ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน นิยาย บท 47

นันท์นลินอึ้งตะลึงไป เธอคิดไม่ถึงว่าเบญญาจะน่าเกลียดขนาดนี้ เทอาหารทิ้งไปต่อหน้าของพวกเขาไปตรงๆแบบนี้แถมการกระทำก็รวดเร็วถึงขนาดที่ตะเกียบในมือของเธอก็ยังไม่ทันได้วางลง กำเอาไว้ด้วยความอึดอัด วางก็ไม่ได้ ไม่วางก็ไม่ได้"คุณเททิ้งไปแบบนี้มันก็เสียเปล่ามากนะคะ..."

เบญญายิ้มแย้ม"จะเสียเปล่าได้ยังไงล่ะคะ เดี๋ยวฉันก็เอาอาหารพวกนี้ลงไปทิ้งที่ถังขยะชั้นล่างให้หมากิน หมากินแล้วก็จะกระดิกหางให้กับฉันด้วยนะคะ"สีหน้าของนันท์นลินนิ่งขรึมเล็กน้อย คำพูดนี้ของเบญญากำลังด่าว่าเธอสู้หมาไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?มรุเดชลุกขึ้นกระชากข้อมือของเบญญา"จงใจ?"เบญญาระงับแสงเยือกเย็นในแววตา หันหน้าไปเจอหน้าที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นของนันท์นลินพอดี"เห็นๆอยู่ว่าฉันเข้าใจจิตใจของคนอื่นเป็นอย่างดีแท้ๆ ในเมื่อคุณนลินบอกว่าไม่ถูกปากฉันก็เอาไปเททิ้ง ของที่นายชอบกินฉันว่าคุณนลินก็จำได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งนะ ต่อไปก็ให้เธอทำอาหารให้สิ"

เธอพูดด้วยความจริงใจ แล้วก็พูดแนะนำมรุเดชอย่างจริงใจเช่นกัน เพื่อที่ว่าต่อไปจะไม่มีใครทำให้ใครต้องอึดอัดและกระอักอระอ่วนอีก ใครอยากทำอาหารก็ไปทำพอมรุเดชเข้ามาใกล้ เบญญาก็ได้กลิ่นน้ำหอมโคโลญที่หรูหราสดชื่นจากตัวของเขา เมื่อก่อนเธอชอบกลิ่นน้ำหอมนี้มาก ถึงขนาดที่ยังแอบไปซื้อมาพ่นไว้ทั่วทุกมุมห้อง หลอกตัวเองว่ามรุเดชกลับบ้านแล้วอีกด้วยแต่งงานมาสี่ปี เธอดมกลิ่นน้ำหอมนี้มามากแล้ว รู้สึกว่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งสะอิดสะเอียนมากขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นฉุนยิ่งกว่าลำไส้ใหญ่ของหมูเสียอีก"ยิ่งไปกว่านั้น สองวันก่อนหน้านี้นายบอกกับฉันเองว่า คุณนลินย้ายเข้ามาก็เพื่อมาดูแลฉันไม่ใช่เหรอ? สุขภาพร่างกายของฉันไม่ดีทนกลิ่นควันบุหรี่ไม่ได้จริงๆ"เบญญาหันสายตามองไปยังใบหน้าที่สีหน้าผสมปนเปกันของนันท์นลิน เลียนแบบรอยยิ้มนายหญิงในละครโทรทัศน์ ยิ้มอย่างใจกว้างมีรสนิยม อ่อนโยนเอาใจใส่ เข้าอกเข้าใจคนเป็นอย่างดี ไล่คนรับใช้ที่มาส่งถึงหน้าบ้าน ไล่คนรับใช้ที่เสนอตัวมาเอง จะใช้หรือไม่ใช่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนันท์นลินกัดฟัน เธอแค่พูดด้วยความเกรงใจเท่านั้นใครจะไปดูแลเธอกัน รู้สึกโกรธเกลียดอยู่ภายในใจ ใบหน้ากลับมองมรุเดชด้วยความคับข้องใจ"เดช คุณเบญญาไม่ได้ตั้งใจหรอก เธอแค่ไม่รู้อาหารที่คุณชอบเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เป็นคุณหนูใหญ่จนชินแล้ว ต่อไปให้ฉันทำเองดีกว่านะ"ตีหน้าซื่อระดับนี้ ต่อให้เบญญาบำเพ็ญตนสิบปีก็ไม่ได้ทางถึงระดับนี้อย่างแน่นอน เธอออกแรงดึงมือตัวเองกลับมา ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา"ที่ฉันทำอาหารให้คุณจนเต็มโต๊ะอย่าคิดว่าตัวเองสำคัญมาก มาที่บ้านของคนอื่นไม่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบสักคำชี้นู้นชี้นี้วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ไม่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเลยหรือไง""ฉันเปล่านะคะ คุณเบญญา ฉันรู้ว่าคุณไม่ต้อนรับฉัน ฉันไปก็ได้"นันท์นลินขอบตาแดง น้ำตาเกาะอยู่ตรงขนตา เธอหันมองมรุเดชน้ำตาไหลออกมาเหมือนสั่งได้ ท่าทางถูกเอารัดเอาเปรียบมรุเดชดึงรั้งเธอเอาไว้ สายตาดุจเหยี่ยวหันมองไปที่เบญญา ริมฝีปากบางๆขยับเล็กน้อย"ขอโทษซะ""กล้าดียังไง?"เบญญาเงยขึ้นมอง"มรุเดช นายคิดว่าฉันพูดผิดตรงไหน? นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้นันท์นลินเข้ามาดูแลฉัน? อาหารฉันก็ทำให้แล้ว พวกนายไม่ชอบฉันก็เททิ้ง ทำตามใจพวกนายทุกเรื่อง ยังต้องให้ฉันขอโทษอีกเหรอ?"มรุเดชหรี่ตาลง ความเย็นยะเยือกพลุ่งพล่านออกมา เบญญาจ้องเขม็งกลับไปอย่างไม่มีความเกรงกลัว คิดจะให้เธอขอโทษเหรอ ไม่มีทางซะหรอกนันท์นลินยืนอยู่ข้างหลังมรุเดชแอบดึงแขนเสื้อของเขาพร้อมกับส่ายหัวให้กับเขา"ฉันไม่เป็นไร พวกคุณอย่ามาทะเลาะกันเพราะฉันเลยนะ"ท่าที"ถ่อมเนื้อถ่อมตัว"แบบนี้ของเธอก็ยิ่งทำให้เบญญาก้าวร้าวมากขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเบญญาจะไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่ตอนนี้เธอมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่นานแล้ว กล้าดียังไงให้เธอเอาชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอมานั่งดูทักษะการแสดงที่ชวนให้อยากจะอ้วกของนังคนตีหน้าซื่อนี่กัน?"นันท์นลินถ้าคุณไม่ไปแสดงโดราเอม่อนก็น่าเสียดายแย่เลย ไหนๆหน้าก็บานขนาดนี้แล้ว คุณสำคัญขนาดไหนที่พวกเราถึงต้องมาทะเลาะกันเพราะว่าคุณด้วย?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน