ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน นิยาย บท 7

แววตาเบญญาเงียบงัน ในนั้นไม่มีข้อความว่าอยากมีชีวิตอยู่ มันทำให้ครรชิตตื่นตระหนกมาก “เบญ เธอไม่มีสิ่งที่ต้องการแล้วเหรอ?”

“สิ่งที่ฉันต้องการ” แววตาเบญญาว่างเปล่าไปชั่วขณะหนึ่ง จู่ๆ ใบหน้าก็เย็นยะเยือก เธอยื่นมือไปปิดตา ฝ่ามือเปียกชื้น เธอถึงเกิดปฏิกิริยาว่าเธอร้องไห้ออกมา

“ครรชิต ฉันในชีวิตนี้ นอกจากไม่เคยเห็นแม่ฉัน ไม่มีอะไรบ้าง? ความมั่งคั่ง อำนาจ แม้แต่คนที่ฉันชอบมาหลายปีก็อยู่เคียงข้างฉัน” สิ่งที่เธอต้องการอยู่ตรงหน้าเธอหมดแล้ว อยู่ใกล้แค่เอื้อมต้องการแต่ก็คว้ามาไม่ได้

เบญญาดูเหมือนไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเขาต่อ หันหลังนั่งข้างคอมพิวเตอร์จัดการเอกสารต่อ วันนี้ครรชิตมา เหมือนจะโน้มน้าวไม่ค่อยได้ เบญญาในตอนนี้ปิดล้อมตัวเองอยู่ในช่องแคบและมืดสลัวไม่ให้ใครเข้าไปทั้งนั้น

“มรุเดชรู้ไหมว่าเธอป่วย?”

“เขาไม่รู้ และฉันก็ไม่อยากให้เขารู้ด้วย” ป่วยหรือไม่ป่วยเธอก็เป็นเบญญาผู้อวดดี ไม่เคยเอาความป่วยไปร้องขอความเห็นใจ ยังไงมรุเดชก็คงไม่เห็นใจเธอแน่ล่ะ รู้ว่าเธอใกล้ตายที่เสียดายมากที่สุดก็คงเป็นคลังเลือดเคลื่อนที่อย่างเธอไม่สามารถเจาะเลือดให้นันท์นลินได้อีกแล้ว

ครรชิตนิ่งเงียบ สุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ เขาหยิบยาสองขวดออกมาจากกระเป๋าวางบนโต๊ะ ขวดหนึ่งคือยาแก้ปวดระดับรุนแรง อีกขวดหนึ่งคือยาต้านมะเร็ง

“ห้ามดื่มกาแฟแล้ว ตั้งใจกินยา กินข้าวให้ตรงเวลา……”

ครรชิตกำชับข้อควรระวังต่างๆ เสร็จ ก็หายใจเข้าลึกๆ ก่อนเดินจากไป

ได้ยินเสียงประตูปิด เบญญาก็ยกสายตาขึ้นมองยาสองขวดบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาดูข้อความ นอกจากข่าวการทำงานก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น

……

มรุเดชไม่ได้กลับบ้านครึ่งเดือน เบญญาละทิ้งนิสัยในอดีตไปทีละนิด ไม่เปิดไฟไว้ให้เขาอีก ไม่ทำอาหารรอเขากลับมาอีก แต่กลางดึกทุกคืนเธอยังเลิกนิสัยดูโทรศัพท์ไม่ได้

เธอคิดว่าเธอสามารถทิ้งความรู้สึกที่มีต่อมรุเดชได้ในคราเดียว แต่ความรู้สึกมันเหมือนยาพิษ เมื่อเข้าไปในหัวใจและท้อง พิษจะเข้าไปในไขกระดูก เธอไม่รู้เลยว่าเจ้านั่นมันน่ากลัวแค่ไหน เมื่อเกิดปฏิกิริยามันก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่สูงระฟ้า บดบังแสงทั้งหมดแล้ว เธออยากกำจัดทิ้ง ก็ต้องฟันรากแล้วขุดมันขึ้นมา สิ่งที่เติบโตในใจ มันดึงโดนเนื้อละเอียดที่อ่อนนุ่มที่สุด แค่คิดก็เจ็บปวดใจอย่างลึกซึ้งแล้ว

เบญญาเปิดดูคนที่ติดต่อ ในนั้นมีแค่มรุเดชคนเดียวเดี่ยวๆ เธอกดลงไป

โทรไปสามสายติดต่อกัน ไม่มีใครรับเลย นี่คือเรื่องปกติไม่มีอะไรน่าผิดหวัง นอกจากหัวใจที่เย็นยะเยือกสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงความรู้สึกด้านช้า

เบญญาโทรต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยืนกรานอยู่อย่างนี้ เป็นครั้งแรกตั้งแต่แต่งงานกันมา

“ตู๊ด……ตู๊ด……” โทรครั้งที่สี่รอเสียงอยู่นาน บางทีอาจจะโดนเธอโทรจนรำคาญ สุดท้ายมรุเดชก็รับสาย

“มีอะไร?”

เสียงมรุเดชผ่านโทรศัพท์ดังเข้าหูเบญญา ไม่อุ่นไปกว่ามือเธอเท่าไร

สิบเจ็ดวันไม่ติดต่อมาก็มีประโยชน์เหมือนกัน อย่างน้อยอารมณ์ก็มั่นคง เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะมรุเดช

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน