กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1509

ถึงแม้ว่าเอเดรียนและโรแกนจะเห็นชาร์ลีตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านแล้ว แต่พวกเขาต่างก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการอยู่ตรงนั้นของเขาเลย

เป้าหมายในการมาเยือนของเขาในวันนี้คือยูล ราเชล และควินน์ ดังนั้นพวกเขาจึงทำเหมือนว่าชาร์ลีและเหล่าคนรับใช้เหล่านั้นคือสิ่งที่มองไม่เห็น

พวกเขาไม่คิดไม่ฝันว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าเรียกพวกเขาว่าไอ้สารเลว พวกเขาจึงรู้สึกโกรธชาร์ลีขึ้นมาทันที

จริง ๆ แล้วตระกูลโกลดิ้งเป็นตระกูลอันดับสามในอีสต์คลิฟฟ์ เมื่อพูดในแง่ของความร่ำรวย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินโดยรวมอยู่ที่หลายล้านล้านดอลลาร์ มีเพียงตระกูลเวดและตระกูลซูลซ์เท่านั้นที่อยู่เหนือกว่า ถึงแม้ว่าเอเดรียนและโรแกนจะได้รับทรัพย์สินของตระกูลโกลดิ้งเพียงคนละ 25% เท่านั้น แต่พวกเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองนี้ ที่เอาชนะผู้ที่ติดอันดับในรายช่ือผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้

พวกเขารับไม่ได้ที่มีชายหนุ่มจากไหนก็ไม่รู้มาตะโกนด่าเขา เอเดรียนจึงชี้หน้าชาร์ลีอย่างเดือดดาล แล้วตะโกนว่า “ไอ้หนู รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้! แกอยากจะตายหรือไง?”

ชาร์ลีทำเสียงเย้ยหยัน “ฉันรู้! แกมันก็คือไอ้คนเฮงซวยหมายเลขหนึ่ง คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แกคือไอ้คนเฮงซวยหมายเลขสอง ส่วนไอ้เด็กแว้นคนนั้นก็คือไอ้คนเฮงซวยหมายเลขสาม ส่วนพวกแกที่เหลือถ้าอยากมีชื่อติดอยู่ในรายชื่อนี้ด้วยก็พูดออกมาเลย แกจะได้ไม่พลาดอันดับสูงสุดนี้!”

เนื่องจากสถานะของพวกเขาในฐานะทายาทของตระกูลโกลดิ้งที่มีชื่อเสียง เอเดรียนและโรแกนจึงเติบโตขึ้นมาด้วยการอบรมเลี้ยงดูที่เข้มงวดแบบชนชั้นสูงตั้งแต่เด็ก ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นผู้ชายที่แต่งตัวดีและมีอารมณ์ร้าย

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคนเหล่านี้ดูเหมือนจะมีการศึกษาดี แทบจะไม่มีแรงกระตุ้นให้ใช้กำลังกับผู้อื่น และไม่พูดจาหยาบคาย แต่จริง ๆ แล้วความคิดและลักษณะนิสัยของพวกเขานั้นเน่าเฟะจนถึงกระดูก

ยกตัวอย่างเช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนดื่มอวยพรให้เขาในระหว่างดินเนอร์ โดยถือแก้วไวน์สูงกว่าแก้วไวน์ของเขานิดหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นเขาก็ยิ้มราวกับว่าไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากดินเนอร์จบลง เขาก็รีบสั่งให้บอดี้การ์ดไปหยุดรถของคนคนนั้นทันที ลากเขาออกมาจากรถแล้วหักมือของเขา

นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่คำพูดโง่ ๆ ของเอเดรียนได้ทำลายบ้านและครอบครัวมานับไม่ถ้วนแล้ว

ในเวลานี้ท่าทีที่ดูหยาบคายของชาร์ลีทำให้เลือดในกายของเขาเดือดปุด ๆ !

แต่เอเดรียนก็คลางแคลงใจอยู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้ว่าชาร์ลีเป็นใครมาจากไหน ชายหนุ่มคนนี้เป็นแขกในบ้านของยูล ซึ่งก็หมายความว่าเขารู้จักสถานะทางสังคมของตระกูลโกลดิ้ง แต่ชายคนนี้ก็ยังกล้ามาเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้ เป็นไปได้ไหมที่ชายหนุ่มคนนี้จะมีภูมิหลังที่เขาไม่รู้จัก?

โรแกนก็คิดแบบเดียวกัน ถ้าชายหนุ่มคนนี้รู้จักตัวตนของพวกเขาแต่ยังกล้าที่จะยั่วยุ เขาจะต้องมีอะไรดี ๆ ซ่อนเอาไว้แน่

แต่วิลเฮล์มที่ยังอายุน้อยและหยาบคายนั้นยังไม่รู้จักตัวเองมากพอจะคิดให้ดีกว่านี้ได้ เขาตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล “ไอ้ระยำ แกเป็นใครกันวะไอ้เด็กน้อย? แกรู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร? พวกเราคือตระกูลโกลดิ้ง! แกอยากจะตายหรือไงวะ?”

ชาร์ลีเหลือบตามองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกเป็นคนที่เห่าหอนเหมือนหมาใส่นานาเมื่อกี้นี้ใช่ไหม? ถ้าแกชอบกัดคนเหมือนหมานักล่ะก็ ทำไมไม่คุกเข่าแล้วเห่าให้เหมือนหมาไปเลยล่ะ? ฉันอาจปล่อยแกไปถ้าเห่าได้ถูกใจฉัน!”

“ไอ้ระยำ!” วิลเฮล์มร้องคำรามด้วยความตกตะลึง “แกตายแน่ ไอ้ระยำเอ๊ย! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นนายน้อยแห่งตระกูลโกลดิ้ง! ถ้ายังกล้าพูดจาดูหมิ่นฉันอยู่ล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกซะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ