หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 9

ตอนที่8

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

นั่งดูหนังอยู่ด้วยกันแต่ทั้งห้องมีเพียงเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วจากเหล่าเพื่อนรักของภู คินมีสมทบบ้างเล็กน้อยเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องความรู้ภายในหนังซึ่งเพราะเรียนหมอบวกกับการชอบอ่านหนังสือเลยทำให้เขามีความรู้ทั่วไปค่อนข้างมาก ในขณะที่เจ้าของห้องอย่างภูนั่งเล่นโทรศัพท์แล้วสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง คินหันมองหลายรอบเหมือนกันเพราะเหมือนภูจะนั่งเล่นเกมเลยนั่งช่อยู่ข้างนอกมาเกือบชั่วโมงแล้ว นี่คืออีกเรื่องที่คินไม่ชอบใจ เพราะเหมือนเหล่ารุ่นพี่ในชมรมจะพากันติดบุหรี่กันแทบจะทุกคนทั้งที่เป็นสิ่งต้องห้าม

“โค๊ชไม่ว่าเรื่องบุหรี่หรอครับ” สุดท้ายคินก็ตัดสินใจถามออกไปโดยที่สายตามองที่ภูซึ่งอยู่ด้านนอก

“ว่าสิ แต่ก็ห้ามไม่ได้อยู่ดีเขาเลยเหมือนเบื่อๆแล้วมองข้ามไป”

“มันส่งผลต่อการเล่นกีฬามากเลยนะ ทำไมพวกพี่ยังสูบกัน” คราวนี้เสียงของคินจริงจัง

“กูสูบบ้างเวลาไปเที่ยวแต่ไม่ได้ติด มีแต่ไอ้ภูอะที่มันติด” ประโยคนี้เรียกคิ้วของคินให้ขมวดเข้าหากัน เป็นจังหวะเดียวกับที่ภูเดินเข้ามาในห้องพอดีโดยที่กลิ่นบุหรี่ตามเข้ามาจนคินต้องยกมือปิดจมูก เห็นว่าอีกคนหันมามองเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรและคินก็ไม่สนใจด้วยว่าภูจะคิดยังไงเพราะเขาจงใจทำให้เห็นว่าไม่ชอบเลยนะกับกลิ่นบุหรี่

“ดึกแล้วนอนกันได้แล้วมั้ง พรุ่งนี้ตื่นเช้า” ภูเดินเข้ามาปิดทีวี ให้อารมรืเหมือนพ่อที่กำลังดุลูก

“ขอดูอีกตอนนึงไม่ได้หรอ จะจบและ”

“ไม่” ขนาดแบงค์ส่งเสียงขอร้องแต่ยังได้คำตอบเดิมจนสุดท้ายก็ยอมแพ้แล้วยอมจะเลิกดูทีวีกัน ถึงเวลานอนแล้วมีการถกเถียงกันนิดหน่อยว่าใครจะนอนห้องไหน แย่งกันจะนอนที่ห้องแม่ของภูเพราะเตียงกว้างกว่าโดยที่ต่างพากันกระโดดขึ้นไปจับจองที่แล้วเรียบร้อย ภูขมวดคิ้วมอง

“สรุปเอาไง ใครจะไปนอนห้องกู”

“ไม่ไป” ต่างคนต่างก็ไม่มีใครยอมกันทั้งที่เบียดกันจนแทบจะตกเตียง

“งั้นก็ตามใจ กูกลับห้องกูละ”

“อ้าวแล้วผมหละครับ” กระทั่งที่เสียงจากคินดังขึ้น เหล่าคนบนเตียงพากันหันมอง

“มึงก็ไปนอนกับไอ้ภูดิ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์มากจนภูยังอดจะหันไปชูนิ้วกลางให้ไม่ได้ คินที่ยังไม่เข้าใจว่าเขาคุยอะไรกันจึงทำได้เพียงยืนมองเท่านั้น มองแบงค์ที่ส่งสายตาวาวับมาให้ภูโดยที่ภูมองแบบเฉือดเชือนกลับไปให้

“กลับไปนอนคอนโดมึงไป” จนที่ภูหันมาพูดประโยคนี้กับคิน

“เห้ยยได้ไง ดึกแล้วไม่ได้ ขับรถกลับอันตราย” แบงค์รีบค้านเช่นเดียวกับคนอื่นที่ต่อว่า เอาซะภูรู้สึกผิดแล้วเนี่ย

“สรุปให้ผมนอนไหนครับ” คินตัดสินใจถามไปอีกรอบ

“ห้องกูไง เดินตามมา” แล้วก็นั่นแหละ ทันทีที่ภูพูดประโยคนี้เสียงแซวจากกลุ่มคนบนเตียงก็ดัง ขนาดเดินออกมาจากห้องแล้วคินยังได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากเหล่ารุ่นพี่ในชมรมดังตามมาเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน แค่เขานอนห้องเดียวกับภูมีอะไรให้น่าสนใจงั้นหรอ ทั้งที่ในหัวก็คิดแบบนี้

...กึก... แต่พอปิดประตูห้องได้ภาพเมื่อตอนเย็นก็ไหลกลับเข้ามาในสมองของคินอีกครั้ง

หวังว่าภูคงจะไม่แกล้งกันแบบพิเรนอีกนะ

“ถ้าลำบากใจผมนอนโซฟาได้นะครับ” เพราะสีหน้าที่ดูหงุดหงิดของภูทำให้คินพูดไปแบบนี้

“ไม่ต้องอะ ไม่ได้ลำบากใจอะไร”

“งั้น...ผมนอนฝั่งนี้นะ”

“อืม” ได้รับเสียงขานรับมาคินถึงทิ้งตัวนอนลงยังฝั่งที่อยู่ติดกับหน้าต่าง เครื่องปรับอากาศภายในห้องถูกเปิดเย็นมากจนคินต้องแย่งผ้าห่มของภูมาห่มไว้คนเดียวแต่ดูอีกคนไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะนอนเล่นโทรศัพท์แบบไม่ได้มีท่าทางจะหนาวเลย ตอนนี้ไฟในห้องถูกปิดลง มีแสงไฟจากด้านนอกที่สาดเข้ามาพอให้ได้มีแสงสว่างเล็กน้อย

“ผมก็เล่นเกมนี้นะ ขอเล่นด้วยได้ไหมครับ” คินพูดประโยคนี้ขึ้นเมื่อเห็นว่าภูกำลังเล่นเกมอะไรอยู่

“อะไร มึงมีเวลาว่างนั่งเล่นเกมด้วยหรอ”

“ก็ไม่ได้จะต้องอ่านหนังสือทั้งวันซักหน่อย” เถียงกลับไปซึ่งภูเพียงพยักหน้ารับแบบไม่อยากเชื่อ ในตอนนี้คินกำลังกดเข้าเกมเพื่อที่จะได้เล่นด้วยกับอีกคน เพียงไม่นานเท่าไหร่นักก็เป็นเพื่อนกันในเกมเสร็จสรรพ มองมือของภูข้างที่เจ็บพบว่าอีกคนดูเล่นไม่ถนัดเท่าไหร่แต่ยังพอเล่นได้

“พี่ถอดเฝือกวันไหน” เข้าเกมแล้วและกำลังรอหน้าดาวโหลดคินถึงได้มีเวลาถาม

“อีกสองวัน ขอเขาถอดก่อนกำหนดนิดหน่อย”

“ทำไมหละครับ?”

“จะได้ลงซ้อมกับพวกมึงไง ยืนดูเฉยๆแม่งโคตรเอาเปรียบเด็ก” คินกำลังจะอ้าปากพูดต่อแต่ห้องภายในเกมโหลดเสร็จพอดีถึงไม่มีเวลาจะคุยกันต่อแล้วเพราะต้องจริงจังกับการเล่นเกม ชะโงกหน้ามองจอโทรศัพท์ของภูอย่างอยากรู้ว่าอีกคนใช้ปืนอะไร ตอนกระโดดร่มลงมาเครื่องบินกับร่มของภูสวยมาก

“พี่เติมเงินหรอ ชุดก็สวย สกินปืนก็มี”

“นิดหน่อย” ตอนนี้วิ่งหาเก็บของกันอยู่และยังไม่เจอศัตรูเลยมีเวลาพอได้คุยไร้สาระ

“ผมก็เติมหมดไปตั้งเยอะ”

“มึงเติมหมดไปตั้งเยอะแต่อันดับแรงค์มึงอยู่แค่นี้อะนะ?”

“ก็ชอบเจอทีมไม่เก่งไงครับ”

“มึงไม่เก่งเองหรือเปล่า” คินขมวดคิ้วในขณะที่ภูหัวเราะออกมา เรื่องชอบดูถูกเขาเนี่ยภูเก่งเกินใครเลย นอนเล่นเกมด้วยกันโดยที่ต่างคนต่างเงียบเพราะกำลังวุ่นวายอยู่กับการหาปืนและลูกกระสุน แต่รอยเท้าสีแดงภายในแผนที่ปรากฏซึ่งนั่นหมายความว่ามีศัตรูกำลังวิ่งเข้ามา เริ่มเงียบกันทั้งคู่ คิ้วขมวดสายตาจดจ้องอยู่กับหน้าจอ เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่คินจะหลุดพ่นลมหายใจหงุดหงิด

“พี่ ผมโดนยิงล้มช่วยหน่อย”

“แปป เก็บมันให้หมดก่อน”

“มาช่วยผมก่อนสิเดี๋ยวจะตาย” อีกคนก็กำลังวุ่นวายกับการไล่ฆ่าฝั่งตรงข้ามส่วนอีกคนก็หัวร้อนที่ภูไม่ยอมเข้ามาช่วยรักษากันซักที คินเริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อเลือดลดน้อยลงทุกที กว่าภูจะยอมเข้ามาช่วยก็จนเขาแทบจะตายแล้ว

“มึงอ่อนจังวะ” ภูถามมาและคินหันมองหน้าอีกคน

“ก็ไม่ค่อยได้เล่น...” พึมพำตอบไป เล่นด้วยกันต่อแล้วเหตุการณ์เดิมก็วนมาอีกครั้ง ในตอนนี้คินตายแล้วของจริงแต่ยังสามารถดูภูเล่นได้ต่อ ลุ้นมากในตอนที่เหลือแค่ภูและทีมฝั่งตรงข้าม

“จะฆ่ากูยังเร็วไปอีกสิบปี!” ในที่สุดภูตะโกนประโยคนี้ออกมาเมื่อสามารถชิงที่หนึ่งมาได้ คินยิ้มไปกับเขาด้วยเพราะอยู่ทีมเดียวกันซึ่งต่อให้เขาตายแต่ถ้าเพื่อนได้ที่หนึ่งเขาก็จะได้ด้วยเหมือนกัน หันไปมองหน้าของภู

“เล่นอีกรอบนึงไหมครับ”

“เหอะไม่อะ แบกควายชัดๆ” ได้คำตอบนี้มาแถมภูวางโทรศัพท์ลงบนหัวเตียง แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องนอนแล้วดังนั้นคินถึงได้วางโทรศัพท์ของตัวเองลงเหมือนกัน เป็นความเงียบที่อยู่รอบตัว มีผ้าห่มผืนเดียวแถมตอนนี้เริ่มหนาวจัดจนขนาดภูยังต้องห่มผ้า ต่างคนต่างเงียบ ไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรเพราะก็เหมือนตอนนอนกับเพื่อนผู้ชาย

เพียงไม่นานเท่าไหร่ก็หลับสนิทไปด้วยกันทั้งคู่

แต่ภูนอนดิ้นนะ แถมติดกอดหมอนข้างด้วย ปกตินอนกับเพื่อนก็จะกอดเพื่อนเพราะฉะนั้นคืนนี้...

..หมับ... ก็ต้องเป็นคินนี่แหละที่รับหน้าที่ตรงนั้นไป

................

ลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคยคือสิ่งแรกที่ได้เห็น คินรู้สึกหายใจไม่อิ่มจนต้องก้มมองบริเวณหน้าอกของตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติพาดอยู่ จนได้พบว่ามันคือแขนยาวของคนข้างกายและใบหน้าของภูที่ซุกอยู่ช่วงต้นแขนของเขา เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว พยายามจะดันภูออกเพราะเมื่อยตัวมาก

..หมับ!.. แต่สิ่งทีได้รับจากอีกคนดันเป็นการถูกกระชับกอดเสียอย่างงั้น

“พี่ภูผมหนัก ลุกออกไปทีครับ”

“กี่โมงแล้ววะ” ภูยังคงไม่โต้ตอบในสิ่งที่คินพูดออกไปแต่ดันส่งคำถามกลับมาให้

“แปดโมงเช้า” กระนั้นแล้วคินก็ยอมที่จะตอบ จนเหมือนอีกคนจะรู้สึกตัวว่าสมควรที่จะตื่นภูถึงได้เริ่มขยับตัวแล้วเปิดเปลือกตาขึ้น ขยับตัวออกห่างจากคินก่อนกลับไปนอนหงายยังฝั่งเตียงของตัวเองเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงียบกันอยู่ซักพักเพราะยังสะลึมสะเลอกับความง่วง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]