หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 14

ตอนที่13

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

ยังไม่ทันจะหกโมงเช้าเลยด้วยซ้ำแต่ในขณะที่คนอื่นหลับกันหมดคินก็รีบฉวยโอกาสในการหนีกลับคอนโดของตัวเองก่อน ยอมรับว่าเมื่อคืนไม่ได้เมาเท่าไหร่ดังนั้นเขาถึงจำได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง วันนี้มาเรียนด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่นักจนขนาดธารยังสังเกตได้แล้วตั้งคำถามมาว่ามีเรื่องอะไรให้เครียดงั้นหรอ แต่คินก็ได้แต่ปฏิเสธไปว่าไม่มีอะไร เพราะจะให้บอกไปตามตรงหรอว่าคิดมากเรื่องจูบเมื่อคืนน่ะ

ไม่รู้ว่าภูจะจำได้ไหม และถ้าเกิดอีกคนจำได้แล้วเขาควรต้องทำตัวยังไงดี

ปกติเจอกันก็ทำตัวลำบากอยู่แล้ว นี่ยิ่งไม่หนักไปใหญ่อีกหรอ เขากลัวภูจะแกล้งเขามากมากกว่าเดิมอ่ะ...

...ครืดดดครืดดด... แต่ระหว่างที่กำลังนั่งเหม่อในห้องเรียนแรงสั่นจากโทรศัพท์ดังขึ้น

มีคนแอดไลน์เข้ามาใหม่ ตอนแรกสงสัยว่าคือใครจนที่เมื่อกดเข้าดูรูปโปรไฟล์

“พี่ภู” พึมพำขึ้นมากับตัวเอง หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไร้สาเหตุ และรู้ตัวอีกทีโทรศัพท์ของเขาสั่นอีกครั้งพร้อมข้อความที่เด้งขึ้นมาหน้าจอ

//ตอนเย็นไปกินข้าวกันไหม// พอกดเข้าไปอ่านหัวใจของคินเต้นแรงหนักกว่าเดิมไปอีก รู้อยู่แล้วแหละว่าเย็นนี้ไม่มีนัดซ้อมเพราะสมาชิกส่วนหนึ่งของชมรมมีต้องเข้าไปอบรมและทำกิจกรรมของคณะ พวกเขาเลยมีวันหยุดหนึ่งวัน และอีกหนึ่งความคิดแวบเข้ามาในหัวว่าภูคงจะชวนทุกคนไปด้วยกันเพราะก็ยังมีคนที่เหลือที่ยังว่างแบบเขา

...ผมเลิกเรียนสี่โมงเย็นนะครับ จะให้ไปเจอกันที่ไหน... เลยตอบตกลงไปและหัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติแล้ว

//มึงอยากไปร้านไหน// เจอถามมาแบบนี้คินขมวดคิ้วเพราะปกติพวกพี่เขชาจะเป็นคนเลือก แต่ไหงคราวนี้มาถามความเห็นเขาหละ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไมได้เอะใจอะไร สงสัยคงขี้เกียจคิดกันหละมั้งว่าจะกินอะไร

...ไปกินสปาเก็ตตี้กันไหมครับ...

//อืม เลิกเรียนเจอกันหน้ามอ// จบบทสนทนาลงแล้ว ตอนนี้คินค่อนข้างสบายใจมากขึ้นเพราอีกคนเหมือนจะทำตัวปกติ สงสัยภูคงจะจำไม่ได้แน่เลยว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง ก็ดีแล้วแหละ แต่อีกใจก็แอบนอยเหมือนกันเพราะนี่หมายความว่ามีแค่เขาที่จำได้หรอ ทั้งที่อีกคนเป็นคนเริ่มนะเนี่ย ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

...........................

ถึงเวลาเลิกเรียนคินแยกกับธารเพื่อมายังหน้ามหาลัย มองหาสมาชิกคนอื่นในชมรมที่ส่วนใหญ่ถ้านัดกันมักจะมีคนสองคนที่มาเร็วเสมอ แต่ก็ไม่มีเลยซักคนดังนั้นเขาถึงได้นั่งรออยู่ในรถแบบไร้จุดหมาย อย่างน้อยมีซักคนมาให้ตรงเวลาหน่อยก็ดีสิ เขาเริ่มคิ้วขมวดเมื่อพบว่าตอนนี้สี่โมงครึ่งแล้ว หยิบโทรศัพท์ออกมากำลังจะพิมพ์ลงไปในไลน์กลุ่มของชมรมว่าจะมากันตอนไหนเพราะตอนนี้คินหิวแล้วนะ แต่แล้วเสียงรถที่เข้ามาจอดข้างกันเรียกสายตาของคินให้ต้องเงยมอง

เห็นว่าเป็นภูเขาชะงักนิดหน่อย เจอหน้ากันก็แอบทำตัวไม่ถูกแหะ

...ครืดดดด... กดเลื่อนกระจกรถลงและอีกคนชะโงกหน้าลงมาหา ภูคร่อมอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของตัวเองอยู่

“คนอื่นยังไม่มากันซักคนเลยครับ” คินรีบฟ้องส่วนภูขมวดคิ้วมองมา

“คนอื่นไหน?” แถมยังถามคินกลับมาแบบนี้

“อ้าว ก็คนอื่นในชมรมเราไง ขนาดพี่แบงค์ยังมาช้าเลย”

“กูไม่ได้ชวนคนอื่น” แต่แล้วเมื่อภูพูดสวนขึ้นมาแบบนี้คราวนี้เป็นคินเสียเองที่นิ่งลงไป

หมายความว่า....

“จะไปได้หรือยัง ร้านไหน” ภูส่งคำถามใหม่มาอีกแต่คินยังนั่งเงียบอยู่

“เราสองคนหรอครับ” ยังไม่เลิกสงสัยกับตรงนี้เลยถามไป

“อืม” จนที่ได้คำตอบชัดเจนจากภูอีกครั้ง หัวใจถึงได้เริ่มเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง ภูเบือนสายตามองไปทางอื่นตอนนี้เหมือนต่างคนต่างเงียบและไม่กล้าสบตากัน คินเผลอเม้มปาก อธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกเหมือนกันว่าคืออะไร แถมนี่ความสัมพันธ์อะไรกันเนี่ย

“เร็วดิกูหิวแล้ว จะไปร้านไหน” ก่อนบรรยากาศจะหนักไปกว่านี้ภูรีบชิงพูดขึ้น

“เอ่อ...ร้านตรงหน้าตึกxxxก็ได้ครับ” ภูพยักหน้ารับมาก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ของตัวเองนำออกไป ส่วนคินขับรถตามอยู่ด้านหลัง ระยะทางไม่ได้ไกลมากและเป็นภูที่ถึงร้านก่อนเพราะรถค่อนข้างติดเขาเลยช้ามากกว่า ขับมาจอดลงหน้าลานกว้างพบว่าภูยืนรออยู่ที่หน้าร้านแล้ว แต่อีกคนไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษานะ เพิ่งจะสังเกตก็ตอนนี้แหละ

เมื่อเข้ามานั่งในร้านแอบอึดอัดกันนิดหน่อย

ก็คินไม่รู้ว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดีนี่ ปกติคุยกันเยอะที่ไหนเล่า

“วันนี้พี่ไม่ได้ไปเรียนหรอ” เลยตัดสินใจถามคำถามนี้ไปซึ่งภูพยักหน้ารับมา

“เออดิ กูเพิ่งตื่นตอนทักมึงไปเอง” จบการคุยกันลงแค่นี้เมื่อพนักงานเข้ามาถามว่าจะรับเมนูเป็นอะไร หน้าที่ในการสั่งอาหารเป็นของคินแต่ไม่กล้าสั่งเยอะนักเพราะกลัวโดนภูบ่นว่าใช้เงินเปลือง เขายังจำได้นะว่าอีกคนชอบแซะเขาเรื่องรวยอ่ะ เพราะงั้นสั่งแค่สองสามอย่างก็แล้วกัน คนทั่วไปเขากินกันแค่นี้ใช่ปะ

“เอาแค่นี้หรอ” แต่กลับเป็นภูที่ถามมาและคินเงยหน้ามอง

“ผมสั่งเยอะได้หรอ”

“อยากสั่งอะไรก็สั่งเลย” ได้รับคำอนุญาตมาคินยิ้ม หันไปหาพนักงานอีกครั้งก่อนเริ่มลงมือสั่งอาหารตามปกติของตัวเอง เกือบจะสิบอย่างแล้วแต่คินไม่ได้คิดมากอะไรเพราะเดี๋ยวมื้อนี้เขาจ่ายเองก็ได้ สั่งอาหารเสร็จมองไปที่ภูพบว่าอีกคนกำลังเล่นโทรศัพท์ คินเลยก้มหน้าลงดูดน้ำในแก้วเพราะไม่มีอะไรทำ เผลอมองหน้าของภูอย่างลืมตัว จนนึกขึ้นได้ว่าในตอนนั้นที่ภูป่วยใครอีกคนเคยบอกเขาไว้หนึ่งอย่าง

“ตอนนั้นพี่บอกผมว่าพี่ทำจมูกมาอะ กี่บาทหรอครับ” แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]