พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 295

“ไม่เป็นไร” นัทธีโบกมือให้อย่างเหนื่อยหน่าย

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ต้องการจะพูดมัน มารุตก็หยุดความสนใจที่มีไม่ได้ถามอะไรต่อ วางเอกสารกองหนึ่งไว้บนโต๊ะทำงานของเขา“ท่านประธานครับ นี่คือรายงานประจำปีของบริษัทในเครือ ที่รอการอนุมัติครับ”

นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง หยิบเอกสารอันบนสุดมาเปิดดู ดูไปด้วย ก็พลางถามไปด้วยว่า “ใกล้จะสิ้นปีแล้ว สินค้าคงคลังเป็นยังไงบ้าง?”

“ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”มารุตนึกไปถึงบันทึกที่เขาเพิ่งดูไปเมื่อวาน

นัทธีเชิดหน้าขึ้น “หลังจากที่สรุปสินค้าคงคลังเสร็จสิ้น ให้หัวหน้าของสาขาต่างๆมาประชุมที่สำนักงานใหญ่ด้วย ”

“ได้ครับ”มารุตพยักหน้า “ท่านประธาน มีอะไรจะสั่งการอีกไหมครับ ?”

“ตอนนี้ยังก่อน” นัทธีตอบกลับมาคำหนึ่ง

มารุตดันกรอบแว่นของตัวเอง“งั้นผมขอตัวนะครับ”

พูดจบ เขาก็หันหลัง ก้าวเท้าแล้วเดินออกไป

เพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว ก็ถูกนัทธีเรียกเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน”

“ยังมีอะไรอีกเหรอครับท่านประธาน?”มารุตหยุดเดินแล้วหันหลังกลับมา

นัทธีมือลูบไปที่ปากกาในมือ นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ถามคำถามที่มารุตถึงกับต้องขยับแว่นลง “ไปพบผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง ฉันต้องเตรียมอะไรไป แล้วต้องพูดอะไรบ้าง ?”

แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะเคยพบวรยามาก่อนบ้างแล้ว แต่ตอนนั้นความสัมพันธ์ของเขากับวรยา เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่รู้จักกันทั่วไปเท่านั้น กับคนแปลกหน้า เขาก็มักจะมีท่าทีที่เย็นชาอยู่ตลอด

แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป วรยากำลังจะเป็นแม่ยายของเขาในอนาคต เขาย่อมไม่สามารถที่จะปฏิบัติตัวต่อเธอเหมือนเก่าได้ เขาต้องทำตัวยังไง เขาเองก็มึนงงสับสนมาก เพราะตัวเขาเองไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

เมื่อได้ยินคำถามของนัทธีมารุตก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

เขาไม่คิดมาก่อนว่า ท่านประธานคนที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ก็ยังต้องมาเป็นทุกข์กับเรื่องของการเจอผู้ใหญ่แบบนี้ด้วย

ในตอนนี้เอง มารุตก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ท่านประธานที่เคยเย็นชาสำรวมและเรียบง่าย ตั้งแต่ตกหลุมรักกับคุณวารุณี ก็กลายเป็นคนที่อ่อนโยนมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งติดดิน แล้วก็ยิ่งเหมือนผู้ชายธรรมดาทั่วไปมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ท่านประธานแบบนี้ เขากลับรู้สึกชอบมากกว่า เพราะมันเหมือนคนปกติทั่วไป

“ท่านประธาน แม่ของคุณวารุณีกลับมาแล้วเหรอครับ?”มารุตไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับถามกลับมา

นัทธีพลิกปากกาในมือ ใช้หัวปากกาแตะเบาๆไปบนโต๊ะ ตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง

มารุตครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบว่า“ง่ายมากครับ สุภาพสักหน่อย บอกกับเธอว่าคุณจะดูแลคุณวารุณีให้ดีที่สุด แล้วให้ของกำนัลสักชิ้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ ”

แม้ว่าเขาจะไม่มีแฟน และไม่เคยเจอกับญาติผู้ใหญ่ที่ไหน

แต่ในละครก็เคยมีฉากแบบนี้ มันน่าจะถูกแล้ว

“ให้ของกำนัล?” นัทธีหรี่ตาลงเล็กน้อย ก็รู้สึกว่ามันก็มีเหตุผลดี จากนั้นก็ออกคำสั่งกับมารุต“งั้นเรื่องของกำนัล วานนายช่วยไปจัดการให้ด้วย ”

“ผม......”มารุตถึงกับสำลัก

เดิมทีเขากะจะพูด ว่าเขาไม่รู้ว่าแม่ของคุณวารุณีนั้นชื่นชอบอะไร แต่พอเห็นสายตาที่เย็นเยือกของนัทธี ทันใดนั้นก็ถึงกับต้องรีบกลับคำทันที“รับทราบครับ ผมจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ ”

อย่างมาก เขาก็ซื้อของที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบก็แล้วกัน

ต่อให้อายุจะมากแค่ไหน ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิง ทุกคนล้วนชอบพวกกระเป๋าหรือไม่ก็พวกเครื่องสำอางไม่ใช่เหรอ

เมื่อคิดได้แบบนี้ ความกดดันที่มีของมารุตก็พลันหายไปในทันที จัดแจงเนกไทตัวเองให้เข้าที่ จากนั้นก็เดินออกไป

ในตอนค่ำ นัทธีขับรถ พาวารุณีและเด็กน้อยอีกสองคนไปยังที่ร้านอาหาร

วารุณีหันไปมองยังเบาะหลัง มีถุงใส่ของที่วางอยู่ข้างๆของเด็กสองคน ด้วยความสงสัย“นัทธี ของพวกนี้ให้คุณแม่ทั้งหมดเลยเหรอคะ?”

“ใช่”นัทธีมองไปยังทางเบื้องหน้าแล้วพยักหน้าให้

ไอริณจับไปยังถุงใส่ของ “คุณพ่อ ข้างในมันคืออะไรเหรอคะ ?”

วารุณีก็อยากรู้มากด้วยเช่นกัน

อารัณเองแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็กำลังมองสำรวจถุงใส่ของอยู่

นัทธีมองผ่านกระจกมองหลังดูท่าทีของสามแม่ลูก ก็รู้สึกว่ามันน่ารักดี อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปาก “ไม่รู้ มารุตเป็นคนซื้อ ”

“คุณจะให้ของกับคุณแม่ ตัวคุณเองก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร?” วารุณีถึงกับเหยียดมุมปาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ