คุณหมอของนายขุนพล นิยาย บท 13

@ สนามแข่งรถ

รถ BMW สีขาววิ่งเข้ามาจอดที่สนามแข่งรถ สภาพสถานที่ดูไม่จืดแต่จากสภาพเมื่อคืนอย่างมาก โต๊ะ ขวดเหล้าขวดเบียร์ที่เกลื่อนเต็มพื้นที่ยังไม่ได้เต็ม แต่สนามแข่งที่นี่ขึ้นชื่อว่าได้มาตรฐานระดับโลกเพราะจะมีนักแข่งระดับโลกและนักแข่งที่มีชื่อเสียงหรือเวลามีการแข่งขันในไทยมักจะใช้บริการสนามแห่งนี้เสมอ

 “ลงมาเร็ว” หลังจากที่รถจอดสนิทขุนพลก็เดินลงจากรถอ้อมมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ที่ตอนนี้น้ำมนต์ไม่ยอมลงจากรถ เพราะว่าข้างนอกมีพนักงานหลายคนกำลังเพ่งมองและให้ความสนใจมองมาที่รถของเธอเป็นจำนวนมาก

 “ทำไมไม่บอกก่อนว่าคนเยอะ” ไม่มีเสียงตอบจากขุนพล เขาแค่ปรายตามองไปที่พนักงานของสนามแต่ก็ไม่ได้ดุหรือไล่แต่อย่างใด ตัดมาคือเขาแค่อยากจะเปิดตัวให้ทุกคนรู้จักหญิงสาวคนนี้ด้วยซ้ำ ความเงียบของขุนพลทำให้เธอจำใจที่ต้องลงจากรถและเดินตามหลังขุนพลอย่างเงียบ ๆ

 “ว้าว เมื่อคืนว่าสวยแล้ววันนี้สวยกว่าคับเฮีย” เสียงแซวของลูกน้องขุนพลดังขึ้น ทำให้น้ำมนต์รู้สึกประหม่าอย่างมาก เลยต้องขยับตัวไปใกล้ขุนพลและใช้มือดึงที่ปลายเสื้อยืด เป็นการบอกให้ขุนพลจัดการเสียงแซวนี้ให้เงียบ

 “เงียบได้แล้ว แยกย้ายกันทำงาน” กว่าทุกคนจะแยกย้ายกันกลับไปทำงาน เล่นน้ำมนต์แทบไปไม่เป็นกับคำถามต่าง ๆ มากมาย แถมพนักงานยังเรียกเธอว่าซ้ออีกต่างหาก

 “สวัสดีคับซ้อ ผมบอล เป็นมือขวาของเฮียคับ” บอลทักทายน้ำมนต์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตรส่งมาให้น้ำมนต์ ผ่านไปซักพักน้ำมนต์เริ่มผ่อนคลายและเริ่มปรับตัวกับสถานที่ได้ ขุนพลที่ลอบมองน้ำมนต์เป็นระยะ ๆ ก็เริ่มเบาใจว่าเธอสามารถเข้ากับลูกน้องของเขาได้และหญิงสาวไม่ถือตัวกับพนักงานแถมยังช่วยทำงานอีกต่างหาก

 “เฮียไปหาเมียแบบนี้มาจากที่ไหนว่ะ” บอลแซวขุนพล เพราะเขาได้สัมผัสถึงความจริงใจของน้ำมนต์ และความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่ได้ปรุงแต่หรือเสแสร้งแกล้งทำต่อหน้าเฮียของเขา

 “ทำไมว่ะ” ขุนพลเลิกคิ้วถามลูกน้องคนสนิททันที หลังจากที่เจอคำถามนี้ จนเขารับรู้ได้ว่าพนักงานปลื้มน้ำมนต์กัน ทุกคน ชมน้ำมนต์ไม่ขาดปาก เพราะเธอไม่ถือตัวและเป็นคนมีน้ำใจจากความเห็นของลูกน้องส่วนใหญ่ บอลรายงานทุกอย่างให้เขาฟัง

 “ลมเย็นจังเลย” น้ำมนต์ยืนกางแขนรับลมจากข้างสนามที่ตอนนี้เริ่มเคลียทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ยอมรับว่าที่นี่บรรยากาศดีมาก ลมโชยพัดผ่านตลอด พนักงานที่นี่เป็นกันเองทุกคน ถึงบางคนจะมีหน้าตาที่โหดและเถื่อนก็ตาม

 “กลับเลยมั้ย” ขุนพลเดินมาตามน้ำมนต์หลังจากที่เคลียงานเสร็จเรียบร้อย เพราะกลัวว่าเธอจะเหนื่อยหรือง่วงเกินไป จะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย เพราะลำพังน้ำมนต์ทำงานหนักที่โรงพยาบาลก็หนักเอาเรื่องอยู่แล้ว

 “เสร็จแล้วก็กลับเลยก็ได้” 

หลายวันต่อมา

ครืด ครืด ครืด

"ฮาโหลค่ะแม่" 

"ช่วงนี้ทำไมไม่กลับบ้านจ๊ะ เย็นนี้แวะมากินข้าวที่บ้านหน่อย แม่มีคนแนะนำให้รู้จัก" เอาอีกแล้วคุณหญิงแม่ของฉัน ที่ชอบจับคู่ให้ลูกสาวเพราะว่ากลัวฉันมั่วแต่ทำงานจนขึ้นคาน ก็เลยชอบช่วยเพื่อนที่มีลูกชายมากินข้าวที่บ้าน ทำความรู้จักกับฉัน

"อีกแล้วนะแม่ จะจับคู่หนูกับใครอีก" 

"ป๊าวว พี่คินลูกของน้าอรกลับมาจากต่างประเทศแม่ก็เลยชวนมากินข้าวที่บ้านเฉย ๆ " เสียงสูงที่แม่ฉันใช้ บอกได้คำเดียวว่าไม่ผ่านค่ะ แต่พี่คินฉันรู้จักตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะแม่ของเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ตอนเด็กก็เลยได้เล่นด้วยกันบ่อยๆ จนมาแยกกันตอน มอ ต้นที่พี่เขาต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ ก็เลยไม่ได้เจอกันนานแล้ว

"โอเคค่ะ คุณหญิงเจอกันที่บ้านตอนเย็น"

ตู๊ด ตู๊ด 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล