หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 11

ตอนที่10

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

เมื่อเช้ามามหาลัยพร้อมกันแต่พอมาถึงมหาลัยก็ต่างคนต่างแยกย้ายเนื่องจากคินมีสอบเก็บคะแนนนอกเวลาเรียน ส่วนภูก็แยกไปซ้อมก่อน ทางด้านของคินพอสอบเสร็จก็ตามไปซ้อม ชีวิตประจำวันยังคงปกติดีแต่เหมือนเหล่ารุ่นพี่ในชมรมจะดูอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนเสียเหลือเกิน ระหว่างนั่งพักคินเงียบทำเป็นดื่มน้ำโดยที่หูจดจ่อฟังหัวข้อที่ภูกำลังถูกเพื่อนตัวเองเค้นถามว่าแล้วสรุป

“เมื่อคืนมึงไปนอนไหน?”

“นอนห้องเพื่อน” ภูตอบเสียงจริงจัง

“ห้องเพื่อนคนไหนในเมื่อคนที่ตอบไลน์มึงมีแค่ไอ้คิน แล้วงี้มึงจะมาบอกว่าไม่ได้นอนห้องน้องมันได้ไง”

“ก็....” อึกอักอีกครั้ง

“ฮั่นแหน่...”

“เออๆกูนอนห้องไอ้คิน พอใจยัง” พูดความจริงออกไปจนได้ก่อนเสียงร้องจากทั้งกลุ่มจะดังตามมา เจอแบบนี้คินแอบขมวดคิ้ว ไม่น่าให้พวกรุ่นพี่เข้าไปเจอภาพอะไรแบบนั้นเลย ดูดิ ชอบชงเขากับภูอยู่ได้ ทั้งที่ความจริงแทบจะตีกันทุกวันตางหากหละจะมาเป็นคู่จิ้นอะไร ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้มีปัญหาหนักเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ยังมีบางครั้งที่ชอบพูดจากัดกันอยู่ดี แต่ที่จริงเวลาคู่เพื่อนคนไหนในกลุ่มคุยงุ้งงิ้งกันสองคนก็มักจะโดนแซวทำนองนี้ เพราะงั้นคินเลยไมได้เครียดอะไรจริงจังนักเพราะถือเป็นเรื่องปกติของชมรมนี้ไปแล้วหละ แต่ทั้งที่ความจริงก็มีแฟนเป็นผู้หญิงกันหมดนะ ก็หยอกล้อกันไปพอเฮฮา ถึงเวลาซ้อมก็ตั้งใจ เลิกซ้อมก็ไปเยี่ยมแม่ของภูเพราะไม่ได้ไปมาหลายวันแล้ว

แถมในตอนนี้ล่าสุด คือแม่ของภูค่อนข้างเอ็นดูคินมากเลยทีเดียว

เอ็นดูจนถึงขั้นที่ว่า....

“โหแม่ งี้พวกผมก็ตกกระป๋องกันหมดแล้วอะดิครับ”

“นี่สินะ อะไรที่เด็กกว่าก็ต้องน่าเอ็นดูกว่าเป็นธรรมดา น่าน้อยใจที่สุด” เพื่อนของภูโอดครวญกันจนคินยังอดขำไม่ได้ นั่งมองภาพตรงนี้ที่ในตอนนี้เหล่ากลุ่มชายหนุ่มกำลังพากันเข้าไปออดอ้อนหญิงวัยกลางคนที่กำลังนอนยิ้มมองด้วยความขบขัน คินยิ้มกว้างแถมยังหัวเราะออกมาเสียงดัง พอสนิทกันมากขึ้นเขาก็เริ่มจะมีความรู้สึกร่วมด้วย มัวแต่มองเหล่ารุ่นพี่ร่วมชมรมจนไม่ได้สนใจว่ามีใครบางคนแอบชำเลืองหางตามองอยู่หลายต่อหลายครั้ง

..กึก... เสียงปิดประตูห้องดังขึ้น หมดเวลาเยี่ยมแล้วก็ต่างพากันเดินออกมา

..หมับ!.. คินโดนล็อคคอจากด้านหลังโดยแบงค์

“ไอ้คิน!คืนนี้พวกกูจะไปผับกัน แล้วมึง...ห้ามปฏิเสธอีกเด็ดขาด!”

“เดี๋ยวนะ พี่เพิ่งไปกันมานะครับ”

“แล้วยังไง ก็จะไปอีกอะ” แบงค์พูดสวนมาก่อนจะหัวเราะขึ้นพร้อมกับคนอื่น แถมคินไม่กล้าปฏิเสธด้วยเพราะจะดูเสียมารยาทมากเพราะงั้นเลยเดินตามไปแบบไม่ได้พูดอะไร ก็ไม่เสียหาย เพราะวันนี้วันเสาร์ดังนั้นพรุ่งนี้ก็วันหยุดเขาสามารถตื่นสายได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากระทบ เดินกันออกมาจนถึงลานจอดรถเหล่ากลุ่มคนเบื้องหน้ากำลังปรึกษากัน

“กูโทรไปจองโต๊ะกับที่จอดรถก่อนแล้วกันคนน่าจะเยอะวันนี้” แบงค์เปรยขึ้นและคนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย

แต่คินแอบคิดในใจ เวลาขนาดนี้คนน่าจะมาเที่ยวเต็มแล้วนะยังจะโทรไปจองได้หรอ

บอกว่าโทรไปไล่ที่คนอื่นที่เขามาก่อนน่าจะถูกต้องกว่า

“ไอ้ภูหยุดรถทำไม” จนที่ขับมาถึงผับเหล่าคนที่ติดรถของคินมาด้วยพึมพำขึ้นเมื่อภูที่ขี่มอเตอร์ไซค์นำหน้าจู่ๆก็จอดกะทันหัน ใครอีกคนเพยิดหน้าไปทางรถยนต์หนึ่งคันที่จอดอยู่หน้าทางเข้าของผับ คินไม่รู้ว่าภูจะสื่ออะไรเพราะเห็นแค่ว่าที่จอดรถมีป้ายคำว่าวีไอพีตั้งไว้อยู่ด้วย

“....!” จนพอมองที่รถยนต์คันนั้นแล้วนึกไตร่ตรองในที่สุดคินก็นึกออก

รถยนต์สีแบบนี้ ยี่ห้อนี้ คือมันมีไม่กี่คันหรอกในไทยน่ะ

ใช่แล้ว...

“นั่นรถแฟนใหม่ของแฟนเก่าพี่ภูใช่ไหมครับ” คินถามรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังและทุกคนร้องอ๋อ

“เออว่ะจริงด้วย!เอาหละกูว่ามันส์!!” รู้แบบนี้ทุกคนพากันเปิดประตูลงจากรถ คินงุนงงแต่ต้องยอมเดินตามลงไปทั้งที่รถยนต์ยังจอดขวางทางเข้าออกของคนอื่นเขาอยู่เลย ตอนนี้มีรถคันอื่นต่อคิวจะเข้าแล้วด้วยแต่แบงค์ที่เป็นเจ้าของรถอีกคันที่จอดตันทางเข้ายังคงไม่ได้ยอมที่จะขยับรถของตัวเองออกให้ จนกลายเป็นว่าพวกเขากลายเป็นจุดสนใจเพราะภาพตรงหน้าคือภูกับแบงค์ที่กำลังยืนคุยกับบอดิการ์ดของผับ ตอนนี้คินรู้สึกว่าแบงค์ค่อนข้างมีอิทธิพลมากเลยทีเดียวนะ

“เคลียให้หน่อย จะจอดตรงนี้” แบงค์กำลังพูดด้วยน้ำเสียงไม่ได้ล้อเล่นแถมชี้นิ้วไปทางที่รถของมารหัวใจเพื่อนสนิทอย่างภูซึ่งจอดอยู่ บอดิการ์ดก็เอาแต่ทำหน้ากลืนไม่ได้คลายไม่ออก

“ผมเตรียมที่จอดรถไว้ให้ข้างหลังไงครับ ตอนแรกคุณแบงค์ตกลงแล้ว”

“ไอ้แบงค์มันตกลงแต่ผมไม่อะ อยากจอดข้างหน้า...แล้วก็อยากจอดตรงนี้” คราวนี้เป็นภูที่เริ่มพูดขึ้นบ้าง

“ใช่ครับ โทษทีนะพอดีตอนคุยลืมถามไอ้ภูมันว่าจะจอดตรงไหน..เพราะงั้น พี่เคลียให้พวกผมหน่อยนะ” แบงค์กำลังสร้างเรื่องโกหก ความจริงคืออีกคนตกลงกับภูเรียบร้อยว่าจะจอดด้านหลังของผับแต่พอมาเจอศัตรูก็ดันเปลี่ยนใจกะทันหัน

“มันไม่ได้จริงๆครับ คือว่าลูกค้าข้างในเขามาก่อนแล้ว”

“งั้นแล้วจะให้เขาไปจอดข้างหลังไม่ได้หรือไง ก็ผมจะจอดตรงนี้...นะครับพี่” ประโยคขอร้องแต่น้ำเสียงและท่าทางขัดกันมาก

“โธ่คุณภู...คือว่า”

“พวกผมจะจอดรถตรงนี้” สุดท้ายแล้วภูยืนยันคำเดิมจนในที่สุดบอดิการ์ดที่คอยดูแลความปลอดภัยของผับต้องยอมที่จะพยักหน้าและรับคำก่อนเดินหายเข้าไปด้านในเพื่อจัดการเรื่องนี้ให้ คินเห็นว่าทุกคนหันมายิ้มและยักไหล่ให้กันเหมือนว่าเรื่องแค่นี้เคลียได้สบายมาก ส่วนแบงค์ยอมเดินไปขยับรถออกจากที่จอดขวางทางเข้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นได้เข้ามา สถานการณ์เกือบจะกลับมาปกติ

จนกระทั่ง...

“อะไร!จะให้ผมขยับไปจอดไหน!!”

“ข้างหลังครับคุณเอิร์ธ ส่วนตัวมากกว่าไม่เสี่ยงรถคุณเอิร์ธโดนถอยชนด้วย”

“ไม่ใช่ว่าไอ้เวรตัวไหนจะมาจอดที่ผมมากกว่าหรอ”

“ไม่ครับไม่เลยคือ...” แต่ยังไม่ทันที่บอดิการ์ดจะพูดจบ

“โหที่จอดรถโคตรดีเลยว่ะ เข้าออกสะดวกสุด!” เสียงจากภูพูดดังขึ้นซึ่งนั่นเรียกสายตาของคนที่เพิง่เดินมาถึงได้ในทันที ชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี ใบหน้าเอาเรื่องเป็นที่รู้จักในชื่อของพี่เอิร์ธที่ใครหลายคนให้ความสนใจ เอิร์ธตวัดสายตามองทางต้นเสียง ก่อนเค้นยิ้มมุมปากเมื่อพบว่าที่แท้ก็คือไอ้พวกนี้เอง

“กูก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็ไอ้พวกที่อยู่คณะไม่มีสมองนี่เอง”

“มึงเก่งมาจากไหนนักวะ” เกิดการถกเถียงขึ้นระหว่างภูกับเอิร์ธส่วนคินยืนเครียดเพราะวันนี้มีเรื่องแน่

“เก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่คะแนนคณะกู...เอามาหารก็ยังสอบเข้าคณะมึงติดอยู่เลย” ระหว่างที่พูดเอิรธยังไม่ได้เข้ามาใกล้แต่มือกดพิมพ์ข้อความลงในโทรศัพท์ของตัวเองซึ่งคาดว่าน่าจะบอกเพื่อนด้านในเพราะเพียงไม่นานเท่าไหร่กลุ่มชายหนุ่มหลายคนเดินกรูกันออกมาแถมในตอนนี้เอิรธ์ก็กล้าเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับภูแล้วด้วย

“ผู้หญิงเขาทิ้งมึงมาหากู แค่นี้ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่ามึงมันกระจอกขนาด...”

...ผลั้วะ!!!... ไม่ต้องรอให้พูดจบภูจัดการเปิดหมัดไปก่อน กลายเป็นเสียงวุ่นวายที่ดังตามหลังมาและคินรีบห้ามคนอื่นไว้เพราะถ้าเกิดวิ่งกรูใส่กันหมดมีหวังเรื่องใหญ่กว่านี้แน่ อย่างน้อยให้ภูต่อยกับเอิร์ธสองคนน่าจะมีปัญหาน้อยกว่า

...ผลั้ก!!ปึก!!!... แต่เริ่มรุนแรงจนบอดิการ์ดต้องเข้ามาช่วยกันห้าม

“พอแล้วพี่ภู!” แต่ภูทำท่าจะกระโจนใส่อีกรอบจนคินต้องเข้ามาดึงไว้เพราสภาพตอนนี้ดูไม่จืดกันเลยทั้งคู่ ทางด้านของเอิร์ธถูกดึงออกไปอีกด้านในขณะที่ภูกำลังโวยวายที่ถูกเขารั้งแขนเอาไว้ คินก็แค่ไม่ชอบให้มีเรื่องกัน ถ้าไม่ถูกใจอะไรกันก็ควรจะคุยกันสิไม่ใช่มาต่อยกันแล้วใช้กำลังตัดสิน

“หน้าแหกหมดเลยเพื่อนกู” คราวนี้เป็นแบงค์ที่พูดขึ้นด้วยเสียงขบขันพลางใช้มือพลิกหน้าของภูไปมา

“ไม่ต้องเที่ยวละ กลับไปทำแผลเหอะมึง” หลายเสียงเริ่มออกความเห็นและภูเพียงทำท่าจะเดินไปที่รถของตัวเองแต่โดนเพื่อนห้ามไว้อีก

“กูขี่รถมึงกลับเอง...มึงกลับรถยนต์นู้น” แล้วก็เพราะรุ่นพี่คนนี้ตอนแรกมากับคินแต่พอขากลับจะขี่รถของภูกลับ ดังนั้นเลยกลายเป็นว่าภูจะต้องกลับรถของคิน บรรยากาศบนรถค่อนข้างเงียบเพราะแต่ละคนดูมีท่าทางที่เครียดโดยเฉพาะภูที่ดูไม่พอใจมาก คินนั่งฟังภูคุยกับเพื่อนที่หัวข้อที่คุยกันก็หนีไม่พ้นเรื่องจะต้องไปเอาคืนเอิร์ธ

“ว่าแต่แผลมึงจะเอายังไง ไปคลินิกไหม” กระทั่งมีหนึ่งคำถามดังขึ้นคินเลยหันมอง

“ผมทำแผลให้พี่เขาก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินให้คลินิก”

“เออว่ะจริงด้วย ลืมไปเลยว่าเรามีคุณหมอนี่หว่า!” ทางด้านของภูยังไม่ได้พูดอะไรแต่เหล่าเพื่อนต่างเห็นด้วย ขับออกมานานพอสมควรคินเริ่มขมวดคิ้วเมื่อรุ่นพี่คนอื่นบนรถต่างพากันบอกว่าจะให้จอดส่งตรงไหน

เดี๋ยวนะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]