หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 389

ในความทรงจำของบุรินทร์ ตั้งแต่เด็กธนพัตก็ได้รับความชื่นชอบจากท่านประเสริฐอย่างมาก ขอเพียงเขาเอ่ยขอเรียกร้องที่ไม่ได้เกินกว่าเหตุออกมา ปกติแล้วท่านประเสริฐก็จะไม่ปฏิเสธ

ตอนแรกเริ่มเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเรื่องนี้มากนัก ธนพัตเป็นลูกชายคนเล็กที่สุดของตระกูลกีรติเมธานนท์ พ่อแม่ต่างก็ไม่อยู่แล้ว ท่านประเสริฐจะรักและเอ็นดูเขามากหน่อยก็พอจะเข้าใจได้ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป ธนพัตเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองยิ่งไม่ถูกชะตากับน้องชายคนนี้

ธนพัตที่เติบโตขึ้นยอดเยี่ยมมาก แต่ความยอดเยี่ยมนี้เองทำให้เขาสัมผัสได้ถึงการข่มขู่คุกคาม……

“ปัง” เสียงดังลั่น บุรินทร์เตะเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าคว่ำ แต่กลับรู้สึกได้ถึงไฟโกรธที่คุกรุ่นยากจะสงบลงภายในใจ คำพูดที่ท่านประเสริฐพูดในงานเลี้ยงวันนี้หมายความว่าอะไร!

วันนี้เป็นงานเลี้ยงประจำปีของกีรติเมธานนท์กรุ๊ป พนักงานและคณะกรรมการบริษัททุกคนต่างก็มาร่วมงาน ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลกีรติเมธานนท์ท่านประเสริฐพาธนพัตมาร่วมงานด้วยไม่เท่าไหร่ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคุณปู่จะแนะนำธนพัตกับทุกคนอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คิดถึงตอนแรกที่เขามาทำงานที่บริษัทก็ได้แต่ทักทายกับคณะกรรมการบริษัทไม่กี่คนเท่านั้น

อีกอย่างคำพูดของคุณปู่ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการส่งสารให้ตัวเองและทุกคนว่า ธนพัตก็คือทายาทผู้สืบทอดกีรติเมธานนท์กรุ๊ปในอนาคต

มีสิทธิ์อะไร! ไม่ว่าจะเป็นวัยวุฒิ ความสามารถ เขาสู้ธนพัตไม่ได้ตรงไหน มีสิทธิ์อะไรพอเขามาที่บริษัทก็ได้รับความสนใจขนาดนี้! นึกถึงท่าทางประจบเอาใจธนพัตของคณะกรรมการบริษัทและพนักงานในงานเลี้ยงวันนี้ เขาก็อดที่จะโมโหไม่ได้

ไม่ได้ เขาจะปล่อยให้เรื่องนี้พัฒนาต่อไปไม่ได้ เขาต้องคิดหาทางขัดขวางถึงจะได้ ตนเองต้องทำงานอย่างลำบากมาหลายปีถึงจะได้มาซึ่งตำแหน่งในวันนี้ เขาจะไม่ยอมให้ธนพัตมาแทนที่ตนเองเด็ดขาด

ยังไม่ทันที่เขาจะหาวิธีมารับมือได้ วิธีการของท่านประเสริฐก็ยิ่งทำให้เขาร้อนใจยิ่งขึ้น

หลังจากที่ครั้งก่อนธนพัตได้เปิดเผยโฉมหน้าในงานเลี้ยงของบริษัทครั้งก่อน ท่านประเสริฐก็เริ่มพาเขาไปร่วมหารือพูดคุยด้านความร่วมมือต่างๆ นี่เป็นเวลายังไม่ถึงสองเดือนดี ผู้บริหารบริษัทต่างๆที่ร่วมงานกับกีรติเมธานนท์กรุ๊ปต่างรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเขา

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ในกีรติเมธานนท์กรุ๊ปก็คงไม่มีที่ให้เขาอยู่อีกแล้ว

ภายใต้ความกังวล เขาคิดวิธีที่ไม่ใช่วิธีที่ดีนักขึ้นได้ ลักพาตัวเหรอ แค่ธนพัตหายสาบสูญไป ตระกูลกีรติเมธานนท์ก็เหลือเขาที่เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ถึงตอนนั้นกีรติเมธานนท์กรุ๊ปก็ต้องเป็นของเขา

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขา จะอย่างไรก็ไม่อาจลบเลือนได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกใช้ได้ สุดท้ายเขาก็ติดต่อแก๊งลักพาตัวแก๊งหนึ่ง ให้พวกเขาลักพาตัวธนพัต

แต่เรื่องไม่เป็นอย่างที่คิด ท่านประเสริฐปกป้องดูแลธนพัตอย่างดีมากเกินไปจริงๆ แก๊งลักพาตัวนั้นจับตาธนพัตอยู่ราวสองเดือน ก็ยังหาโอกาสลงมือไม่ได้เลยสักนิดเดียว

นี่ทำให้บุรินทร์ยิ่งทวีความเคียดแค้น และยิ่งตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะกำจัดธนพัตออกไป ท่านประเสริฐไม่เคยปกป้องดูแลตนเองอย่างใส่ใจขนาดนี้มาก่อน

ตัดสินใจก็ส่วนตัดสินใจ แต่เรื่องลักพาตัวธนพัตก็ไม่มีความคืบหน้าเลยสักนิด ต่อให้ใจร้อนแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ เขาทำได้เพียงรอโอกาสอย่างช้าๆ

แต่เรื่องนี้มัวรีรออยู่ได้ที่ไหนกัน ถ้าหากธนพัตรู้ตัวว่ามีแก๊งลักพาตัวคอยติดตามเขาอยู่ แผนการทั้งหมดนี้ก็สูญเปล่า ไม่แน่ว่าอาจเปิดโปงตนเองด้วย

ตอนที่เขากำลังร้อนใจอย่างทนรอไม่ไหวนั้นเอง ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมาหาเขา คนผู้นี้ก็คือพชิรา

เกี่ยวกับพชิราบุรินทร์พอได้ยินมาบ้าง ในเมื่อเรื่องราวความรักของเธอกับธนพัตโด่งดังเป็นที่พูดถึงมากขนาดนี้ เขาจะไม่รู้ก็คงไม่ได้

“คุณบุรินทร์ ฉันมีเรื่องอยากจะขอความร่วมมือกับคุณ ไม่รู้ว่าคุณสนใจหรือเปล่า” พชิราพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

“เรื่องอะไร” บุรินทร์สงสัยอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าแฟนของธนพัตมาหาเขาทำไม!

ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก พชิราพูดว่า “ตระกูลนิธิธราสกุลช่วงเจอปัญหาทางธุรกิจนิดหน่อย ฉันหวังว่าคุณบุรินทร์จะสามารถช่วยให้ตระกูลนิธิธราสกุลผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ สำหรับการตอบแทน ฉันจะช่วยหาวิธีให้คุณจับตัวธนพัตไปกำจัดทิ้งเสีย ให้คุณได้นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลกีรติเมธานนท์กรุ๊ป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ