ฝ่าวิกฤติพลิกรักท่านอ๋อง นิยาย บท 2

หญิงสาววัยยี่สิบปีกลับเข้ามาในห้องเช่าในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ เผยให้เห็นในห้องที่มีแต่หนังสือเต็มไปหมด อิงฮวาเดินเข้าไปในห้องอย่างอ่อนเพลียก่อนจะไปนั่งพักลงบนโซฟาสีขาว

" ป๊าม๊า... หนูคิดถึง... " อิงฮวามองรูปหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปถ่ายครอบครัว น้ำใสๆ เริ่มไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของอิงฮวา ท้องของเธอเริ่มประท้วงขึ้น อิงฮวาใช้มือปาดน้ำตาออกก่อนจะเดินไปค้นหาของในตู้เย็น เมื่อเธอหยิบได้เกี๊ยวซ่าก็ตัดขอบถุงและเอาไปเข้าไมโครเวฟทันที เธอตั้งเวลาไว้ที่ห้านาที แล้วเดินกลับเข้าห้องไป เธอหยิบไฟแช็กขึ้นมาและเดินออกมาจากห้องอีกครั้ง เธอมองรูปภาพสีขาวดำตรงหน้าสองรูป ก่อนจะหยิบธูปขึ้นมาหนึ่งดอกแล้วจุดไฟแช็ก เมื่อธูปติดเธอก็สะบัดไล่ไฟให้ดับเหลือเพียงแค่ให้มีควันลอย

" ป๊ากับม๊าไม่ต้องห่วงหนูนะ ลูกสาวของป๊ากับม๊าเก่งจะตาย " อิงฮวาฝืนยิ้มให้กับรูปป๊ากับม๊า ก่อนสายตาจะเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง โลกของผู้ใหญ่ช่างโหดร้ายกับเธอเหลือเกิน เมื่อเสียงติ๊งของไมโครเวฟดังขึ้นเธอก็เดินเข้าไปที่ครัวอีกครั้ง เมื่อเธอเปิดไมโครเวฟออกมา จู่ๆ ก็เกิดการระเบิดขึ้นทันที ไฟทั้งหอดับไปชั่วขณะก่อนจะกลับมาติดอีกครั้ง เผยให้เห็นหญิงสาวนอนไร้วิญญาณ เศษกระจกแก้วของไมโครเวฟแทงเข้าไปปักที่หัวของอิงฮวา บัดนี้ เธอได้ตามพ่อแม่ของเธอไปแล้ว เสียงเจี๊ยวจ้าวดังขึ้นอิงฮวาถึงกลับสะดุ้งตื่นทันที เธอมองสภาพแว้ดล้อมที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับเด็กสามคน เด็กชายสองคนและเด็กหญิงหนึ่งคน

" ท่านพี่ตื่นแล้ว! " เด็กชายคนตรงกลางพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งออกไป สักพักก็มีชายชราเดินเข้ามาท่าทางของเขาเหมือนจะเป็นหมอเฒ่า ชายชรามองอิงฮวาอย่างตกใจ เมื่อสักครู่เขาเป็นคนบอกเองว่านางได้สิ้นใจตายแล้ว เหตุใดนางถึงได้ฟื้นขึ้นมาอีกกัน อิงฮวามองพวกเขาอย่างแปลกตาแบบที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน ชายชราใส่ชุดจีนโบราณ กับเด็กสามคนที่ใส่ชุดจีนโบราณเก่าๆ ที่ทั้งขาดและมีรอยเย็บเป็นรอยตะขาบ ชายชราเดินเข้ามาตรวจชีพจรของอิงฮวาอย่างถี่ถ้วนก่อนจะพยักหน้า

" ชีพจรปกติ เอายานี่ไปต้มให้พี่สาวเจ้าดื่มทุกเช้าและเย็น " ชายชรายื่นยาสมุนไพรให้กับเด็กชายคนโตสุด เด็กชายคนโตสุดพยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กชายคนกลางเดินหายออกไปอีกครั้งและเดินกลับมาพร้อมกับข้าวสารและยกให้กับชายชราไป ชายชราเมื่อได้รับของไปแล้วก็เดินออกไปเหลือไว้เพียงสามพี่น้องกับนางหนึ่งคน อิงฮวายกมือมากุมขมับทันที

" นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย... แล้วเด็กพวกนี้เป็นใคร " อิงฮวาสบถออกมา แม้นางจะบ่นพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพราะเด็กพวกนี้เงียบมากเลยทำให้พวกเขาก็พลอยได้ยิน

" พี่ใหญ่... ท่านปวดหัวหรืออย่างไร? " เด็กชายคนโตสุดถามนางขึ้น อิงฮวาเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างมึนงง ' พี่ใหญ่เหรอ? เจ้าเรียกข้าว่าพี่ใหญ่อย่างงั้นเหรอ? ' ในหัวของอิงฮวาเกิดคำถามมากมายก่ายกอง นางรวบรวมสติก่อนจะถามพวกเขาออกไป

" ฉันไม่เป็นอะไร... พวกนายเป็นลูกหลานใครกัน ทำไมถึงเรียกฉันว่าพี่ใหญ่ล่ะ? " อิงฮวาถามขึ้น เด็กชายทั้งสองหน้าซีดเผือด

" ขะ ข้าไม่กล้าเรียกท่านว่าพี่ใหญ่แล้ว " เด็กชายคนโตพูดขึ้นด้วยความหวาดกลัว อิงฮวารีบเดินเข้าไปปลอบเด็กชายทันที

" ไม่ต้องกลัวๆ ฉันไม่ทำร้ายพวกนายหรอก " อิงฮวากอดปลอบเด็กชายทั้งสองคน เด็กชายทั้งสองคนมีปฏิกิริยาอึ้งทันที อิงฮวาเมื่อเห็นพวกเขาหายตัวสั่นแล้วจึงผละพวกเขาออกจากอ้อมแขน " ทำไมถึงต้องกลัวฉันด้วยล่ะ? " อิงฮวาถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะนางไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับพวกเขา และนางก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเขาคือใคร เด็กชายคนกลางไม่กล้าพูดอะไรกลัวว่าจะถูกตบตีอีก เด็กชายคนโตเมื่อเห็นน้องชายอีกคนกลัวก็จับมือของเขาเอาไว้

" พี่ใหญ่... เคยบอกว่าไม่นับพวกข้าเป็นน้องชายของท่าน หากพวกข้าสนิทหรือเรียกท่านว่าท่านพี่ พี่ใหญ่จะตีและตบพวกข้า " เด็กชายคนโตพูดจบ อิงฮวาถึงกับช็อกทันที ' ข้าเนี่ยนะ! " อิงฮวารู้สึกผิดแต่นางเชื่อว่านางไม่รู้จักพวกเขาและไม่เคยทำร้ายพวกเขาจริงๆ

" พวกเรามาเริ่มกันใหม่นะ " อิงฮวาพูดจบก็ยิ้มให้กับเด็กทั้งสาม มิหนำซ้ำยังเดินไปหาน้องเล็กสุดและอุ้มนางขึ้นมา " ข้าจะเป็นพี่สาวที่ดีของพวกเจ้า " อิงฮวาพูดจบนางก็ยิ้มออกมา ท้องของเด็กทั้งสามร้องพร้อมกันอย่างกับประสานเสียงยิ่งทำให้ดังขึ้นไปอีก เด็กชายทั้งสองรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากไม่กล้าแม้แต่เงยหน้ามองหน้าของอิงฮวา อิงฮวาเมื่อได้ยินเสียงท้องของเด็กๆ กำลังประท้วงนางก็หัวเราะขึ้น

" ข้าจะไปหาอะไรให้พวกเจ้ากิน รอข้าประเดี๋ยว " อิงฮวาพูดจบกำลังจะเดินออกไป เด็กชายโตสุดก็จับชายเสื้อของนาง เมื่ออิงฮวาหันหน้ามามองมือเล็กๆ ที่กำลังจับชายเสื้อของนางอยู่ เด็กชายรู้สึกกลัวจึงรีบปล่อยทันที

" ขะ ข้าขอโทษ " เด็กชายรีบก้มหน้าก้มตารับผิด อิงฮวาเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมาและนั่งยองๆ ให้เท่ากับความสูงของเขา

" เจ้าทำอะไรผิดมาล่ะ ถึงได้ขอโทษข้า? " อิงฮวาถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าของเขา

" ข้าทำให้เสื้อท่านพี่สกปรก " เด็กชายตอบอย่างตรงไปตรงมา อิงฮวาเมื่อได้ยินคำตอบก็หัวเราะขึ้น

" เด็กน้อยเอ๋ย... เสื้อผ้าสกปรกซักก็หายเปื้อนแล้ว หากเจ้าไม่ได้ทำผิดจริงๆ ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะดุด่าพวกเจ้า " อิงฮวาพูดจบเด็กชายทั้งสองไม่กล้าเชื่ออะไรมาก มีคราหนึ่งที่นางพูดดีๆ กับพวกเขา สุดท้ายก็นำพวกเขาไปขายให้กับพ่อค้าเร่ร่อน เด็กสาวที่ยังแบเบาะไม่รู้ประสีประสาอะไร ก็คลานเข้าไปเกาะขาของอิงฮวาทันที เด็กชายคนกลางเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบอุ้มน้องเล็กขึ้นมากอดทันที อิงฮวาเมื่อเห็นว่าพวกเขายังไม่ไว้วางใจนางสักเท่าไหร่ นางก็ไม่ได้ใส่ใจก่อนจะเตรียมตัวลุกขึ้น

" ห้องครัวไปทางไหนเหรอ? " อิงฮวาถามขึ้น เด็กชายคนโตนำทางนางไป ระหว่างทางนางก็สำรวจบ้านไปด้วย ที่นี่ดูโทรมมาก ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขาแล้วฐานะที่บ้านน่าจะถึงขั้นวิกฤตเลยล่ะ เมื่อนางมาถึงห้องครัวก็สำรวจห้องครัวทันที ที่นี่แม้แต่ข้าวสารก็ไม่มีสักเม็ด

" ข้าเอาข้าวสารไปแลกกับยาของท่านพี่แล้ว " เด็กชายคนโตพูดจบก็นึกย้อนไปเมื่อสักครู่ที่เห็นเด็กชายคนกลางยื่นข้าวสารให้ชายชรา " ที่บ้านของเรามีอะไรเหลือบ้าง? " อิงฮวาถามต่อทันที เด็กชายพานางออกไปข้างนอกบ้านเผยให้เห็นหัวไชเท้าที่ปลูกไว้และกะหล่ำปลี อีกทั้งยังมีแครอทอีก อิงฮวานึกเมนูสักพักก่อนจะตีมือตัวเองเบาๆ

" เจ้าไปเก็บ หัวไชเท้า กะหล่ำปี และแครอทมาให้ข้าก็พอ " อิงฮวาบอกเด็กชายคนโตสุด

" ท่านพี่ต้องการเยอะแค่ไหนหรือ? " เด็กชายถามขึ้น อิงฮวาลูบหัวเขาก่อนจะตอบ

" เท่าที่พวกเราจะพอกิน " อิงฮวาพูดจบก็เดินกลับไปที่ห้องครัว นางรีบเอาฟืนเข้าเตาทันที เมื่อก่อไฟเสร็จนางก็เอาน้ำใส่หม้อแล้วตั้งขึ้นเตารอให้น้ำเดือด เด็กชายคนโตเอาหัวไชเท้ามาให้นางสองหัว กะหล่ำปลีหนึ่งหัว แครอทสี่หัว " เจ้าเอามาเยอะเกินไปหรือเปล่า? " อิงฮวาถามขึ้น เด็กชายส่ายหัวให้กับนาง

" ท่านแม่ก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนพวกข้า " เด็กชายพูดจบก็ชี้ไปอีกห้องหนึ่ง อิงฮวาก็มองตามที่เขาชี้ไป

" แล้วท่านแม่ไปไหนล่ะ? " อิงฮวาถามขึ้น เด็กชายดูเหมือนจะมึนงง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฝ่าวิกฤติพลิกรักท่านอ๋อง