวข้าไปข้าไม่อาจให้อภัยเจ้าได้จริงๆ!!"

"ข้ายอมให้ใต้หล้าเกลียดข้า แต่ข้าไม่อยากให้เจ้า...เกลียดข้า”

"ข้าเกลียดเจ้า เกลียดๆๆๆๆ!!!!!"

"อึก!!"

"หากมีโอกาสอีกสักครั้งข้าขอให้ได้เคียงคู่กับเจ้าตลอดไปอึก!!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮูหยินไร้พ่าย