หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 23

ตอนที่22

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

กลุ่มชายหนุ่มวัยไร่เรี่ยกันนั่งรวมอยู่ยังโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ห่างถัดจากศาลาวัดมาไม่กี่เมตร หลังจากที่ขึ้นไปเคารพศพเสร็จเรียบร้อยเหล่าเด็กหนุ่มกลับมานั่งกันอยู่ด้านล่าง ถึงแม่จะไม่มีอะไรให้ต้องช่วยแต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอยากจะกลับเพราะอย่างน้อยได้อยู่เป็นเพื่อนของภูก็คงดี สีหน้าของภูยังคงดูไม่สดใส ในสายตาที่มีความเศร้าโศกแต่กลับแฝงความกังวลที่เจือปนมาซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าภูกำลังกังวลเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากเรื่องนี้อยู่

“นั่นไอ้คินหนิ” เสียงจากแบงค์ดังขึ้นเมื่อสายตาหันไปเห็นว่าคินกำลังยืนอยู่กับพ่อของภูส่วนภูมองตามก่อนพ่นเสียงหัวเราะ กรอกตามองบนก่อนถอนหายใจ

“ทำไมมันดูสนิทกับพ่อมึงจัง แล้วผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนใหม่พ่อมึงหรอ”

“อืม นั่นน่ะเมียใหม่พ่อกู”

“แล้วทำไมไอ้คินถึง”

“มันเป็นลูกของเมียพ่อกู” ก่อนคำตอบจากปากของภูจะทำให้เพื่อนพากันเงียบกริบ ตรงนี้คาดว่าเริ่มรู้แล้วว่าที่ภูมีท่าทีกังวลอยู่คือเรื่องอะไร สายตาจ้องมองไปยังคินอย่างไม่ละ มองจ้องเหมือนว่าถ้าสามารถเข้าไปขย้ำได้ก็คงจะทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ เหล่าเพื่อนที่นั่งมองพากันลงมติว่าในตอนนี้เหมือนได้ย้อนกลับไปตอนที่ภูเกลียดขี้หน้าของคินอีกครั้ง

“มึงโอเคหรือเปล่าวะไอ้ภู” แบงค์ถามอย่างเป็นห่วงทั้งที่คำตอบก็ชัดเจนพอสมควรว่าภูไม่โอเคมาก

“ไม่” แล้วคำตอบก็อย่างที่คิดไว้ เกิดความเงียบขึ้นเพราะเหมือนภูไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้เสียเท่าไหร่ เลยเลือกที่จะต่างคนต่างนั่งเล่นโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะยุง่เรื่องของภู แต่กลับดันเห็นเองว่าแฟนเก่าของภูเพิ่งจะโพสแล้วแท็กภูด้วยข้อความที่ว่า ‘กลับมารอบนี้ไม่ให้ไปไหนแล้วนะ รักนะคะ’ พอยื่นให้เพื่อนคนอื่นดูก็ปรากฏว่าทำหน้างงไปตามกัน

“มึงคืนดีกับแนทตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เมื่อคืน” คำตอบช็อคหนักไปอีก

“อะไรวะเนี่ยไอ้ภู มึงบ้าหรือเปล่า เขาทำมึงขนาดนั้นมึงกลับไปทำไม”

“มีบางคนทำกับกูหนักกว่าแนทอีก” แต่แล้วคำนี้ของภูทำเพื่อนขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าภูสื่อถึงใครแต่สีหน้าชัดเจนมากว่ากำลังโกรธมากถึงมากที่สุด ภูดูหงุดหงิดตั้งแต่เจอเมื่อเช้า ตั้งแต่ที่จอดรถได้แล้วเดินเข้ามารังสีของอีกคนออกแต่แรกว่ากำลังมีเรื่องไม่พอใจใครสักคน แพวกเขาเพียงไม่รู้เท่านั้นว่าภูไม่พอใจใครอยู่

แต่ถ้าจะให้เดา

คงหนีไม่พ้นคินแล้วหละ…

“น้องมันอาจไม่รู้เรื่องก็ได้มั้งไอ้ภู”

“มึงมองมันแง่ดีเกินไปไอ้แบงค์” ภูสวนมาทันทีและแบงค์ชักสีหน้า

“มึงตางหากที่มองมันแง่ร้ายเกินไป มันทำอะไรให้มึงนักหรอวะทำไมใจร้ายกับมันนัก” แต่ก่อนจะได้มีเรื่องกันพ่อของภูเดินเข้ามาเสียก่อนซึ่งพวกเขามองเลยไปยังคินที่ยืนอยู่ด้านหลัง สีหน้าของอีกคนดูไม่โอเคแถมตายังบวมมากเหมือนเพิ่งจะร้องไห้อย่างหนักมาเมื่อไม่นาน พากันยกมือไหว้พ่อของภูรวมไปถึงแม่ของคินด้วย

“กินข้าวเช้ากันมาหรือยัง ถ้ายังบนศาลามีกับข้าวอยู่นะ”

“มันไปกินกันมาก่อนพ่อบอกอีก” คำตอบของภูเรียกเสียงหัวเราะจากทั้งคนฟังและคนพูด คงมีเพียงคินที่ยังซึมอยู่

“พ่อว่าจะออกไปซื้อชุดมาเปลี่ยนใส่เตรียมให้แม่วันเผา จะไปด้วยกันไหมภู”

“ตอนนี้หรอ?กับใคร”

“ก็ไปกับคุณน้าแล้วก็ไปกับน้องด้วย” คำว่าน้องในที่นี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคินซึ่งภูทำท่าจะอ้าปากปฏิเสธแต่เมื่อพ่อพูดออกมาต่อว่าอยากจะให้ภูเป็นคนเลือกชุดให้แม่ใส่วันสุดท้าย ในที่สุดภูถึงได้หยุดความคิดทุกอย่างลง แล้วตัวของเขาเดินตามคนทั้งสามตรงไปยังรถที่จอดรออยู่

..ปึก.. ปิดประตูเข้ามานั่งด้านใน พ่อของภูเป็นคนขับรถเองและแน่นอนว่าตัวเขากับคินถึงต้องนั่งข้างกันอยู่เบาะหลัง

แอบชำเลืองมองคินที่ขยับตัวจนชิดกับประตูรถอีกฝั่ง

“เหอะ” ภูพ่นเสียงหัวเราะออกมาและแน่นอนว่าคินได้ยินมันชัดเจน

“ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านไหมภู” และหนึ่งคำถามจากผู้เป็นพ่อที่เรียกสายตาของภู

“ไม่เป็นไรครับ อยู่ข้างนอกผมสะดวกมากกว่า เวลาเพื่อนมาหาจะได้ไม่วุ่นวาย”

“งั้นขนของออกจากหอเก่ามาอยู่คอนโดเลย จะได้อยู่ใกล้คินด้วย”

“อ้าว ไม่ใช่ว่าน้องอยากจะอยู่บ้านหลังใหญ่มากกว่าคอนโดหรอครับ…ผมหมายถึงว่า อยู่ที่บ้านคงสบายกว่า”

“คอนโดใกล้มหาลัยมากกว่า” คินรีบพูดแทรกขึ้นและภูหันหน้ามามอง

“หรือว่าเราจะย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันเลยหละ”

“ไม่” คำปฏิเสธที่เรียกรอยยิ้มของภูเล็กน้อย กลับมานั่งเงียบกันอีกครั้งโดยมีเสียงคุยระหว่างพ่อของภูและแม่ของคิน บทสนทนาที่ฟังดูน่าอ้วกจนภูเลือกที่จะเบนสายตามองนอกกระจก ถึงแม้จะไม่ชอบแม่ของคินแค่ไหนแต่เลือกจะไม่แสดงออกชัดเจนคงดีกว่าเพราะคอยปั่นประสาทคินไปแบบนี้คงจะสนุกกว่ากันเยอะเลย

“ไปร้านแบรนxxxไหม แม่ชอบมาก” พ่อของภูพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อมาถึงห้างขนาดใหญ่ ตอนนี้คินมีหน้าที่แค่เดินตามหลัง

“พี่ภูนิสัยดีนะ เขาดูเอ็นดูลูกมากเลย” กระทั่งประโยคนี้จากแม่ที่เดินข้างกันทำคินต้องแอบถอนหายใจ

“ทำไมเราไม่ย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับพี่เขาเลยหละคิน แล้วก็ขายคอนโดห้องของเราไปซะ คุณลุงจะได้เอาเงินไปทำอย่างอื่นได้อีก”

“คงไม่สะดวกครับแม่ คินชอบอ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆมากกว่า” ถึงแม้ว่าพักหลังมานี้จะนั่งอ่านหนังสือโดยที่มีภูคอยแวแวจนชินแล้วก็เถอะ แม่ของคินอยากจะลดค่าใช้จ่ายทุกอย่างลงให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนพ่อของภู เพราะเพียงแค่นี้เธอก็เกรงใจมากแล้วสำหรับสิ่งที่อีกคนมอบให้เธอและลูก เดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าด้วยกันคินนั่งมองภูที่กำลังเดินเลือกชุดให้แม่ของตัวเอง สีหน้าที่เศร้าของอีกคนยังคงทำเขาใจหาย เลือกได้คินอยากจะปลอบ แต่ภูคงไม่ต้องการ

“ซื้อของเข้าไปฝากเพื่อนของภูด้วยแล้วกัน เด็กๆคงไม่ชินกับกับข้าวแบบนั้นสักเท่าไหร่” ประโยคนี้แม่ของคินกำลังพูดกับภูซึ่งภูไม่ได้ตอบกลับอะไร ทำเป็นไม่ได้ยินและนั่นทำให้ฝ่ายสาววัยกลางคนหน้าเสียเหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]