เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1138

บทที่1137 การช่วยโจมตีของเสี่ยวหมี่โต้ว

“แกชอบ?”

หลัวหุ้ยเหม่ยถามออกมาด้วยความแปลกใจเล็กน้อย

เสี่ยวเหยียนมีสีหน้าแปลกไป ส่ายหน้าออกไป จากนั้นก็เอ่ยพูดอธิบายออกมาอีก “หนูเพิ่งรู้จักเขาเท่าไหร่เอง จะมาพูดคำว่าชอบคำนั้นในตอนนี้ได้ยังไงกัน?”

“จะว่าไปก็ใช่ แกต้องรอดูไปก่อน ฉันคิดว่าเด็กนี่คงมีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจแน่”

“หืม?” เสี่ยวเหยียนตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าความคิดของหลัวหุ้ยเหม่ยจะตรงกับเธอ เดิมทีเธอก็คิดว่าหลี่ซือห้านมีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจ แต่มีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจตรงไหนก็บอกไม่ได้เหมือนกัน พอคิดไปแล้ว คนเขาก็เป็นผู้ชายที่คุณภาพเสียขนาดนั้น จะมีปัญหาไปได้ยังไง?

จะต้องเป็นเธอที่เอาจิตใจคับแคบของตัวเองไปวัดคนที่ใจคอกว้างขวางแน่เลย

แต่ตอนนี้ได้ยินความคิดของหลัวหุ้ยเหม่ยที่เหมือนกันแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เกิดอาการอยากรู้ขึ้นมาว่าทำไมหลัวหุ้ยเหม่ยถึงคิดอย่างนี้ได้ หรือว่าเป็นเพราะว่าพวกเธอเป็นแม่ลูกกัน ก็เลยคิดเหมือนๆกัน?

“แม่ ทำไมแม่ถึงคิดว่าเขามีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจกัน?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยก็ถอนหายใจแรงๆออกมาต่อหน้าเธอ “แกอย่าหาว่าแม่ใจแคบเลย แกเป็นลูกสาวของแม่ แม่จะต้องหวังดีกับแกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ซือห้านเด็กคนนั้นดูท่าทางแล้วใช้ได้เลยทีเดียว ไม่พบจุดไม่ดีเลยสักนิด ยิ่งเป็นแบบนี้แม่ก็คิดว่าเขาก็ยิ่งเพอร์เฟกต์ แต่แกคิดดูนะ คนที่เพอร์เฟกต์ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีแฟน? หรือไม่มีคนยอมคบกับเขางั้นหรอ? หรือเขาจะรอให้คนอื่นมาแนะนำคู่นัดบอดให้ แล้วแต่งงานอยู่ด้วยกันมาโดยตลอดเลยหรือไง? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องจำพวกนี้มันน้อยมาก แม่ก็เลยเดาไปว่าเขาอาจจะมีอะไรที่ผิดปกติบางอย่างก็ได้ แต่ผิดปกติยังไงที่จะให้บอกเป็นรูปธรรม ก็ยังคงต้องให้เขาเป็นคนบอกมาเอง”

จนหลัวหุ้ยเหม่ยพูดจบ เสี่ยวเหยียนก็คิดว่าเธอพูดได้ถูกต้องที่สุด คิดไปในทางเดียวกับเธอเลย

“อันที่จริงแม่คิดเหมือนหนูเลย เพียงแต่...หนูคิดว่าเขาดูมีท่าทางไม่เหมือนคนมีอะไรผิดปกติเท่าไหร่เลยนะคะ คาดว่างานคงยุ่งมากเลยล่ะมั้ง?”

ไปนินทาคนอื่นเขาในใจ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีนักอยู่แล้ว

หลัวหุ้ยเหม่ยได้ยินลูกสาวพูดอย่างนั้นแล้ว ก็พยักหน้าออกมา

“งั้นคงงานยุ่งมากจริงๆล่ะมั้ง ใกล้ตัวคงไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย และก็อาจเป็นไปได้ว่าเพื่อนผู้หญิงที่อยู่รอบตัวคงแต่งงานกันไปหมดแล้ว ก็เลยจำต้องใช้วิธีการนัดบอด?”

ทั้งสองคนพูดกันเสร็จ ก็เงียบไม่พูดอะไรกันออกมาอีก ในตอนที่แยกกันออกไปแล้วนั้นหลัวหุ้ยเหม่ยก็ได้ให้เสี่ยวเหยียนลองเรียนรู้กันไป ไม่โอเคก็ช่างมัน

*

ในตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วมาที่ร้านราเม็งอีกครั้ง พบว่าที่ร้านมีคนแปลกหน้า แล้วยังเป็นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้วคนนึงวนเวียนอยู่รอบๆตัวเสี่ยวเหยียน พูดคุยกับเธออย่างเป็นมิตรน่าคบหา

เพียงมองไปแวบตาเดียว รังสีของความอันตรายจากร่างเสี่ยวหมี่โต้วก็แผ่ออกมา

ถึงแม้ว่าอายุจะน้อย แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะได้นิสัยส่วนตัวของเย่โม่เซินมา ดังนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะอายุน้อย รังสีความอันตรายที่แผ่ออกมาจากร่างจึงเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ลดน้อยลงไปเลย

ในตอนที่หลี่ซือห้านออกมา ทันใดนั้นเองก็เห็นว่าภายในร้านมีเด็กหน้าตาน่ารักคนนึงอยู่ด้วย ก็เลยแปลกใจขึ้นมา เขานึกว่าเป็นลูกชายของลูกค้าคนไหน ก็เลยเดินเข้าไปทักทายเขา

“สวัสดีเด็กน้อย มากินราเม็งใช่มั้ยครับ?”

เขาเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นออกมา มองดูแล้วดูมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

แต่ท่าทางอย่างนี้กลับทำให้เสี่ยวหมี่โต้วยิ่งไม่ชอบใจอีกฝ่ายมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะคำว่าเด็กน้อยคำนั้นของเขา

แต่เสี่ยวหมี่โต้วก็เป็นเด็กที่มีมารยาทมาโดยตลอด เขาก็เลยไม่ปล่อยให้คนอื่นได้เห็นด้านมืดของเขา รอยยิ้มอบอุ่นที่อีกฝ่ายยิ้มให้เขา เสี่ยวหมี่โต้วก็ได้ยิ้มกลับไปด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสาเป็นเด็กๆตอบกลับไป

“คุณลุงสวัสดีครับ”

หลี่ซือห้านพบว่าเสียงเด็กน้อยเพราะจนน่าประหลาดใจ แล้วยังมีหน้าตาที่ดูดีมากอีกต่างหาก หน้าตาที่ดูดีนี้พอเห็นแล้วก็สามารถคาดเดาได้เลยว่าหน้าตาของพ่อแม่จะต้องไม่ธรรมดาแน่ ดังนั้นแล้วหลี่ซือห้านก็เลยมองไปรอบๆร้านอย่างสนอกสนใจขึ้นมา

เสี่ยวหมี่โต้วเห็นแล้ว ก็ถามออกไปด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้เป็นเด็กน้อย “คุณลุงกำลังหาอะไรอยู่ฮะ?”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลี่ซือห้านยิ้มออกมาเล็กน้อย ตอบกลับออกไป

“กำลังหาพ่อแม่ของเด็กน้อยอยู่ยังไงล่ะครับ หนูมากับพ่อหรือแม่กัน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่