คืนวิวาห์ไร้ใจ นิยาย บท 15

Chapter 15 ข้างกายที่ว่างเปล่า

เจ้าสาวหมาดๆ ทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ข้างหน้าต่างภายในห้องหอ แหงนใบหน้าหวานขึ้นมองดวงจันทร์กระจ่างที่กำลังเรืองรองอยู่บนผืนฝ้าสีดำอนธการ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงกระจ่างชัดจนดวงดาวน้อยใหญ่พากันหรี่แสงจางหายกลืนไปกับแสงจันทรา

ฉานอิงควรจะชื่นชมกับความงามของดวงจันทร์ ทว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกหวิวโหวงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก เพียงเพราะคืนนี้สามีของนางไม่กลับมานอนที่ห้องหออย่างนั้นหรือ

ดึกแล้ว... แต่กลับไร้เงาของคนตัวโตที่คอยกระเซ้าเย้าแหย่ให้นางโมโหแทบทุกชั่วยาม นางควรจะสบายใจที่ไม่ต้องเห็นเขาให้รกตารกใจ

แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น

หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ วางแขนพาดลงบนขอบหน้าต่างก่อนจะวางใบหน้าลงบนแขนอีกต่อหนึ่ง รับรู้ได้ถึงสายลมเย็นที่พัดกระทบใบหน้าและเรือนผมเป็นระยะ

เขาหายไปนับตั้งแต่ที่เขาทำตัวลามกบังคับตรวจร่างกาย มื้อเย็นที่ต้องร่วมรับประทานอาหารกับท่านลุงท่านป้าเขาก็ยังหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว

พอถามไถ่จากสาวใช้ในบ้าน ก็ตอบเหมือนกันหมดว่า ‘นายน้อยมักจะหายตัวไปในวันที่พระจันทร์เต็มดวงอยู่เสมอ นายน้อยไม่เคยบอกเหตุผลและไม่มีใครกล้าถาม เป็นเช่นนี้หลายปีจนทุกคนชินเสียแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยนายหญิงก็จะชินไปเอง’

เป็นคำตอบที่เหมือนโยนหินก้อนใหญ่ลงมา สร้างความหนักอึ้งให้กับหญิงสาวที่ต้องขบคิดหาสาเหตุ อีกทั้งเรื่องในอดีตและภาพความทรงจำของนางยังคงกวนใจไม่หาย

“เฮ้อ…”

บุตรสาวคนเดียวของสกุลอู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหลือบตามองไปที่บานประตูเป็นระยะ เงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่หวังว่าจะได้ยินแต่ก็เงียบกริบ

เงียบเสียจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงแมลงเล็กๆ นอกหน้าต่าง ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตนเองที่เต้นระส่ำระสายด้วยความกังวล

ท้ายที่สุดเมื่อแน่ใจว่า ‘เขา’ ไม่กลับมาแน่แล้ว นางจึงเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียง

ทว่าภาพใบหน้ายามยิ้มยียวน เสียงเป่าเหิงชุยที่เขาเกี้ยวพากลับดังก้องขึ้นในหัวใจจนนางมิอาจข่มตาหลับ นอนกระสับกระส่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วยาม ท้ายที่สุดนางจึงตัดสินใจคว้าผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ขึ้นมากระชับร่างแล้วเดินออกไปจากห้องหออย่างไร้จุดหมาย

เดินไปเรื่อยๆ พลางครุ่นคิดหลายเรื่องสับสนปนเป ก่อนจะหยุดพักนั่งเล่นในสวนแหงนมองเจ้าหิ่งห้อยตัวจ้อยส่งแสงพริบพราวหาคู่ ปล่อยให้หัวใจได้แกว่งไกวไปตามการเคลื่อนไหวของสรรพสิ่งรอบกายเพื่อที่จะได้ลืมความกังวลที่เกาะกุมหัวใจเอาไว้แนบแน่น

จนกระทั่งนางเห็นแสงสีทองเรืองรองขึ้นจากเส้นขอบฟ้า เริ่มหาวหวอดด้วยความง่วงงุน ดวงตาหนักอึ้งปรือต่ำ จึงตัดสินใจเดินกลับไปที่ห้องหอแล้วล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย

คล้ายว่าครึ่งหลับครึ่งตื่น ฉานอิงรับรู้ได้ว่าฟูกนอนข้างกายยวบยาบด้วยน้ำหนักของใครบางคน เขาขยับอย่างช้าๆ ค่อยทอดกายลงนอนข้างๆ นางราวกับไม่ต้องการให้นางตื่นจากการหลับใหล

หญิงสาวขยับตัวเข้าหาเขา พยายามเปิดเปลือกตาขึ้นแต่กลับหนักอึ้งเกินกว่าจะทำได้ จังหวะนั้นเองที่เจ้าของร่างใหญ่ดึงร่างนางเข้าไปกอดกระชับเอาไว้แนบแน่น

ใช่แล้ว...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คืนวิวาห์ไร้ใจ