ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน นิยาย บท 22

มรุเดชรักเบญญาไหม?

ถ้าบอกว่ารัก งั้นทำไมวันที่เบญญาได้ทิ้งศักดิ์ศรีแล้วคุกเข่าต่อหน้าทุกคนในวันที่ฝนตกหนักในวันนั้นเขากลับเลือกที่จะมองอย่างเย็นชา?

ถ้าบอกว่าไม่รัก เขากลับได้เฝ้าเบญญาแบบไม่หลับไม่นอนมาสองวันสองคืน

พยาบาลส่ายหน้าบอกว่าไม่รู้

มรุเดชไม่พูดต่อ ก็ได้เริ่มเหม่อลอย เหมือนว่าคนที่ถามเมื่อกี้นั้นไม่ใช่เขา

พยาบาลก็ได้เข็นรถใส่ยาออกไปจากห้องผู้ป่วยหนัก ถึงพักเที่ยงพิรัชย์ก็ได้เอาเอกสารงานต่างๆ มารายงานให้กับมรุเดช

มรุเดชดูเสร็จ ก็ได้รีบเซ็นเอกสารเร่งด่วนแล้วก็ส่งให้กับพิรัชย์ ถามต่อ “ทางสาวินเป็นไงบ้าง?”

“ได้ส่งหลักฐานไปตามที่คุณสั่งแล้วครับ สาวินไม่ตายแน่นอน” อย่างมากก็แค่ชดใช้เงิน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พิรัชย์คิดไม่ตกเล็กน้อย

คิดดูพยายามมามากขนาดนี้กว่าที่จะส่งสาวินเข้าคุกแล้วก็ตัดสินโทษประหาร แต่ทำไมตอนนี้ต้องส่งหลักฐานยืนยันไปว่าเขานั้นบริสุทธิ์...นี่มันทำให้เสียแรงและเงินทองไปโดยเปล่าเลยไม่ใช่เหรอ?

พิรัชย์ไม่เข้าใจ เขาได้ทำงานกับมรุเดชมานานขนาดนี้ รู้ว่าประธานนั้นไม่มีทางทำอะไรที่ขาดทุน การกระทำของเขานั้นเด็ดขาด บอกว่าเป็นพวกสูบเลือดสูบเนื้อเลยก็ยังได้ ถ้าสามารถที่จะบดกระดูกได้ ก็ไม่มีทางที่จะเหลือเศษให้อีกฝ่ายแน่

มรุเดชก้มต่ำลง “อืม นายกลับไปเถอะ”

พิรัชย์ไม่ขยับ ลังเลไปสักพักก็ได้พูด “คุณเดช คุณนันท์นลินโทรหาคุณไม่ติดก็ได้โทรมาหาผม ถามว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับไป...”

“ไม่ต้องสนใจเธอ นายจับตามองคดีของสาวิน อีกเรื่องไปจัดการเรื่องคลิปและข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องคุกเข่าของเบญญาบนเน็ตให้เรียบร้อย”

“...ครับ” พิรัชย์คิดไม่ถึงว่าเขาที่แค่เปิดปากถามไปงั้นๆ แบบนี้จะพาเรื่องที่ยุ่งยากมาให้มากมายขนาดนี้ ได้จับจมูกตัวเองแล้วก็ออกไป

มรุเดชลุกขึ้นแล้วก็ได้เทน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว ได้จับไม้สำลีชุบน้ำแล้วก็ค่อยๆ ทาไปที่ริมฝีปากที่แห้งของเบญญาอย่างคล่องแคล่ว

เขายิ้มอย่างขมขื่นสักพัก ไม่เพียงแค่พิรัชย์ไม่เข้าใจเขาในตอนนี้ บางครั้งเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

ตอนแรกก็แค่คุยกันแล้วว่าจะไว้ชีวิตสาวินให้อยู่ในคุกตลอดไป แต่ตอนนี้เขากลับคิดที่จะปล่อยสาวินออกมา แผนที่วางไว้ก่อนหน้านั้นล้มไม่เป็นท่า

ทำไมต้องทำแบบนี้ล่ะ?

อาจเป็นเพราะว่าไม่อยากให้เบญญาเสียใจ ไม่อยากเห็นเธอนั้นมีสีหน้าที่ผิดหวัง

ตอนนี้เบญญาจะตายไม่ได้ เธอจำเป็นต้องมีชีวิตต่อไป ในตัวของเธอนั้นได้มีเลือดที่เหมือนกับนันท์นลินไหลอยู่ ระหว่างพวกเขาได้เซ็นสัญญาไว้แล้ว ถ้าเกิดว่านันท์นลินบาดเจ็บเป็นอันตราย ไม่มีเธอแล้วเขาควรไปหาใคร...

มรุเดชก็ได้โยนสำลีในมือ ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปที่หน้าต่าง แงบเปิดเล็กน้อย ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันในเมืองไทร ในที่สุดวันนี้ฟ้าก็ได้สว่างสักที แสงแดดก็ได้ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เหมือนกับแสงสีทองบางๆ ที่ได้ส่งไปที่ผ้าห่มของเธอ

อยู่ในห้องนานเกินไป อยู่ๆ ได้เห็นแสงแดด สายตาก็ได้ไม่ชิน มรุเดชได้หรี่ตาเล็กน้อยแล้วมองออกไป ก็ได้เห็นสายรุ้งบนท้องฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน